มือปืนมอบตัวแล้ว หลังเข้าใจผิดนึกว่าถูกด่า เผยไม่ได้หูเพี้ยน

                          จากกรณีที่ นายสุรินทร์ ชูบุญทอง หรือเตี้ย อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 256 หมู่ที่ 3 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูล จ.นครศรีธรรมราช ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยาว จ่อยิงนายเจษฎา ควนวิไล อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/3 หมู่ที่ 1 ต.บางด้วน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง อาชีพกรีดยางพารา เสียชีวิตหน้าบ้านพักไม่มีเลขที่ พื้นที่บ้านตระ หมู่ 2 ต.ปะเหลียน เหตุเกิดเวลาประมาณ  19.30 น. วันที่ 7 มี.ค.63 ที่ผ่านมา

                           จนกระทั่งมีการสอบปากคำ นางสุวดี สนหล๊ะ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/5 หมู่ที่ 1 ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ภรรยาผู้ตายซึ่งเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ ให้การว่าโดยอ้างว่า ผู้ต้องหาอยู่ในอาการเมาสุราแล้วเดินผ่านหน้าบ้านผู้ตาย ในขณะที่ผู้ตาย กำลังทะเลาะและด่าอยู่กับตนเอง ด้วยความมึนเมาผู้ต้องหาเดินผ่านได้ยินเข้าจึงเกิดโมโหหูเพี้ยนคิดว่าผู้ตาย ด่าผู้ต้องหาจึงกลับไปเอาปืนมายิงจนเสียชีวิตดังกล่าว หน้าบ้านผู้ตายซึ่งไม่มีเลขที่ เหตุเกิดเมื่อ ที่ผ่านมา

                     ความคืบหน้าวันนี้ 12 มีนาคม 2563 นายสานิตย์ ทองเส็ม หรือผู้ใหญ่บิว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านควนไม้ดำ ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และกำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านหนองเอื้อง ได้เดินทางลงไปพื้นที่ไปยังบ้านตระ เพื่อรับตัว นายสุรินทร์ บุญชูทอง หรือเตี้ย อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง เลขที่ 93/2563 ลงวันที่ 10 มี.ค.63 ก่อเหตุยิง นายเจษฎา หรือคุ่ย ควนวิไล หลังติดต่อขอมอบตัว เพื่อส่งมอบให้กับ พ.ต.อ.สมศักดิ์ สังข์น้อย ผกก. ร.ต.อ.เดชาพิสุทธิ์ ใจสมุทร รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านหนองเอื้อง ทำการสอบสวน

                    จากการสอบสวนในเบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าได้ลงมือก่อเหตุจริง โดยอ้างว่า ตนเองและผู้ตายเป็นเพื่อนบ้านที่สนิทกัน ก่อนเกิดเหตุตนเองได้เดินออกจากบ้านพร้อมด้วยอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนจะนำไปฝากไว้ที่บ้านเพื่อน แล้วไปช่วยทำถนนทางเข้าหมู่บ้านหลังจากมีการระดมกำลังพลชาวบ้านไปช่วยกัน หลังจากเสร็จสิ้นตนเองจึงได้ดื่มสุรากับเพื่อนคนงาน และกลับมาเอาปืนที่ฝากไว้ที่บ้านเพื่อน ก่อนจะเดินกลับบ้าน ระหว่างทางผ่านหน้าบ้านผู้ตาย จึงได้แวะเพื่อทวงเงินจากผู้ตายที่ติดค้างตนอยู่จำนวน 200 บาท ซึ่งในขณะนั้นผู้ตายได้ทะเลาะและมีปากเสียงอยู่กับภรรยาจริง แต่ผู้ตายกลับด่าบุพการีของตนจริง ตนจึงเดินหันหลังเพื่อจะเดินกลับบ้าน แต่ผู้ตายได้คว้ามีดพร้าพร้อมเดินมาหาตนและด่าทอตลอดเวลา จนกระทั่งตนเองได้ใช้ปลายกระบอกปืนที่ถืออยู่จ่อไปที่ท้องของผู้ตายเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ตายเข้ามาทำร้าย แต่ทันไดนั้นอาวุธปืนเกิดลั่น ตนเองด้วยความมึนเมาจึงได้หัวเราะจริง พร้อมกับหลบหนีไปในป่าเทือกเขาบรรทัด โดยได้ทิ้งอาวุธปืนไว้ และขอเข้ามอบตัว 

                        อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้อนุญาต” ก่อนจะมีการไปค้นหาของกลางอีกครั้ง โดยทางผู้ต้องหาปฎิเสธในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากหวาดกลัวว่าจะถูกทำร้ายหรือรุมประชาทัณฑ์ ก่อนจะนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

"คมชัดลึก ลึกยิ่งกว่าข่าว" ภาพ/ข่าว ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดตรัง