
สาววัย 17 โร่แจ้งตร.หลังกดเงินตู้ ATM แล้วกินบัตร ทุบตู้พัง
โร่แจ้งตำรวจตู้เอทีเอ็มโดนทุบแตกสุดท้ายเป็นเด็กสาววัย17ปี รับสารภาพว่ามากดเงินให้ยายได้เงินไป 2,000 บาท แต่บัตรไม่ออกมา จึงใช้มือทุบแรงไปหน่อยทำให้เสียหายไม่ได้มีเจตนาอื่นเพียงต้องการบัตรเอทีเอ็มออกมาเท่านั้น
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 14 มี.ค. 2563 ร.ต.อ.วิทยา แสนโสดา รองสารวัตราอบสวน สภ.แสวงหา ได้รับแจ้งเหตุจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อบต.บ้านพราน ว่าพบตู้เอทีเอ็มของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านพราน หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านพราน อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง ถูกคนร้ายทุบที่บริเวณหน้ากากตู้เอทีเอ็มตรงจุดเสียบบัตรแตกเสียหาย หลังได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แสวงหา และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดอ่างทอง
ในที่เกิดเหตุพบตู้เอทีเอ็ม ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้า อบต.บ้านพราน ริมถนน ที่บริเวณหน้ากากตู้เอทีเอ็ม บริเวณช่องที่เสียบัตร มีรอยร้าวแตกยุบเสียหาย จากการสอบถามเบื้องต้น นาย อุเทน บุตรพรม อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อบต.บ้านพราน เล่าให้ฟังว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมามีเด็กหญิงผู้ต้องสงสัย ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง มากัน 2 คน และได้เข้าไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม แล้วเดินมาบอกกับตนเองว่าตู้เอทีเอ็มนั้นได้กินบัตรเอทีเอ็มไว้ในตู้ ก่อนที่จะขับขี่รถจักรยานยนต์หายไป จนมีชาวบ้านมาพบว่าตู้เอทีเอ็มได้รับความเสียหาย จึงทำการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเก็บรวบรวมหาพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอยู่ สักครู่ก็มี นางสาวเจนจิรา รอดจ้อย อายุ 17 ปี (นามสมตินางสาว เอ) อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านพราน ได้เดินทางมาในที่เกิดเหตุ พร้อมกับรับสารภาพกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมา แม่ของตนเองได้โอนเงิน จำนวน 2,000 บาท เข้ามาในบัญชีของยาย โดยให้ตนเองนำบัตรเอทีเอ็มมากดเงินที่ตู้ดังกล่าว หลังจากกดเงินออกมาแล้ว จำนวน 2,000 บาท แต่ตนเองไม่สามารถนำบัตรเอทีเอ็มออกมาได้ ตนเองกลัวว่าจะโดนยายว่า จึงทำการเคาะที่บริเวณที่ช่องเสียบัตรเอทีเอ็มไป 1 ที ทำให้แตกเสียหาย ด้วยความตกใจจึงไปบอกกับทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ อบต. แล้วกลับบ้านนำเงินไปให้กับทางลุงที่ขอยืม จำนวน 500 บาท และเหลืออยู่อีก 1,500 บาท ที่จะนำไปซื้อข้าวสารและให้ทางยายใช้จ่าย เมื่อทราบว่ามีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบว่าตู้เอทีเอ็มได้รับความเสียหาย จึงได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจและเล่าเรื่องราวความจริงให้รับทราบ โดยไม่ได้มีเจตนาอื่นนอกจากต้องการบัตรเอทีเอ็มไปคืนให้ยายเท่านั้น
ส่วนทางด้าน นาย ประเสริฐ ฉั่วกุล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาแสวงหา กล่าวว่า ตู้เอทีเอ็มที่บริเวณจุดดังกล่าวที่ได้รับความเสียหายนั้น ทางธนาคารได้ดำเนินมาติดตั้งได้เพียง 2 เดือน และผู้ใช้อาจจะไม่ชำนาญ โดยหากกดเงินเสร็จแล้วต้องหยิบบัตรออกก่อนภายใน 30 วินาที เพื่อเป็นมาตรฐานการป้องกัน หากเลยเวลาทางตู้เอทีเอ็มจะทำการดูดบัตรกลับเข้าไปด้านใน ซึ่งจะต้องไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มานำบัตรออกเท่านั้น เบื้องต้นได้ดำเนินการแจ้งความและให้ทางสำนักงานใหญ่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและทำการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป
ภาพ/ข่าว : ศุภเสกข์ แสงตระการ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.อ่างทอง