ข่าว

ยกระดับ"เอสเอ็มอี"จากโลคอลสู่โกลบอล"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ยกระดับ"เอสเอ็มอี"จากโลคอลสู่โกลบอล"ปั้น ปลุก เปลี่ยน"ตลาดด้วยอีคอมเมิร์ซ       

          อาจกล่าวได้ว่าปัจจุบันการค้าแบบพาณิชย์อิเลคทรอนิกส์ ถือเป็นตลาดที่มีอิทธิพลในการหมุนเวียนแลกเปลี่ยนเงินตราในระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผลจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาของเทคโนโลยีที่สอดรับกับการเข้าสู่ยุคดิจิทัล เป็นผลให้มีผู้สนใจทั้งผู้ประกอบการเดิมและผู้ประกอบการใหม่ได้เข้ามาทำการตลาดแบบออนไลน์อีคอมเมอร์ซเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ 

ยกระดับ"เอสเอ็มอี"จากโลคอลสู่โกลบอล"

         โดยจากสถิติในปี 2560-61 พบว่ามีมุลค่ายอดขายสินค้าผ่านตลอดออนไลน์หรืออีคอมเมิร์ซในประเทศไทยเติบโดตกว่าร้อยละ14 มีมูลค่ายอดขายในปี 2561 พุ่งสูงกว่า 3.2 ล้านล้านบาทและมีแนวโน้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

   “การเตรียมความพร้อมเพื่อจะเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 และสามารถแข่งขันกับตลาดในปัจจุบันได้ เอสเอ็มอีจึงจำเป็นต้องได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐให้เกิดแนวทางการทำการตลาดแนวใหม่บนโลกออนไลน์ ซึ่งมีทิศทางการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยอาศัยแพลตฟอรฺ์มอีคอมเมิร์ซรูปแบบต่าง ๆ เป็นเครื่งอมือในการทำการตลาด”

ยกระดับ"เอสเอ็มอี"จากโลคอลสู่โกลบอล" ภาสกร ชัยรัตน์(กลาง)รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

      บางช่วงบางตอนที่“ภาสกร ชัยรัตน์” รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกล่าวในพิธีเปิดโครงการ“การยกระดับเอสเอ็มอีสู่โกลบอลด้วยตลาดออนไลน์อีคอมเมิร์ซ” ณ ห้องอโนมา3 โรงแรมอโนมา ราชประสงค์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยระบุต่อว่าการเพิ่มศักยภาพและเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการตลาดออนไลน์อีคอมเมิร์ซให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีโดยกรมฯได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จัดกิจกรรมยกระดับเอสเอ็มอีสู่โกลเบิ้ล(GLOBAL)ด้วยตลาดออนไลน์อีคอมเมิร์ซเพื่อพัฒนาความรู้ด้านอีคอมเมิร์ซและเพิ่มศักยภาพเอสเอ็มอีให้มีช่องทางการทำตลาดและมียอดขายเพิ่มขึ้น บนต้นทุนที่ไม่สูงและสามารถสร้างรายได้และผลกำไรให้กับธุรกิจเกิดการขยายธุรกิจให้เข้มแข็งและเติบโตต่อไป

     ทั้งนี้ผลสำเร็จจากโครงการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการไทยทำให้เกิดการขยายตัวทางด้านการค้าและการลงทุนในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้ฐานเศรษฐกิจของประเทศมีความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนต่อไป โดยโครงการดังกล่าวได้มีการจัดวิทยากรผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา พร้อมทั้งแนะนำเทคนิค กลยุทธ์ในการทำตลาดออนไลน์ระดับสากลที่มีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มรายได้จากช่องทางการตลาดออนไลน์อีคอมเมิร์ซ โดยมีกลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นภาคการผลิตหรืิอภาคการค้า จำนวน 35 ราย ซึ่งคาดกว่าหลังจบโครงการจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพเพิ่มยอดขายได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ10และคาดว่าเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท 

      “กระทรวงอุตสาหกรรมก็มีนโยบายโลคอลสู่โกลบอล เรามีหลาายโครงการที่จะเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยสู่โกลบอล อย่างเช่นปัจจุบันกรมได้มีความร่วมมือกับทางอาลีบาบาเพื่อที่จะไปสู่แพลตฟอร์มของเรา ประเทศญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกันเรามีทีกู๊ดเทค(T-GoodTech) เป็นความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกับองค์กรเพื่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและนวัตกรรมภูมิภาคแห่งประเทศญี่ปุ่นเพื่อผลักดันธุรกิจเอสเอ็มอีไทยสู่ห่วงโซ่มูลค่าระดับโลก โดยส่งเสริมการใช้เทคดนดลยีผ่านเว็ปไซต์และระบบฐานข้อมูลจับคู่กับธุรกิจออนไลน์ที่เป็นช่องทางการจับคู่ระหว่างธุรกิจกับธุรกิจหรือบีทูบี”รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกล่าว

 

    ด้าน  ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกล่าวถึงนโยบายการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพื่อสู่ความยั่งยืน โดยในปี 2563 นี้กรมฯจะเร่งดำเนินการใน 3 มิติ ประกอบด้วยปั้น ปลุก เปลี่ยน โดยมิติแรกจะเน้นเกษตรอุตสาหกรรม เศรษฐกิจสร้างสรรค์ใช้เทคโนโลยีเข้ามาจับ เพื่อให้สอดรับกับจุดแข็งของประเทศไทยในเรื่องการเกษตรให้มีความแข็งแรง ทั้งในเรื่องประสิทธิภาพการประกอบธุรกิจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหารจัดการ

      "สองเราจะปลุกระบบนิเวศน์ในการพัฒนาส่วนนี้เราจะมุ่งความร่วมมือจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะในส่วนผู้นำในพื้นที่ ปีนี้จะเน้นลงไปในพื้นที่ต่าง ๆ พบปะผู้นำุชุมชน ผู้นำเศรษฐกิจในพื้นที่จะทำให้ทุกส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา สุดท้ายจะปั้นจะปลุกก็แล้วแต่ถ้ากรมส่งเสริมอุตสาหกรรมไม่ได้มีการปรับตัวเองเลยในการปฏิบัติงานในการปรับเปลี่ยนแนวคิดก็จะยากที่จะทำให้การปั้นและปลุกเป็นไปได้ ดังนั้นในปีนี้ก็จะมีการปรับปลุกวิธีคิดกลไกภายในใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ จะได้ไม่เป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศไทยในอนาคต"อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสากรรมกล่าวย้ำ

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ