ศึกษาธิการประจวบฯข้องใจครูแดร์ตรวจฉี่หาสารเสพติดนักเรียนชั้น ป.6 ยกชั้น | คมชัดลึก

 

 

            วันที่  26   กุมภาพันธ์   ว่าที่ร้อยเอกวิสาร ปัญญชุณห์  ศึกษาธิการ จ.ประจวบคีรีขันธ์  เปิดเผยว่า     กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจในโครงการครูแดร์  ( D.A.R.E.) จากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด    ขอความร่วมมือจากผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  โรงเรียนอนุบาลจังหวัด เพื่อตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของนักเรียนที่ผ่านโครงการ ยอมรับว่าขณะนี้สถิติของนักเรียนที่ติดยาเสพติดในระดับประถมโดยภาพรวมมีเพิ่มขึ้น   หลายฝ่ายได้เร่งรัดในการแก้ไขปัญหา   แต่การตรวจปัสสาวะของนักเรียนชั้น ป.6 ทุกคนเป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่  ผู้บริหารสถานศึกษาควรใช้ดุลพินิจให้รอบคอบเพราะอาจมีผลกระทบกับเด็กหลายด้าน  

 

“  การตรวจปัสสาวะนักเรียน ป.6 ควรมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิของเด็กตามกฎหมายทุกหน่วยงานควรเข้าไปมีส่วนร่วม  แม้จะมีข้ออ้างว่าผู้ปกครองให้ความยินยอมแล้ว แต่ส่วนตัวไม่มั่นใจว่าโครงการนี้มีการทำบันทึกข้อตกลงระหว่างสำนักงานตรวจแห่งชาติกับสำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานหรือไม่  ขณะที่ข้อมูลผลการตรวจปัสสาวะจะต้องเก็บไว้เป็นความลับ และก่อนตรวจปัสสาวะครูประจำชั้นควรคัดกรองนักเรียนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายก่อน  ไม่ควรตรวจนักเรียนชั้น ป. 6 เพื่อให้ครบตามจำนวนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตามเป้าหมาย แม้ว่าจะเป็นการตรวจเพื่อป้องกันและปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติดในสถานศึกษาระดับประถม “ว่าที่ร้อยเอกวิสาร  กล่าว

 

 

 

              นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์” หรือ “ครูหยุย”  สมาชิกวุฒิสภา(สว.) จากมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก  กล่าวว่า การแก้ปัญหาการระบาดเของยาเสพติดในโรงเรียนระดับประถมมีหลากหลายวิธี ประการครูผู้สอนประจำชั้นและฝ่ายปกครองควรให้ความสนใจตรวจสอบพฤติกรรมเด็กเป็นรายบุคคลหรือมีการสุ่มตรวจ  ประการต่อมาอาจมีการตรวจค้นนักเรียนในกลุ่มเป้าหมายที่น่าสงสัย หากพบว่ามีปัญหาก็ดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด ซึ่งยอมรับว่าเรื่องเป็นปัญหาละเอียดอ่อนที่เชื่อมโยงกับการพิทักษ์สิทธิของเด็ก ดังนั้นการตรวจปัสสาวะจะต้องดูเจตนาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

“  แต่ถ้าหากเจ้าหน้าที่เฉพาะเจาะจง เข้ามาตรวจปัสสาวะในโรงเรียนแห่งใด  ผู้ตรวจก็จะต้องตอบคำถามว่ามีเหตุผลหรือมีเหตุสงสัยผิดปกติอย่างไร ผู้บริหารมีความเห็นสอดคล้องกันหรือไม่เพื่อป้องกันปัญหาความเสี่ยง  และเรื่องนี้กระทรวงศึกษาธิการควรหารือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อน เพื่อวางแผนทำงานร่วมกัน เพราะจะต้องมีหลายหน่วยงานที่เป็นคณะทำงานร่วมเข้ามาร่วมตรวจสอบพร้อมกำหนดวิธีการ ทั้งเจ้าหน้าที่สถานพินิจ สหวิชาชีพ นักจิตวิทยา และบุคลาการทางแพทย์”นายวัลลภ  กล่าว

มีรายงานว่า จากการตรวจสอบโครงการตรวจปัสสาวะนักเรียนชั้น ป.6 มีการกำหนดให้ครูแดร์ 1 คนตรวจนักเรียน 50 คน สำหรับพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์จะมีการตรวจปัสสาวะนักเรียนชั้น ป.6 จำนวน 2150  คน โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวคล้ายเป็นวิจัยเพื่อเก็บตัวเลขสถิติ ครูแดร์จะต้องตรวจให้เสร็จสิ้นตามเป้าหมาย เพื่อนำไปประเมินตัวชี้วัดในการปฏิบัติหน้าที่ในการป้องปรามยาเสพติดในสถานศึกษา

 

 

ภาพ/ข่าว พอใจ จันทนา ข่าวภูมิภาค จ.ประจวบคีรีขันธ์