รพ.ท่าศาลามี นศ.สาว กลับมาจากประเทศเสี่ยง รอผลตรวจยืนยัน

 

 

 

 

 

 

 

      วันที่ 3 มี.ค. 2563  ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีกระแสเล่าลือกันว่า รพ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโควิท-19 “ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของประชาชนและเจ้าหน้าที่ ผู้สื่อข่าวจึงโทรศัพท์สอบถามไปยัง ผอ.รพ.ท่าศาลา แต่ไม่รับสายในขณะที่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอมเปิดเผยข้อเท็จจริงใด ๆ

 

            ในขณะที่เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (3 มี.ค.) นายศิริพัฒ  พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปยังท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ต้อนรับนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่มีกำหนดเดินทางมาตรวจสอบกรณีก้อนน้ำมันลอยมาติดชายหาด อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช จำนวนมาก โดยรัฐมนตรีว่ากระทรวงพลังงานพร้อมคณะจะเดินทางลงพื้นที่รวมมั้งเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์จากศูนย์การบินของบริษัทเซฟร่อน ฯ ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อตรวจสอบแท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัทเซฟร่อนในเช้าวันพรุ่งนี้

 

 

     

 

 

 

 

 

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่าเรื่อง รพ.ท่าศาลา รับผู้ป่วยต้องสงสัยติดเอไวรัสโควิท 19 จำนวน 1 คนนั้นเป็นเรื่องจริง ซึ่งตนได้รับรายงานแล้ว แต่ในเบื้องต้นเป็นเพียงแค่ผู้ต้องสงสัย ยังไม่ชัดเจนว่าติดเชื้อไวรัสโควิท 19 จริงหรือไม่ หลังทาง รพ.ท่าศาลา ได้ส่งผู้ป่วยรายดังกล่าวไปเขารับการตรวจให้แน่ชัดที่  รพ.จุฬาแล้ว ซึ่งต้องรอผลตรวจที่แน่ชัดต่อไป อย่างก็ตามในสวนของ รพ.ท่าศาลา นั้นตนได้กำชับให้มีการควบคุมตามวิธีการและขั้นตอนที่ สธ.กำหนดอย่างเคร่งครัด และดำเนินการควบคุมในทุกรูปแบบ และอย่าตื่นตนกตกใจเกินไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ในวันพรุ่งนี้ (4 มีนาคม 2563 ) ตนจิเดินทางไปยัง รพ.ท่าศาลา เพื่อตรวจสอบและกำชับให้ทาง รพ.ดำเนินการควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิท 19 อย่างเข้มงวดกวดขันในทุกมิติ แม้ว่าจะยังไม่ทราบผลที่แน่ชัดจาก รพ.จุฬาก็ตาม แต่เมื่อผู้ป่วยรายนี้อยู่ในข่ายต้องสงสัยก็ถือว่าอยู่ในข่ายที่ต้องเฝาระวังควบคุมตามาตรการอย่างเข้มข้น  สำหรับผู้ป่วยรายนี้เป็นผู้หญิง โดยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเดินทางมาจากประเทศกลุ่มสี่ยง  ตอนนี้ยังรักษาตัวและรอดูอาการที่ รพ.จุฬา และเราต้องรอผลการตรวจที่ชัดเจนคาดว่าจะทราบผลในเร็ว ๆ นี้นายศิริพัฒ  พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวย้ำในที่สุด.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว  ยุทธนะ  เตมะศิริ ผู้สื่อข่าวคมชัดลึกประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช