แรงงานอุดรฯกลัวไม่มีงานทำ เข้าอบรมเตรียมไปทำงานเกาหลีไม่กลัวCOVID-19

 

 

                    วันที่ 3 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี  กรณีที่แรงงานไทยที่ไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ แบบลักลอบไปทำงาน หรือ ผีน้อย ขอเดินทางกลับบ้าน เพราะเป็นห่วงเรื่องโรค COVID-19 ซึ่งมีบางส่วนได้เดินทางกลับมาประเทศไทยแล้ว แต่ไม่ทราบว่ามีผีน้อยในส่วนของ จ.อุดรธานี อยู่ด้วยหรือไม่

ว่าที่ ร.ต.อนุเทพ ศรีดาวเรือง จัดหางาน จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ในส่วนของ จ.อุดรธานี ตัวเลขผีน้อยที่ลักลอบไปทำงานที่ประเทศเกาหลี ทางเราไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน แต่ทราบตัวเลขภาพรวมของประเทศมีอยู่ประมาณ 140,000 คน ซึ่งเรื่องแรงงานผีน้อย ทางรัฐบาลไทยและรัฐบาลเกาหลี ได้มีการพูดคุยกันเพื่อแก้ปัญหามาโดยตลอด ก่อนที่จะมีการระบาดของโรค COVID-19 ว่า ถ้ามีผีน้อยที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย ให้มาแจ้งความจำนงที่ ตม.ของเกาหลี จะถือว่าไม่เป็นความผิด และสามารถจะกลับเข้าไปทำงานได้แบบถูกกฎหมาย แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ จนกระทั่งมาเกิดการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 จึงหลั่งไหลมาแจ้งขอเดินทางกลับ ส่วนตัวเลขผีน้อยในแต่ละจังหวัด เราจะไม่ทราบ ทราบแต่มีแรงงานไทยที่มารายงานตัวกับทาง ตม.เกาหลี รวมประมาณ 5,000 คน และไม่ทราบว่ามีจังหวัดไหนกี่คน เพราะไม่เป็นที่ชัดเจน

ส่วนที่ยังมีแรงงานไทย เตรียมจะบินไปทำงานที่เกาหลีแบบถูกกฎหมายนั้น ขณะนี้สถานการณ์การจัดส่งแรงงานไปที่เกาหลี โดยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยเกาหลี ยังคงมีอยู่เป็นปกติเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าในขั้นตอนสุดท้าย ที่เรียกว่าการอบรมเพื่อเตรียมบินไปทำงาน หรือเรียกภาษาเป็นทางการว่า อบรมเรื่องภาษาและวัฒนธรรมของเกาหลี ที่ทางกรมการจัดหางาน กำหนดไว้ให้มีการอบรม 48 ชั่วโมง ให้โรงเรียนที่กรมการจัดหางานรับรอง ทางเราได้กำหนดตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขออกมา โดยมีมาตรการการคัดกรอง การวัดไข้ วัดอุณหภูมิร่างกาย การใช้เยลแอลกอฮอล์ล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัย และการให้ความรู้เรื่องของโรค COVID-19 กับผู้เข้ารับการอบรม และหากมีผู้เข้ารับการอบรม มีอาการที่ทางกระทรวงสาธารณสุขเห็นว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง เราก็จะไม่ให้เขาเดินทาง แต่ถ้าไม่มีสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ก็จะมีการเดินทางไปปกติเหมือนเดิม”

 

 

 

ว่าที่ ร.ท.อนุเทพฯ กล่าวอีกว่า ก่อนที่แรงงานจะมาเรียนที่โรงเรียนอบรม นายจ้างเกาหลีจะเลือกทำสัญญาจ้างกับคนงานที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว และได้ส่งรายชื่อให้ทางกรมการจัดหางาน และเราก็จะดำเนินการตามขั้นตอนสุดท้าย จึงเรียกตัวมาอบรมก่อนการเดินทาง โดยในส่วนของ จ.อุดรธานี ทางกรมการจัดหางาน ได้ให้คนงานที่จะเตรียมบินมารับการอบรมที่โรงเรียนที่ ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางาน ที่ตั้งอยู่ใน จ.อุดรธานี 4 แห่ง ประมาณ 120 คน ซึ่งถึงขณะนี้ทางประเทศเกาหลียังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังไม่มีหนังสือสั่งการ หรือนโยบายอะไรที่จะระงับการเดินทาง ซึ่งหลังจากเข้ารับการอบรม จะใช้เวลาในการเดินเอกสารขอวีซ่า ภายใน 90 วัน แต่ทั้งนี้คงต้องดูนโยบายของกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุขว่า จะมีการดำเนินการเปลี่ยนแปลง ในการไปทำงานของแรงงานกลุ่มนี้หรือไม่

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของแรงงานไทย ที่ไปทำงานที่ประเทศเกาหลีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เลขที่ 248 ม.2 ต.โนนสะอาด อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี ที่เป็นบ้านของ นายธงชัย กิมชัย อายุ 36 ปี แรงงานไทยที่ไปทำงานอย่างถูกต้อง โดยได้พบกับ นางรัชนีวรรณ แอธง อายุ 37 ปี พี่สาวของ นายธงชัยฯ โดยได้พูดถึงเรื่องของน้องชายที่ยังอยู่ทำงานที่เกาหลีว่า น้องชายไปทำงานที่เกาหลีประมาณ 1 ปี โดยสอบผ่านทางกรมการจัดหางาน และไปทำงานที่นั่นเป็นครั้งที่ 2 โดยที่ผ่านมาก็ติดต่อพูดคุยกับน้องชายเกือบทุกวัน ล่าสุดก็เช้าวันนี้ ซึ่งหลังโรค COVID -19 ระบาด รวมทั้งที่เกาหลี น้องชายเขาก็ปรับตัว ส่วนใหญ่เขาจะอยู่ในที่พัก ไม่ออกไปไหนมาไหน โดยมีการสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันตลอดเวลา ซึ่งเขาทำด้วยตัวเองนายจ้างไม่ได้บอกให้ทำ คือ น้องเขาป้องกันตัวเอง ซึ่งเพื่อน ๆ คนงานไทยก็ทำแบบนี้เช่นกัน

น้องชายเขาบอกว่าไม่ได้กลัวที่จะติดเชื้อโรค COVID-19 และก็ไม่เห็นน้องชายเขาพูดอะไร เขาก็พยายามป้องกันตัวเอง ด้วยการไม่ออกไปข้างนอกที่ทำงาน ไม่ไปตามแหล่งชุมชน ส่วนมากน้องเขาจะซื้อของกินของใช้มาตุนไว้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องออกไปข้างนอก แล้วตอนนี้น้องชายก็ยังคงสบายดีไม่มีไข้ไม่มีป่วย ส่วนที่ขณะนี้มีประกาศให้คนงานที่เกาหลีหากอยากกลับบ้านก็สามารถกลับได้ เรื่องนี้น้องเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาก็คงจะอยู่ทำงานต่อ กลุ่มเฟสบุ๊คของคนงานที่ไปทำงานถูกต้อง ก็บอกว่าอยู่ทำงานต่อตามปกติ เพราะเขามี OT”

 

 

 

นางรัชนีวรรณฯ บอกอีกว่า ในฐานะเป็นพี่สาว เมื่อทราบข่าวการระบาดของโรค COVID-19 ก็เป็นห่วงน้องชาย พยายามคุยกับเขาตลอดเวลาว่า จะกลับไหม น้องก็บอกว่ายังทำงานได้อยู่ มี OT ให้ทำ และทางพ่อแม่ก็ยังไม่อยากให้เขากลับ เพราะน้องยังทำงานได้ และน้องเขาก็ป้องกันตัวเขาเอง ระมัดระวังตัวอยู่ ยังทำงานปกติส่งเงินมาให้ทางบ้าน แต่ถ้าเกิดมีการระบาดหนัก แต่คงยังไปไม่ถึงที่ที่น้องไปทำงาน ที่อยู่ทางทิศเหนือของประเทศ แต่ก็ขอฝากบอกน้องชายว่า ให้ดูแลตัวเองดีดี เพราะว่ามันเป็นเรื่องของโรคระบาดที่น่ากลัว แต่หากน้องอยากจะกลับบ้านก็กลับได้ แต่ต้องรอให้เขาเอ่ยปากเอง ซึ่งเขาอยู่ที่นั่นคงจะรู้สถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร

ส่วนโรงเรียนพัฒนาอาชีพอุดรธานี ซ.มธุรส 1 ถ.อุดรดุษฎี เขตเทศบาลนครอุดรธานี ที่เป็นสถานที่อบรมแรงงานไทย ที่ผ่านการเลือกไปทำงานจากนายจ้างเกาหลี ที่ต้องเข้ารับการอบรมรมเรื่องภาษาและวัฒนธรรมของเกาหลี 48 ชั่วโมง โดยมีคนงานที่นายจ้างเกาหลีเรียกให้ไปทำงาน เข้ารับการอบรมที่โรงเรียนแห่งนี้ 48 คน ซึ่งในห้องอบรม ผู้เข้ารับการอบรมทุกคน จะสวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งมีการติดป้ายประชาสัมพันธ์การป้องกันไม่ให้ติดโรค COVID-19 อย่างไร และมีการตั้งเจลล้างมือไว้หน้าห้อง เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมทำความสะอาดมือ

แรงงานที่เข้ารับการอบรมคนหนึ่ง เปิดเผยว่า ได้เริ่มเรียนภาษาเกาหลีมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2562 ซึ่งมาถึงวันนี้ไม่ทราบว่าจะได้ไปทำงานเมื่อไหร่ ตอนนี้มาเรียนภาษาและวัฒนธรรมเกาหลี เพื่อเตรียมที่จะเดินทางไปทำงานที่เกาหลี ซึ่งช่วงนี้โรค COVID-19 กำลังระบาดในประเทศเกาหลี ตนได้สอบถามทราบว่า อาจจะได้บินช้ากว่ากำหนดเดิมประมาณ 1-2 เดือน ซึ่งก็ยังไม่ได้กำหนดบินไปทำงานแต่อย่างใด

ซึ่งความรู้สึกตอนนี้ถามว่ากลัวไหม ผมไม่กลัวโรคที่ระบาดอยู่ตอนนี้ แต่อยากที่จะเดินทางไปทำงานหาเงินก่อน เพราะทางบ้านมีปัญหาทางการเงิน โดยงานที่จะเดินทางไปทำเป็นช่างก่อสร้าง แต่ยังไม่ได้ระบุว่าตำแหน่งอะไร มีเพียงระบุเงินเดือนขั้นต่ำมาให้ทราบแล้ว ยังไม่รวมโอที หากได้ไปคงต้องไปดูหน้างานอีกที มาถึงตอนนี้ยังไงผมก็พร้อมที่จะเดินทางไปทำงานที่เกาหลี แม้จะมีโรค COVID-19 ระบาดอยู่ ใจผมก็กลัวอยู่บ้าง แต่ว่าผมรอมาจะถึงหนึ่งปีแล้ว ยังไงก็รอมานานแล้วก็คงต้องไป และกว่าเราจะได้เดินทางไป ก็เข้าสู่ช่วงฤดูร้อนแล้ว ผมคิดว่ามันน่าจะยับยั้งโรค CUVID-19 ได้มากกว่าช่วงฤดูหนาว แต่ถ้าทางการประเทศไทยให้หยุดการเดินทางไปก่อน ก็จำเป็นที่จะหยุด และยังไม่เดินทางไปทำงาน

นายกฤษดา  จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว ภูมิภาค  จ.อุดรธานี  คมชัดลึก