ข่าว

สันดานคางคก

สันดานคางคก

21 ธ.ค. 2552

คำเปรียบเปรยที่ว่า “คางคกขึ้นวอ” หรือ “สันดานคางคก ยางหัวไม่ตก ไม่รู้สึก” เหมาะสำหรับการบรรยายพฤติกรรมของคนซึ่งไม่เจียมตัว ลืมกำพืดของตัวเอง มีความทะเยอทะยานไม่สิ้นสุด กินไม่รู้จักอิ่ม เหมือนชูชกท้องแตกตาย

 การเมืองยุคที่ผ่านมา 6-7 ปี จึงเห็นคนถูกเปรียบเทียบเหมือนคางคกขึ้นวอ เป็นนักการเมืองยโสโอหัง นอกจากโลภ ขี้โกงแล้ว ยังหน้าด้านสุดบรรยาย

 เมื่อมีต้นแบบแล้ว นำพาเครือข่ายญาติพี่น้อง เพื่อนพ้อง ลูกสมุน ลิ่วล้อ ถ่ายทอดพฤติกรรม จากหัวแถวสู่ปลายแถว แปรสภาพเป็นขบวนการนักขายชาติแก้จน มีทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักการเมือง และนักจัดม็อบหิวเงิน

 ช่วงนี้พฤติกรรมและบทบาทของคนหนีคุกตกเป็นข่าว ถูกยัดเยียดให้ชาวบ้านได้รับรู้ ผ่านสื่อต่างๆ แทบไม่ต้องกินนอน พักผ่อน ออกอาการเพ้อเจ้อ พูดจาเลอะเทอะ คลุ้มคลั่ง อารมณ์แปรปรวน อยู่ในสภาพเหมือนธาตุไฟแตก

 ไปยุแหย่ให้ผู้นำเขมร ทรราชบ้านนอกให้เปิดตัวเป็นศัตรูเต็มรูปแบบกับไทย หวังทำลายแผ่นดินเกิด ล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า ให้บ้านเมืองล่มสลาย

 เป็นคนหนีคุก เกือบจะไร้แผ่นดินอยู่ ยังคิดสั้นๆ หลอกฮุน เซน ด้วยถ้อยคำลวง อีกไม่นานผู้นำเขมรคงถึงวาระสุดท้าย ถูกขับไล่พ้นจากอำนาจ

 วันก่อนคนหนีคุกยังไม่รู้สภาพและชะตากรรม นึกว่ามีอำนาจต่อรอง สร้างเงื่อนไข ทั้งๆ ที่ควรต้องเข้าไปอยู่ในคุกนานแล้ว อาศัยเงินเป็นตัวช่วย

  คำพูดยังคงยโสโอหังเหมือนเดิม ก่อนหน้านี้ออดอ้อน กะล่อนปลิ้นปล้อนไปตามเรื่อง ชาวบ้านรู้เห็นไส้เน่าจากพฤติกรรมอยากเป็นผู้นำสูงสุด

 หลังจากหัวหน้ารัฐบาลขิงแก่ออกมาพูดผ่านสื่อ เหมือนยื่นไมตรีให้ แทนที่จะรีบตะครุบ จีบปากจีบคอ จ้อลวงโลกหลอกล่อตัวเองต่อไป ดันตีฝีปาก เล่นสำนวนชวนขย้อน ย้อนกลับผ่านทนายความและไม่ได้ความ

 หัวหน้ารัฐบาลขิงแก่เอ่ยปากผ่านสื่อวิทยุว่า พร้อมจะเป็นคนกลางช่วยเจรจาทุกฝ่าย เพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง แต่คนหนีคุกพฤติกรรมคางคกบอกว่า การเจรจาจะต้องมีเงื่อนไขขึ้นอยู่กับความจริงใจ และการให้ความเป็นธรรมด้านคดีความ รัฐบาลไม่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม

 หมายความว่าตัวเองไม่ต้องรับโทษ ว่างั้นเถอะ! ลืมแล้วหรือยังว่าสารเลวพวกไหนชอบติดสินบนตุลาการเพื่อให้พ้นคดีและหนีคุกจนทุกวันนี้!!

 เท่านั้นยังไม่พอ คนมีพฤติกรรมคางคกยังย้อนแบบเย้ยหยันอีกว่า ได้ฟังคำสัมภาษณ์ของหัวหน้ารัฐบาลขิงแก่ แล้ว ไม่แน่ใจว่าออกมาพูดเองหรือได้รับอนุญาต วันนี้คนไทยขัดแย้งกันมากเกินไปแล้ว มาไกลมากกว่าการประนีประนอม และเกินกว่าจะเป็นเรื่องของตนเพียงคนเดียวแล้ว

 ทำเป็นยอมรับว่า แม้ตนเองอาจเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง แต่ขอให้ใจกว้างและมองภาพกว้างของความเกี่ยวพันในความขัดแย้งที่เกิดขึ้น! เห็นหรือยังว่าสันดานคางคกนั้น ยางหัวไม่ตก ไม่สำนึกจริงๆ นิ! อิอิอิ!!!