ข่าว

ทุบหม้อข้าว "บิ๊กแดง" ลุยปฏิรูปกองทัพ "ม้า มวย กอล์ฟ"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 "บิ๊กแดง" สังคายนาธุรกิจกองทัพ ส่งที่ดินทหารล้านไร่คืนคลัง โคราชเพิ่มเงินบริจาคเยียวยาผู้เสียชีวิต-พิการถาวรเป็นรายละ 2 ล้านบาท

 

               “บิ๊กแดง” สังคายนาธุรกิจกองทัพ ส่งที่ดินทหารล้านไร่คืนคลัง พร้อมจัดระเบียบธุรกิจโรงแรม-สนามกอล์ฟ-สนามมวย-สนามม้า-ปั๊มน้ำมัน แบ่งเข้ารัฐ ด้านปลัดคลังเผยเหล่าทัพอื่นจ่อคิวเดินตามรอย ทบ. ขณะที่โคราชเพิ่มเงินบริจาคเยียวยาผู้เสียชีวิต-พิการถาวรเป็นรายละ 2 ล้านบาท

 

อ่านข่าว-"ผบ.ทบ."สังคายนาธุรกิจกองทัพส่งที่ดินทหาร ล้านไร่คืนคลัง

 

 

               เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เป็นตัวแทนกองทัพบก ลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ในโครงการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจของกองทัพบกร่วมกับกรมธนารักษ์ โดยมี นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เป็นตัวแทน เพื่อให้การใช้ที่ราชพัสดุของกองทัพบก ประกอบด้วย ที่ดิน อาคาร และสิ่งปลูกสร้างในการจัดสวัสดิการ รวมไปถึงสถานีบริการน้ำมัน ร้านค้า ตลาดนัด กิจการสโมสร สนามมวย สนามกอล์ฟ สนามม้า และสถานพักฟื้นพักผ่อน เป็นการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ

 

               จากนั้นเวลา 11.30 น. นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย พล.อ.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เสนาธิการทหารบก ร่วมกันแถลงภายหลังการประชุม โดยนายประสงค์ กล่าวว่า ตั้งแต่ พล.อ.อภิรัชต์ ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 ได้หารือกับกรมธนารักษ์ โดยเริ่มจัดการเรื่องร้านค้าสวัสดิการ 7-11 ในกองทัพภาคที่ 1 ก่อน และคุยกับกรมธนารักษ์ต่อว่าจะทำอย่างไรให้การทำสวัสดิการเชิงธุรกิจถูกต้อง เช่น โรงแรมที่สวนสนประดิพัทธ์ ปั๊มน้ำมัน สนามมวย สนามกอล์ฟ ตั้งแต่พฤศจิกายน 2561 

 

               ในขณะเดียวกันก็มาทำความเข้าใจกับคนในกองทัพ ทั้งนี้ก่อนที่จะลงนามในร่างเอ็มโอยู ผบ.ทบ.ได้ตรวจร่างเอ็มโอยูประมาณ 1 เดือนครึ่ง จนวันนี้ถือเป็นวันที่ประสบความสำเร็จและลงนามร่วมกัน ซึ่งที่ดินในส่วนที่เป็นเชิงธุรกิจในการจัดสวัสดิการเชิงธุรกิจจะต้องส่งที่คืนให้กรมธนารักษ์ และกรมธนารักษ์ก็จะเข้าไปบริหารจัดการเชิงธุรกิจ ขณะที่รายได้ก็จะนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน

 

               ด้าน พล.อ.ธีรวัฒน์ กล่าวว่า หลังจากนี้กองทัพบกก็จะดำเนินการยื่นโครงการต่างๆ ให้กรมธนารักษ์พิจารณาว่าจะดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างไร สิ่งหนึ่งที่ยืนยันคือไม่ว่าจะดำเนินการในลักษณะใด เช่นจะเป็นลักษณะสวัสดิการภายในหน่วยหรือสวัสดิการเชิงธุรกิจ กำลังพลและครอบครัวของกองทัพบกยังคงได้รับสิทธิที่จะใช้บริการในราคาถูกและได้รับการลดราคา

 

               “สิ่งที่กองทัพบกทำในวันนี้คือทำให้เกิดความถูกต้อง สามารถที่จะตรวจสอบได้ โปร่งใส รายได้ภายหลังจากที่เราจ่ายแก่กรมธนารักษ์แล้ว ก็นำเงินเข้ากองทุนสวัสดิการกองทัพบก เงินเหล่านี้ก็จะมาดูแลกำลังพล เช่น ทุนการศึกษาบุตร ดูแลสวัสดิการให้แก่กำลังพลชั้นผู้น้อย” พล.อ.ธีรวัฒน์กล่าว

 

               เมื่อถามว่าในส่วนของที่ดินของกองทัพบกมีจำนวนเท่าไรที่จะต้องดูแล นายประสงค์ กล่าวว่า เป็นจำนวนเกือบล้านไร่ที่ต้องดูแล รวมถึงพื้นที่ที่เกษตรกรหรือประชาชนเข้ามาเช่า ทางกรมธนารักษ์ก็ต้องเข้าไปดูแล ซึ่งจะควบคุมทั้งหมดทั้งสนามมวย สนามกอล์ฟ โรงแรมที่เข้าข่ายเชิงธุรกิจ อย่างไรก็ตามกรมธนารักษ์จะได้ประโยชน์จากค่าเช่าพื้นที่เป็นร้อยละของรายได้ 

 

               อีกทั้งยังมีค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับธุรกิจที่ต้องดูตามกฎหมาย ยืนยันว่าบางอย่างเงินไม่ได้กลับเข้ากองทัพบก แต่จะเป็นการลดราคาสินค้าให้กำลังพล เช่น กำลังพลเข้าไปตีกอล์ฟ และถ้ามีเงินเหลือบางส่วนก็จะนำกลับเข้ามาเป็นสวัสดิการกลางของกองทัพบก

 

               เมื่อถามว่า ที่ดินกองทัพบกมีการจ่ายให้กรมธนารักษ์อย่างไร นายประสงค์ กล่าวว่า ถ้าเป็นที่ดินหลวงไม่มีการจ่ายให้กรมธนารักษ์ แต่ทางกองทัพบกขอให้ช่วยว่าในที่ที่มีประชาชนบุกรุก 7 แสนไร่หากไปขับไล่ออกมาก็จะหาว่าทหารรังแก จึงให้กรมธนารักษ์ไปทำสัญญาเช่าครั้งละไม่เกิน 3 ปี เพื่อให้อยู่ในระบบและควบคุมไม่ให้มีการบุกรุก ทำให้มีรายได้เข้าแผ่นดินมากขึ้น และมีความโปร่งใสมากขึ้น 

 

               “สิ่งที่กองทัพบกตัดสินใจมานี้ขอชื่นชมที่เดินหน้าในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามขณะนี้ก็มีเหล่าทัพอื่นเริ่มติดต่อเข้ามาเพื่อทำเรื่องสวัสดิการเชิงธุรกิจให้เป็นระบบมากขึ้นเช่นกัน และนายกฯ ก็สนับสนุนเรื่องนี้” ปลัดคลังกล่าว

 

               ขณะที่ พล.อ.ธีรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในชั้นต้นจะมีสวัสดิการเชิงธุรกิจจำนวน 40 กว่าแห่ง ซึ่งรายได้จากกิจการทั้งหมดไม่ถึงพันล้านบาท เพราะว่าปัจจุบันเราดำเนินการในเชิงสวัสดิการภายใน แต่หากเป็นสวัสดิการเชิงธุรกิจเราต้องไปปรับปรุงพื้นที่ อีกทั้งเราไม่ใช่มืออาชีพทำให้รายได้ที่ได้ในปัจจุบันไม่ได้มากมาย

 

               มีรายงานข่าวว่า ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่กองทัพเรือ จะมีการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยมี พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน และ พล.อ.อภิรัชต์ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ. และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง โดยก่อนการประชุมจะมีการประชุมคณะผู้บัญชาการทหาร ซึ่งจะมี พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม เข้าร่วม 

 

               โดยจะหารือกับ ผบ.เหล่าทัพ เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติในเรื่องทหารเกษียณอายุราชการไปแล้วให้ออกจากบ้านพักหลวง ส่วนระเบียบใดที่ล้าหลังเกินไปอาจจะปรับเปลี่ยนให้เกิดความเหมาะสม ในขณะที่สวัสดิการต่างๆ ที่อยู่ในความดูแลของเหล่าทัพหากเข้าข่ายเป็นกิจการเชิงธุรกิจต้องทำให้ถูกต้องตามระเบียบกระทรวงการคลัง

 

               ด้านนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่ต่างจากมวยล้มต้มคนดู เพราะ พล.อ.อภิรัชต์แค่พูดเอามันเท่านั้น หากดูในข้อเท็จจริงจะพบว่าไม่กล้าทำจริง ซึ่งกรณีประกาศล้างธุรกิจภายในกองทัพบกก็คงเป็นแค่ปาหี่เท่านั้นไม่ต่างจากการตรวจสอบหลายครั้ง ทั้งเรื่องอุทยานราชภักดิ์ โครงการจัดซื้อเรือเหาะ เป็นต้น ถามว่ากล้าหรือไม่ที่จะให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเป็นคนนอกกองทัพ ให้ภาคประชาชนร่วมตรวจสอบ ไม่ใช่งุบงิบทำกันเอง

 

               ส่วนความคืบหน้าการเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์กราดยิงที่โคราช นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ทางจังหวัดได้ปิดบัญชีรับบริจาคไปแล้วเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ เวลา 16.00 น. ปรากฏว่ามียอดเงินบริจาครวมทั้งสิ้น 82,869,229.20 บาท ซึ่งเบื้องต้นได้นำไปจ่ายให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 1 ล้านบาท จำนวน 27 ราย และจ่ายครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บที่ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล รายละ 1 แสนบาท จำนวน 22 ราย 

 

               และเมื่อวานนี้ (16 ก.พ.) ผลการประชุมสรุปว่าจะนำเงินที่เหลือในบัญชีไปจ่ายเยียวยาให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้พิการถาวร เพิ่มอีก 1 ล้านบาท รวมเป็นรายละ 2 ล้านบาท โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะมาเป็นประธานในพิธีมอบในวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์นี้

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ