ลุงวัย 67 ปี พิการ จบชีวิตยิงหน้าอกดับคาสวน | คมชัดลึก

                          เมื่อเวลา 9.30 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 พ.ต.ท.มาโนช  ฤทธิพูน สว(สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งพบมีผู้เสียชีวิต ใช้อาวุธปืน ยิงตัวตาย ภายในสวนผักผลไม้ เหตุเกิดภายในหมู่บ้านโรจนะ 1 หมู่ที่ 1 ตำบลไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานและแพทย์เวรโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา กำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา ในที่เกิดเหตุภายในสวนผักผลไม้ ใกล้เคียงกับต้นกล้วย ภายในหมู่บ้านพบร่างผู้เสียชีวิตชาย ชื่อ นาย สามารถ พูนผล อายุ 67 ปี สภาพถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกข้างซ้าย ไม่สวมใส่เสื้อ ใส่กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน  มีผ้าปิดจมูก นอนเสียชีวิตในท่าหงาย มีหมอนใบสีฟ้าหนุนหัว ขาข้างซ้ายพิการขาด  และยังพบไม้ค้ำยัน 2 อัน อยู่ข้างกาย พบอาวุธปืนขนาด.38  มีลูกกระสุนคา ในรังเพลิง 5 ลูกและปลอกกระสุนปืน 1 ปลอก ตกอยู่บริเวณขาข้างซ้ายที่พิการ ตรวจสอบบริเวณโดยรอบ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ทั้งนี้ยังพบประเป๋าสะพาน สีครีมตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 ใบ ภายในมีสมุดจด เขียนเป็นจดหมายถึงครอบครัวหลายหน้ากระดาษ แต่โดยรวมเขียนขอบคุณทุกๆคนในครอบ รวมถึงคนรู้จักที่ดูแลกันด้วยดีตลอดมา แล้วจะขอตอบแทนในชาติหน้า

                       สอบถาม นายบรรณฑูรย์   พูนผล อายุ 60 ปี  บ้านเลขที่ 93/48 หมู่ที่ 6  ตำบลไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เล่าว่า ผู้ตายเป็นพี่ชาย และพิการขาขาดข้างซ้าย โดย ก่อนหน้านี้เคยติดคุกอยู่ในเรือนจำ บางขวาง คดีฆ่าคนตายมาหลายปีแล้วและพ้นโทษออกจากคุกมาได้ ประมาณ 10 ปีจากนั้นก็มาอยู่กับตน ที่ร้าน ซึ่งตนประกอบธุรกิจร้านประดับยนต์ โดยให้พี่ชายมา ช่วยงานดูแลสวนต้นผักผลไม้หลังร้านคอยดูแลร้านนิดหน่อย  และให้พักอาศัยอยู่ทาวน์เฮ้าส์ ฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ  เมื่อช่วงเช้า ตนได้มาเปิดร้าน ตามปกติ และก็มีคนในหมู่บ้านมาแจ้งว่าพบพี่ชายยิงตัวตาย ในสวน ตนจึงเดินมาดูก็พบว่าพี่ชายได้เสียชีวิตแล้ว ส่วนสาเหตุนั้นไม่ทราบ ว่าเกิดจากสาเหตุใด ว่าทำไมถึงคิดสั้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา จะได้ให้เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดปทุมธานีอย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป

ภาพข่าวเกียรติยศ ศรีสกุล ผู้สื่อข่าว จังหวัดพระนครศรีอยุธยา