คำถามที่ดังเซ็งแซ่ตอนนี้ก็คือ สถานการณ์การระบาดของไวรัสโรคโควิด-19 ในประเทศไทย เข้าระยะสามแล้วหรือยัง หลังจากในระยะ 3 วันมานี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มรายวัน
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวระหว่างแถลงความคืบหน้าสถานการณ์ไวรัสโรคโควิด-19 ที่กระทรวงสาธารณสุข วันนี้ ( 12 มี.ค.) ยืนยันว่า ไทยยังอยู่ในระยะที่สอง แม้ว่าล่าสุด พบการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน ( cluster ) ครั้งแรก 11 ราย แต่ยังสืบหาได้ว่า ติดจากใคร ซึ่งคือคนต่างชาติ และติดต่อช่องทางไหน คำตอบคือใช้ของร่วมกัน ยังไม่มีการติดเชื้อแบบหลุดออกนอกวงหรือติดไปถึงคนที่ไม่มีความสัมพันธ์กัน
นิยาม ระยะสาม ก็คือ พบการติดเชื้อลักษณะนี้เรื่อยๆ กระจายออกไปในหลายพื้นที่ แต่จะเริ่มหาไม่ได้ว่า ติดจากใคร หาความสัมพันธ์ไม่ได้ กระนั้น การเรียกระยะ 3 ไม่ได้หมายความถึงเชิงปริมาณ อาจหมายถึงพบการติดเชื้อเป็นหย่อมๆก็ได้ อย่าเข้าใจหรือตกใจว่าสถานการณ์จะเหมือนกับบางประเทศ เช่น จีน เกาหลีใต้ หรืออิตาลี ที่พบการติดเชื้อจำนวนมาก
สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขพยายามทำในเวลานี้ การเตรียมทรัพยากร ทั้งบุคลากรสาธารณสุขและเครื่องมือเวชภัณฑ์ รองรับให้มากที่สุด และให้ประชาชนได้มีเวลาปรับตัวในการป้องกันตัวเอง และสังคมก็ต้องมีสำนึกร่วมกัน เพื่อยืดเวลาในระยะที่สองออกไปให้นานที่สุด
ซึ่งการป้องกันและชะลอเฟส 3 ได้ ยังคงเป็นมาตรการกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ล้างมือ ไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น เมื่อเจ็บป่วยต้องพักอยู่กับบ้าน ลดความเสี่ยงของผู้อื่นและสังคม
ส่วนเหตุที่ไทยเริ่มพบผู้ติดเชื้อมากขึ้นหลังจากที่หยุดนิ่งมาระยะหนึ่งนั้น นายแพทย์สุวรรณชัย อธิบายว่า เป็นเพราะในช่วงแรก ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน และไทยเป็นประเทศแรกที่ค้นหาและคัดกรองนอกจีน จึงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในช่วงนั้น แต่เมื่อจีนปิดประเทศ นักท่องเที่ยวจีนน้อยลงและทยอยกลับ จำนวนผู้ติดเชื้อก็ชะลอลงสัมพันธ์กับมาตรการของจีน จนนิ่งสักระยะหนึ่ง
ต่อมา ประเทศอื่นเริ่มพบการระบาด เช่น เกาหลีใต้และญี่ปุ่น ปัจจัยสำคัญก็คือคนไทยส่วนหนึ่งเดินทางไปประเทศเหล่านี้กลับมา ประกอบกับนักท่องเที่ยวอีกส่วนที่ยังเดินทางเข้ามา และมีคนไทยไปสัมผัสโดยไม่ระวังตัว ถึงอย่างนั้น การติดเชื้อที่พบ ยังมีตัวการสัมผัส และติดต่อที่ชัดเจน และยังคงอยู่ในวงจำกัด รวมถึงกลุ่มก้อน 11 คน ที่มีกิจกรรมและวิธีติดต่อชัดเจน
ณ วันนี้ 12 มี.ค. สถานการณ์โรคโควิด-19 ในไทย อยู่อันดับ 37 ของโลก มีผู้ป่วยสะสม 70 ราย กลับบ้านได้ 35 ราย ยังรักษาตัวที่รพ. 34 ราย เสียชีวิต 1 ราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง