ข่าว

หุ้นไทยร่วงสูงสุดรอบ8ปีงัด"เซอร์กิตเบรกเกอร์"เอาไม่อยู่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นักลงทุนตื่นโควิด-19 เทขายหนักทำหุ้นดิ่งเหว ตลท.สุดต้านต้องประกาศเซอร์กิตเบรกเกอร์ ปิดที่ 134.98 จุด ต่ำสุดรอบเกือบ 8 ปี มูลค่าซื้อขายกว่าแสนล้านบาท "สมคิด" สั่งคลังลุยตั้งกองทุนพยุงหุ้น

          วันที่ 12 มีนาคม รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า ภาพรวมดัชนีหุ้นไทยยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยทันทีที่เปิดทำการซื้อขาย ดัชนีปรับตัวลดลงอย่างหนักกว่า 65.73 จุด หรือคิดเป็น 5.26% อยู่ที่ 1,184.16 จุด การซื้อขายช่วงเวลา 12.30 น. ดัชนีปิดอยู่ที่ 1,140.05 จุด ปรับลดลง -109.84 จุด หรือ -8.79% มูลค่าการซื้อ-ขายทั้งสิ้น 53,843.70 ล้านบาท

          หลังจากทำการซื้อขายในช่วงบ่าย พบว่า ดัชนียังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ถึง 125.05 จุด หรือ 10% อยู่ที่ 1,124.84 จุด ในเวลา 14.38 น. ส่งผลให้ ตลท.ต้องประกาศหยุดทำการซื้อขายเป็นการชั่วคราว (เซอร์กิตเบรกเกอร์) ระยะเวลา 30 นาที และกลับมาทำการซื้อขายต่อในเวลา 15.08 น.

 

 

 

 

          ทั้งนี้ในประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้น ตลท. เคยหยุดซื้อขายชั่วคราวอย่างเป็นทางการมาแล้ว 3 ครั้ง หลังจากมีมาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์มาเมื่อปี 2542 โดยมาตรการดังกล่าวถูกใช้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทยเมื่อปี 2549 ,2551 จำนวน 2 ครั้ง ซึ่งรวมครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 4

          สำหรับตลาดหลักทรัพย์วันนี้อยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน ปิดที่ระดับ 1,114.91 จุด ลดลง 134.98 จุด หรือร้อยละ 10.80 ต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปี มูลค่าการซื้อขาย 101,652.04 ล้านบาท

 

 

 

          นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการผู้จัดการ ตลท. ระบุถึงภาวะตลาดหุ้นวันที่ 12 มีนาคม ที่ตกลงไปกว่า 9% ว่า เป็นการร่วงลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก จากการที่ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงแรงหลังกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ฉุดให้ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงตาม ทั้งตลาดเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น รวมทั้งไทย พร้อมยืนยันจากการมอนิเตอร์ ยังไม่พบการซื้อ-ขายที่ผิดปกติ ส่วนดัชนีตลาดจะร่วงลงอีกหรือไม่ ยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างใกล้ชิด ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยหลักในขณะนี้

          อย่างไรก็ตามจากการที่ตลาดหุ้นไทยร่วงแรงกว่าตลาดอื่น โดยจากต้นปี 2563 ตลาดหุ้นไทยร่วงแล้ว 25-26% ขณะที่ตลาดส่วนใหญ่ร่วงลง 10% กว่า โดยตลาดหลักทรัพย์จะเชิญสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุนมาร่วมวิเคราะห์ถึงสาเหตุร่วมกัน ส่วนการใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์หรือมาตรการหยุดพักการซื้อขายชั่วคราว เมื่อหุ้นร่วงลง 10% นั้น ถือว่าเหมาะสมแล้ว และยังไม่จำเป็นต้องปรับลดลงมาที่ 7% ส่วนการเทขายของนักลงทุนต่างชาติขณะนี้ ถือว่าเป็นการปรับพอร์ตตามปกติ ซึ่งหากดัชนีหุ้นปรับตัวดีขึ้นก็เชื่อว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาทันที พร้อมมองว่าราคาหุ้นที่ร่วงลงมาในระดับนี้ ยังเป็นโอกาสของนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนเพื่อออมในระยะยาว

          ขณะที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง เร่งศึกษาแนวทางการจัดตั้งกองทุนสร้างเสถียรภาพตลาดทุน หรือ กองทุนพยุงหุ้น ซึ่งได้บอกกับกระทรวงการคลัง และตลท. ว่าแม้ขณะพื้นฐานตลาดหุ้นไทยจะดี แต่สถานการณ์เศรษฐกิจไม่ปกติ รุนแรงมาก จากการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยเฉพาะกรณีสหรัฐมีคำสั่งห้ามบางประเทศ เช่น กลุ่มอียู เดินทางเข้าสหรัฐ ซึ่งส่งผลกระทบมาก และส่งผลต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นทั่วโลก

          ทั้งนี้ จะต้องศึกษาแนวทางการจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้นว่าจะออกมาในรูปแบบใด เพราะไม่ได้เป็นเรื่องง่ายเหมือนสมัยก่อนที่มีการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ โดยได้ให้ นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ไปเร่งศึกษาแนวทางที่เหมาะสม ส่วนขนาดของกองทุนจะเป็นเท่าใด ให้ไปดูให้เหมาะสม ในระยะยาวจะจะต้องมีกำไร และทำให้ตลาดทุนมั่นใจว่า รัฐบาล กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พร้อมจะดูแล

          นายสมคิด กล่าวว่า ได้หารือกับกระทรวงการคลัง อีก 2 ประเด็น คือ 1.การเตรียมมาตรการชุดที่ 2 ดูแลผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยจะเน้นไปที่กลุ่มประชาชนที่ได้รับผลกระทบ อาชีพอิสระ รายได้ประจำ ซึ่งได้ให้การบ้านทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องไปเตรียมมาตรการครบทุกกลุ่ม เพิ่มเติมจากชุดที่ 1 ที่ได้ดูแลผู้ประกอบการ ภาคธุรกิจให้ชะลอการเลิกจ้างงานไปแล้ว

          2.ให้กระทรวงการคลังเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ซึ่งมองว่าในช่วงดังกล่าว จำเป็นต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ให้กระทรวงการคลังเตรียมวงเงิน และมาตรการไว้ เมื่อถึงเวลาต้องใช้ ก็เตรียมไว้พร้อมใช้ทันที ซึ่งยอมรับว่าเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะหนักหนาพอสมควร

          ส่วนนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า ได้รับรายงานจากผู้จัดการ ตลท. ว่าหุ้นไทยตกมากวันนี้ เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยมีสาเหตุมาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่องค์การอนามัยโลก (ฮู) ประกาศว่าเป็นโรคระบาดแพร่หลายกว้างขวาง เป็นเหตุให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตกหนัก

          “กระทรวงการคลังก็ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เชื่อว่าตลาดหุ้นและพื้่นฐานเศรษฐกิจของไทยมีพื้นฐานเข้มแข็ง ในส่วนของมาตรการดูแลตลาดหุ้นไทยจะมีการพิจารณาต่อเนื่อง หากมีความจำเป็นกระทรวงการคลังจะเสนอนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกมาตรการเพิ่มเพื่อดูแลตลาดหุ้นทันที” นายอุตตมกล่าว

 

 

 

 

 

          รมว.คลัง กล่าวอีกว่า กระทรวงการคลังไม่มีแนวคิดที่จะลดภาษีเพื่อกระตุ้นการลงทุนในตลาดหุ้น ต้องติดตามสถานการณ์ก่อน มาตรการที่ออกมาต้องเหมาะสมกับเหตุการณ์ ที่ผ่านมาหุ้นตก 2-3 วัน ก็กลับมาปรับตัวขึ้นได้ เข้าใจว่านักลงทุนกังวลโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งบางครั้งอาจจะกังวลเกินเหตุ แม้ว่าตลาดหุ้นยังมีพื้นฐานแข็งแกร่ง ที่ผ่านมาการเกิดเหตุการณ์หลายครั้ง ดัชนีหุ้นก็ยังปรับขึ้นมาได้

          “กระทรวงการคลังไม่มีแนวคิดลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) กระตุ้นเศรษฐกิจเหมือนประเทศญี่ปุ่นที่พิจารณาลดภาษีแวตเหลือ 0% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 อย่างรุนแรง” นายอุตตมกล่าวทิ้งท้าย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ