ออสซี่เจอป่วย "โควิด-19" บินจากไทย ห้ามเรือหรูอิตาลีเทียบท่า

 

               “ออสซี่” พบผู้ติดเชื้อ “โควิด-19” เดินทางจากไทย เร่งตามหาผู้โดยสารนั่งใกล้กัน ขณะที่เรือสำราญสัญชาติอิตาลี 2 พันคนถูก “ไทย-มาเลย์” ปฏิเสธเทียบท่า ส่วนโรงแรมในจีนใช้กักกันผู้ป่วยไวรัสเกิดถล่มมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย ขณะที่ “อิตาลี” ลามไม่หยุด ป่วย 5,883 ตาย 233 สั่งปิดเมือง-กักกันหลายพื้นที่ภาคเหนือ ด้านจีนมีสัญญาณดีขึ้นหลังผู้ป่วยมณฑลหูเป่ยแหล่งระบาดมีแนวโน้มลดลง

 

อ่านข่าว ด่วน ออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เดินทางด้วยสายการบินไทย

 

               เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในออสเตรเลียว่า ขณะนี้ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อรวม 60 ราย เพิ่มขึ้น 6 ราย โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์เพิ่มขึ้น 3 ราย ทั้งหมดติดเชื้อจากผู้ป่วยในออสเตรเลีย ส่วนผู้ติดเชื้อใหม่ 1 รายเป็นนักเรียน ซึ่งผู้ปกครองทำงานอยู่ในโรงพยาบาลที่มีแพทย์เป็นผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ ส่วนผู้ติดเชื้อใหม่อีก 2 รายเป็นผู้สูงอายุ และเจ้าหน้าที่ของศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ 

 

               ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อที่มีความเกี่ยวข้องกับศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดังกล่าว รวม 6 คน เป็นเจ้าหน้าที่ 2 คน และผู้สูงอายุ 4 คน โดยผู้สูงอายุเสียชีวิต 1 คน ขณะที่ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 1 ราย ซึ่งเป็นผู้โดยสารเดินทางมาจากอังกฤษ ผ่านสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่รัฐควีนส์แลนด์พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2 ราย เป็นผู้โดยสารที่เดินทางมาอังกฤษผ่านสิงคโปร์ 1 ราย และเป็นผู้โดยสารชายวัย 81 ปี ที่เดินทางมาจากไทย 1 ราย

 

               ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ได้ประสานสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ นครบริสเบน เพื่อตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากไทย ได้รับแจ้งว่า ผู้ติดเชื้อดังกล่าวเดินทางเข้าออสเตรเลียโดยสายการบินไทย เส้นทางกรุงเทพฯ–บริสเบน

 

               ด้านเรืออากาศเอกปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคง และมาตรฐานการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อ 1 คน มีประวัติการเดินทางในเที่ยวบินทีจี 473 กรุงเทพฯ-บริสเบน เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ซึ่งบริษัทได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการป้องกันแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด โดยให้ความร่วมมือส่งมอบข้อมูลของผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าวตามที่ทางการออสเตรเลียร้องขอ

 

               มีรายงานข่าวแจ้งว่า ผู้โดยสารที่ตรวจพบว่าติดเชื้อไม่ใช่ผู้โดยสารชาวไทย และออสเตรเลียได้ขอรายชื่อและที่อยู่ผู้โดยสารที่นั่งบริเวณแถวหน้า แถวหลัง และแถวเดียวกับผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าวด้วยเพื่อนำไปติดตามเฝ้าระวังแล้ว ส่วนกรณีการดูแลลูกเรือของการบินไทยในเที่ยวบินนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ จนถึงวันนี้(8 มี.ค.) ครบ 9 วันแล้ว แต่ยังไม่พบว่าลูกเรือมีอาการผิดปกติ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นสายการบินได้แจ้งไปยังด่านควบคุมโรคของไทยเพื่อรอคำสั่งว่าจะให้ดำเนินการตามขั้นตอนต้องกักโรค 14 วัน หรือต้องไปตรวจหรือไม่อย่างไร

 

               สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการควีนส์แลนด์เร่งติดต่อผู้โดยสารของสองเที่ยวบิน ที่เดินทางมากับสายการบินไทย และสายการบินแควนตัส เพราะเกรงว่าจะมีผู้โดยสารอื่นติดเชื้อเพิ่ม หลังพบผู้ติดเชื้อเป็นชายอายุ 81 ปี เดินทางจากประเทศไทยมายังเมืองบริสเบน เมื่อพบว่าติดเชื้อชายคนนี้ได้กักตัวเองอยู่ในบ้านเพื่อเฝ้าสังเกตอาการแล้ว ขณะที่สายการบินแควนตัส เที่ยวบิน QF2 บินจากกรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ เพื่อไปยังสิงคโปร์ และออกจากสิงคโปร์ด้วยเที่ยวบิน QF52 มาถึงเมืองบริสเบน เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 

 

               พบผู้ติดเชื้อที่บินมากับเที่ยวบินนี้เป็นหญิงอายุ 29 ปี ได้รับการกักตัวดูอาการแล้ว โดยทางการได้ติดต่อผู้โดยสารโดยเฉพาะผู้ที่นั่ง 2 แถวหน้าและ 2 แถวหลัง และด้านข้างทั้งสองข้างของผู้ติดเชื้อแล้ว นอกจากนี้ล่าสุดรัฐควีนส์แลนด์พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 คน เป็นหญิงยิปซี อายุ 38 ปี เดินทางมาจากลอนดอน แวะเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ ส่งผลให้ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อ 15 คน ในจำนวนนี้ 3 คน ติดเชื้อบนเรือสำราญไดมอนด์ปริ๊นเซส

 

               สำนักข่าวต่างประเทศรายงานด้วยว่า บริษัทคอสตา ครูเชียเร ผู้ดำเนินการเรือ “คอสตา ฟอร์ทูนา” สัญชาติอิตาลี ระบุว่า เรือคอสตา ฟอร์ทูนา ที่มีผู้โดยสารและลูกเรือประมาณ 2,000 คน ถูกปฏิเสธเข้าเทียบท่าที่ จ.ภูเก็ต แม้ไม่มีผู้ต้องสงสัยป่วยโควิด-19 บนเรือเลยก็ตาม แต่ทางการไทยออกกฎเข้มงวดกับชาวอิตาลีที่แวะเปลี่ยนเรือในอิตาลีในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ขณะที่ นายพี บุน โปห์ นักการเมืองมาเลเซีย เผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่าเรือสำราญลำนี้พยายามเข้าเทียบท่าในรัฐปีนังทางเหนือของมาเลเซีย แต่ถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธ การตัดสินใจนี้มีขึ้นขณะที่รัฐบาลมาเลเซียตัดสินใจจำกัดการเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือทั่วประเทศสำหรับเรือสำราญทุกลำซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว ทั้งนี้ทางการมาเลเซียระบุว่าเรือลำดังกล่าวมีชาวอิตาลี 64 คน

 

               สำหรับสถานการณ์ในอิตาลี หนังสือพิมพ์ คอร์รีเร เดลลา เซรา และสื่อหลายสำนักในอิตาลี รายงานว่า รัฐบาลอิตาลีกำลังพิจารณาออกมาตรการกักกันเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ ครอบคลุมแคว้นลอมบาร์ดี ซึ่งมีนครมิลานเป็นเมืองหลวง ตลอดจนพื้นที่โดยรอบรวมถึงเมืองเวนิส และโมเดนา โดยจะเข้มงวดการเข้า-ออกและชุมนุม เช่นเดียวกับประชาชนใน 11 จังหวัดใน 4 แคว้นของอิตาลี ที่มีประชากรรวมกันทั้งหมด 16 ล้านคน ในส่วนพื้นที่อื่นที่คาดว่าจะอยู่ใต้มาตรการเดียวกัน รวมถึงจังหวัดอาเลสซานเดรีย อัสตี ปาดัว ปาร์มา ปีอาเซนซา เปซาโร อูร์บีโน เรจจิโอ เอมิเลีย ริมินี เทรวีโซ

 

               ทั้งนี้ ตามแผนการเดินทางผ่านเข้า-ออกเขตกักกันจะอนุญาตเฉพาะในกรณีร้ายแรง ขอให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน หลีกเลี่ยงการเดินทางภายในพื้นที่ระบาด ภาคธุรกิจคาดว่าจะปรับให้พนักงานทำงานจากบ้าน โรงเรียนทุกแห่ง พิพิธภัณฑ์ ไนต์คลับ โรงยิม และสระว่ายน้ำจะปิดทั้งหมด รวมถึงพิธีกรรมทางศาสนาและพลเรือน รวมถึงงานศพก็ให้ชะลอไว้ก่อน เช่นเดียวกับบาร์ ร้านอาหาร อนุญาตให้เปิดในกรณีที่สามารถจัดการให้ลูกค้าอยู่ในระยะห่างกันได้ 1 เมตร โดยมาตรการทั้งหมดนี้ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกปรับและจำคุกสูงสุด 3 เดือน โดยแผนการปิดเมืองมีขึ้นหลังจากอิตาลีพบผู้ติดเชื้อกว่า 1,200 คนใน 24 ชม. มากที่สุดในวันเดียวตั้งแต่พบเชื้อครั้งแรกเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ยอดติดเชื้อถึงวันที่ 7 มีนาคม อยู่ที่ 5,883 ราย ยอดเสียชีวิต 233 ราย

 

               วันเดียวกัน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กระทรวงบริหารจัดการภาวะฉุกเฉินของจีน แจ้งว่าเหตุโรงแรมในเมืองฉวนโจว มณฑลฝูเจี้ยน ที่ใช้กักกันผู้ป่วยโควิด-19 พังถล่มลงมาเมื่อคืนนี้ ยืนยันผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยออกมาได้ 38 คน ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 5 ราย จากที่มีรายงานเบื้องต้นว่ามีผู้ติดอยู่ใต้ซากอาคาร 71 คน สำหรับโรงแรมที่เกิดเหตุชื่อโรงแรมซินเจีย มีความสูง 5 ชั้น มีห้องพักทั้งหมด 80 ห้อง

 

               ขณะที่คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติจีน (เอ็นเอชซี) รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตทั่วประเทศจีนเพิ่มขึ้นเป็น 3,097 คน หลังจากพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 27 คน ขณะที่ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 44 คน ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองอู่ฮั่น ทำให้ยอดผู้ป่วยรวมเพิ่มเป็นกว่า 80,600 คน นอกจากนี้เอ็นเอชซี เผยว่า ผู้ป่วย 3 คนที่ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ ล้วนอยู่นอกมณฑลหูเป่ยซึ่งมีอู่ฮั่นเป็นเมืองเอก ได้แก่ กรุงปักกิ่งและมณฑลกานซู จำนวนผู้ป่วยรายใหม่จากมณฑลหูเป่ยมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จนมาอยู่ที่ 41 คน ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำที่สุดนับตั้งแต่รัฐบาลออกมาตรการปิดเมืองกักกันโรคช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา