ตรวจสอบละเอียด มือโซโล่กีต้าร์ แจ้งเจ็บหน้าอกก่อนดับปริศนา

วันที่ 6 มีนาคม 2563  เวลา 11.30 น. ร.ต.อ.ชินาธิป บัวเข็ม รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองได้รับแจ้ง เกิดเหตุมีชายนอนเสียชีวิตอยู่ภายในร้านอาหารมีชื่อแห่งหนึ่ง  ชุมชนหนองนาเกลือ ถ.เลี่ยงเมืองอุดร-หนองบัวลำภู ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนคอุดรธานี จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ต.พิเชษฐ ปักเคธาติ สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ,แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี  และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งเสริมธรรมสถาน  รุดไปตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุพบศพ นายเทวินทร์ นาคดี อายุ 43 ปี ชาว ต.คูคต อ.ลำลุกกา จ.ประทุมธานี มือกีตาร์โซโล่วงสามสลึง นอนหงายเสียชีวิตอยู่พื้นข้างเก้าอี้ ภายในร้านอาหาร สภาพศพสวมเสื้อยืดคอกลมแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวที่ปลายเท้าพบรองเท้าผ้าใบสีดำของผู้ตาย 1 คู่  ที่ขาด้านขวาได้สวมรองเท้าเข้าไปแล้ว  แต่ขาด้านซ้ายยังสวมรองเท้า

จากสอบสวน นายวีระศักดิ์ พันธุ์ชิน อายุ 45 ปี ชาว ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี พนักงานบาร์น้ำ ให้การว่า วันนี้เวลาประมาณ 11.10 น. ขณะที่ตนกำลังเก็บแก้วถ้วยจานไปล้าง พร้อมกับทำความสะอาดโต๊ะเก้าอี้และเก็บกวาดร้าน เห็นผู้ตายนอนหงายแน่นิ่งอยู่ที่พื้น จึงรีบเข้าไปดูพบว่าไม่หายใจและเสียชีวิตแล้ว จึงโทรศัพท์บอกเจ้าของร้านอาหาร และหัวหน้าวงดนตรี ช่วยแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

นายกิตติพัฒน์ สุขเกษม อายุ 48 ปี หัวหน้าวงสามสลึง ชาว ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ให้การว่า ผู้ตายเป็นคนนิสัยดีมาก และเป็นมือกีตาร์โซโล่ฝีมือขั้นเทพคนหนึ่งที่ เล่นดนตรีได้ทุกแนวตามยุคสมัย และไม่เคยทิ้งแนวเพลงเพื่อชีวิตที่ผู้ตายชื่นชอบ โดยเช้าวันนี้เวลา 09.30 น. ผู้ตายได้ส่งข้อความมาทางไลน์บอกว่าขอลางานกับตนว่าจะไปหาหมอ เพราะมีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ค่อยออก ก่อนที่พนักงานบาร์น้ำจะโทรศัพท์มาแจ้งว่าผู้ตายเสียชีวิตในเวลาต่อมา

นายนรินทร์ ศีรษะ อายุ 47 ปี เจ้าของร้านอาหารให้การทั้งน้ำตาว่า ผู้ตายกับตนเองรักกันเหมือนญาติพี่น้อง ผู้ตายเป็นคนนิสัยดีและไม่ค่อยพูด มีโรคประจำตัวคือโรคลมชัก แต่ก็เข้ารักษาจนอาการดีขึ้นมากแล้ว จนสามารถเล่นดนตรีได้ตามปกติ เมื่อก่อนผู้ตายดื่มเหล้าหนักทุกวัน จนล้มป่วยและแพทย์สั่งห้ามไม่ให้ดื่มเหล้า แต่ผู้ตายจึงหันมาดื่มเบียร์แทน ในระยะแรกก็ดื่มไม่หนัก แต่ระยะหลังเริ่มดื่มหนักขึ้นทุกวัน เมื่อคืนก็ยังนั่งดื่มเบียร์กันหลังจากปิดร้านช่วงเที่ยงคืน ก็ยังเตือนผู้ตายว่าให้ดื่มน้อยลง ก่อนที่จะพากันแยกย้ายกลับบ้าน ส่วนผู้ตายจะนอนเฝ้าทรัพย์สินในร้านอาหารทุกคืนรวม15 ปี

โดยรู้จักกับผู้ตายมา 20 ปี รักผู้ตายเหมือนน้องชายคลานตามกันมา พนักงานในร้านและเพื่อนร่วมวง รวมถึงครอบครัวของตนก็รักและเคารพผู้ตายทุกคน เพราะเขาเป็นคนนิสัยดีมีน้ำใจ และไม่เคยเอาเอาเปรียบใคร รู้สึกเสียใจมากที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ ที่ต้องสูญเสียผู้ตายโดยไม่มีวันหวนกลับและได้สั่งลากันแม้แต่คำเดียว

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับแพทย์  ทำการตรวจสอบตามร่างกายและรอบบริเวณ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้และถูกทำร้าย เสียชีวิตจากอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันมาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขณะนั่งอยู่บนเก้าอี้เพื่อสวมรองเท้า ตำรวจจึงให้มูลนิธิ ฯ นำศพไป ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรฯ เพื่อทำการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง แล้วให้เจ้าของร้านอาหารทำการติดต่อญาติของผู้ตาย  เดินทางมารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

นายกฤษดา  จันทร์ดวงผู้สื่อข่าว  ภูมิภาค จ.อุดรธานี คมชึดลึก