ชาวบ้านผวาเจอมือมืดใช้ปืน วางเป็นกับดักตามเส้นทางสัญจร

 

วันที่ 3 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพปืนยาวแบบไทยประดิษฐ์ ที่ถูกผูกไว้กับต้นไม้พร้อมทั้งใช้เชือกผูกกับไกปืนแล้วโยงขวางถนนไว้ พร้อมข้อความว่า “#เตือนภัย น่ากลัว....ใช้เชือกเหนี่ยวไกปืน ผูกขวางถนนไว้ ใครมาชนเชือก ปืนก็จะลั่นใส่ #ไม่เลวจริงคิดไม่ได้ เล่นกันแรงครับแบบนี้ใครโดน ตายฟรีเลยนะครับ พิกัด บ้านท่าอิบุญ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ดีที่ปืนลั่นไม่โดนคน #ฝากเจ้าหน้าที่ด้วยค่ะ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณทางสาธารณหมู่ที่ 2 ต.ท่าอิบุญ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ต่อมามีผู้แชร์ไปเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งก่นด่าผู้ที่ทำอย่างนี้อาจจะทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตได้

 

 

 

 

ต่อมาเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.นิคม พรหมพิราม ผกก.สภ.บ้านติ้ว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านติ้ว ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าจุดดังกล่าวเป็นถนนลูกรังสำหรับชาวบ้านใช้ไปไร่-นา และสวนมะขามหวาน จากการตรวจสอบพบร่องรอยการใช้ปืนผูกติดกับเสาไม้ไผ่เล็ก ๆ และผูกติดกับต้นไม้ข้างทาง หากมีการสะดุดเชือกและกลไกปืนทำงานและหากเป็นคนเดินกระสุนจะเข้าตั้งแต่หน้าท้องลงมา แต่ถ้าหากขี่รถจักรยานยนต์ก็จะเข้าประมาณหน้าอกพอดี ในกรณีผู้ประสบเหตุการณ์คนแรกที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านจุดแรกและกลไกปืนทำงาน ถือว่าโชคดีอย่างมากที่กระสุนปืนไม่โดน ส่วนจุดที่สองผู้ประสบเหตุคือนายสิงห์ได้สังเกตเห็นเสียก่อน และในจุดที่สามอาจจะมีวัวหรือสัตว์เลี้ยงไปเตะเชือกจนขาดแต่ปืนไม่ทำงานจึงไม่มีความสูญเสียเกิดขึ้น

 

 

                      นางบัวลอย แดงนวล อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 2 ต.ท่าอิบุญ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่านายสิงห์ แดงนวล อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นสามีของตนเองเป็นผู้พบเป็นคนแรกในช่วงเวลาประมาณ 08.00 น.วันที่ 1 มี.ค.2563 ขณะที่นายแดงกำลังขี่รถจักรยานยนต์เพื่อที่จะไปขุดจอมปลวกเพื่อนำมาให้ไก่กิน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงดังคล้ายคนจุดประทัด แต่ไม่ได้ติดอะไร กระทั่งเลยมาอีกประมาณ 50 เมตร ได้สังเกตเห็นเชือกขึงขวางถนนไว้ เกิดความสงสัยจึงได้จอดรถแล้วเดินลงมาดูก็พบว่าเป็นเชือกที่ผูกไว้กับไกปืน จึงรีบกลับมาแจ้งให้กำนันทราบและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบและตรวจสอบ

 

 

 

 

 

นางบัวลอย แดงนวล เปิดเผยอีกว่าตนและสามีไม่เคยมีเรื่องบาดหมางหรือทะเลาะกับใครและเส้นทางนี้แทบจะไม่ได้ผ่านมากว่า 1 เดือนแล้ว จึงเป็นไปไม่ให้ที่จะเป็นการปองร้ายสามีตนเอง และอีกอย่างเส้นทางดังกล่าวจะเป็นเส้นทางลัดที่ชาวบ้านใช้ไปไร่ ไปนาและสวนมะขามหวาน จึงไม่ทราบว่าผู้ที่กระทำมีความประสงค์ร้ายกับใคร จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวบ้านมีความหวาดระแวงแทบจะไม่มีใครผ่านเส้นทางนี้เลย

 

ด้าน พ.ต.อ.นิคม พรหมพิราม ผกก.สภ.บ้านติ้วกล่าวว่าจากการตรวจสอบพบว่าการกระทำดังกล่าวมีอยู่ด้วยกัน 3 จุด อยู่ในเส้นทางเดียวกันโดยจุดแรกกับจุดที่สองห่างกันประมาณ 50 เมตร ส่วนจุดที่สามห่างออกไปประมาณ 300 เมตร อย่างไรก็ตามตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเส้นทางต่าง ๆ ในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว แต่ก็ไม่พบเพิ่มเติมแต่อย่างใด

 

 

 

สำหรับสาเหตุและแรงจูงใจในการทำนั้นยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเป็นทางสาธารณะไม่สามารถที่จะกำหนดเป้าหมายได้ชัดเจน แต่ทั้งนี้คาดว่าอาจจะกระทำเพื่อเป็นการขู่บุคคลหรือชาวบ้านที่อาจจะมาสร้างความรำคาญให้ผู้ก่อเหตุก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามตนได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว ชัยวัฒน์ ปานนิล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เพชรบูรณ์ รายงาน