ร้องบิ๊กเทศบาลโพธิ์เสด็จ ยึดถนนชลประทานเป็นล้งรับซื้อมังคุด

               ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 3 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ร้องเรียนศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราชว่ามีนายทุนเอกชนกลางเต้นท์ขนาดใหญ่คร่อมถนนชลประทานฝั่งด้านใน ตั้งอยู่ในท้องที่หมู่ 3 ต.โพธิ์เสด็จ  อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราข และเปิดเป็นสถานที่รับซื้อมังคัด หรือ “ล้งรับซื้อมังคุด” โดยมีป้ายไวนิลติดข้อความว่า “ OK... โอเค เบตง รับซื้อมังคุดคุณภาพ ราคาดี ...บ้านนายกปื๊ด” ติดอยู่อย่างชัดเจน

            จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าริมถนนชลประทาน ปากทางเข้าบ้านนายเกรียงศักดิ์  ด่านคงรักษ์ หรือ “นายกปื๊ด “ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลโพธิ์เสด็จ  อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีการกางเต้นท์คร่อมถนนดินด้านในเปิดเป็นล้งรับซื้อมังคุด ชื่อ“ OK... โอเค เบตง รับซื้อมังคุดคุณภาพ ราคาดี  โดยมีป้ายไวนิลติดด้านหน้าปากทางเขาและหน้าเต้นท์ อย่างไรก็ตามพบว่าไวนิลแผ่นที่มีการระบุข้อคามว่า “บ้านนายกปื๊ด” ได้ถูกปลดออกไปแล้ว

ชาวบ้านคนหนึ่ง เปิดเผยว่า คลองชลประทานดังกล่าวได้มีการพัฒนาฝั่งด้านนอกเป็นถนนลาดยาง ความกว้างประมาณ 6 เมตรกลายเป็นถนนที่มีผู้สัญจรไปมาหนาแน่น เพราะเป็นเส้นทางเลี่ยงเมืองต่อจากถนนซอยต้นหว้า 6 ไปจนถึงถนน 4 เลน เบญจมราชูทิศ-นาพรุ บริเวณหนาตลาดนาชุม รวมระยะทางประมมณ 1 กม.เศษ ส่วนเนินดินฝั่งด้านในแม้ไม่ได้พัฒนาเป็นถนนลาดยาง แต่เป็นที่ว่างเปล่าที่ผู้คนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ชาวบ้านส่วนใหญ่จะนำโค หรือวัวมาล่ามหรือปล่อยให้กินหญ้า นอกจากนี้ได้มีการทำสะพานคอนกรีตเชื่อมต่อสองฝั่งคลองชลประทาน 2-3 จุดรวมทั้งจุดทางเข้าบ้านนายกเทศมตรีเทศลตำบลโพธิ์เสด็จ และได้มีการนำเต้นท์โค้งขนาด 6x10 เมตรมากางคร่อมพื้นที่เนินคัดคลองชลประทานหรือถนนด้านในคลองชลประทาน ขึ้นป้ายไวนิล “OK...โอเค เบตง รับซื้อมังคุดคุณภาพ ราคาดี ...บ้านนายกปื๊ด” อย่างชัดเจน ในขณะที่ชาวบ้านรายอื่น ๆ ที่มีบ้านอยู่ทางฝั่งเดียวกันไม่มีใครกลารุกล้ำยึดครองถนนหรือพื้นที่ตลอดสองฝังคลองชลประทานแม้แต่รายเดียว เรื่องนี้เป็นที่วิพากวิจารณ์ของประชาชนในพื้นที่และผู้ที่ขับรถผ่านไปมาวันละนันพันเที่ยวมานานแล้ว

            “ตนไม่ทราบเหมือนกันว่าได้มีการขออนุญาตจากทางชลประทานเจ้าของพื้นที่หรือไม่ อย่างไร จึงอยากให้ชลประทานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ด้วย เนื่องตนเห็นทางเทศบาลไปขึ้นป้ายคัตเฮาส์ขนาดใหญ่ประกาศให้ชาวบ้านในหมู่บานธารริน ต.โพธิ์เสด็จ รื้อเสารั้วและสิ่งปลูกสร้างหน้าบ้าน อ้างว่าติดถนนสาธารณะ โดยถนนเป็นถนนตันยาวแค่ 50-60 เมตรด้านหน้าเป็นป่ามะเลาะ ไม่น่าจะกระทบกับใครเลย ที่สำคัญตนเห็นทางคในหมู่บ่านนำปายไวนิลมาติดคู่กันตอบโต้ว่า “ธารริน หมู่บ้านโลกลืม” ถูกทอดทิ้งไม่ได้รับการเหลียวแลจาก อปท.มานานกว่า 20 ปี ชาวบ้านควักเงินดำเนินการในสิ่งสาธารณูปโภคในหมู่บ้านกันเอง ทั้งไฟฟ้า น้ำประปา ส่วนเสารั้วสร้างขึ้นตามมติหมูบ่านซึ่งมีนายก อบต.โพธิ์เสด็จ ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โต๊ะอีหม่าม ตัวแทนวัด โรงเรียนเขาร่วมประชุมให้ก่อสร้างเพื่อป้องกันอาชญากรรมและยาเสพติดที่รุนแรงมากช่วง 10 ปีก่อน ที่สำคัญนายทุนที่มาที่ซื้อดินด้านในเคยฟ้องร้องศาลนครศรีธรรมราชให้รื้อเสารั้ว กระถางต้นไม้ เต้นท์จอดรถ เพื่อเขาจะได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินที่เหลือรอมรั้วรวมทั้งถนนหน้าหมู่บ้านได้โดยสะดวก และต่อสู้คดีกัน 4 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้รื้อกระถางต้นไม้ เต้นท์จอดรถ แต่ไม่ได้ให้รื้อเสารั้ว โดยบังคับคดีได้ดำเนินการตามคำสั่งศาลและชี้แจงให้ทั้งสองฝ่ายทราบอย่างชัดเจน ทางเทศบาลโพธิ์เสด็จ ยังกล่าออกคำสั่งโดยการขึ้นป้ายประกาศขนาดใหญ่ติดหราหน้าหมู่บ้านให้รื้อเสารั้ว และสิ่งปลูกสร้างออกภายใน 15 วัน เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายและละเมิดอำนาจศาลหรือไม่

ชาวบ้านคนเดิมกล่าวอีกว่า เมื่อตนมาเปรียบเทียบกับกรณีการยึดถนนชลประทานข้นเต้นท์รับซื้อมังคุดที่ระบุชื่อบ้าน “นายกปื๊ด”นายกเทศมนตรีโพธิ์เสด็จ อันไหนจะเหมาะสมมากกว่ากัน และอันไหนส่งผลกระทบต่อการใช้สาธารณะประโยชน์มากกว่ากัน เรื่องนี้หากอ้างว่าได้รับอนุญาตจากชลประทานถูกต้องแล้ว ตนก็จะขออนุญาติใช้พื้นที่เนินดินหรือถนนประทานสายเดียวกันที่เหลือทำเป็นตลาดเปิดท้ายขายของ หรือทำประโยชน์อื่น ๆ ด้วยเช่นกัน แต่หากนายทุนหรือใครที่คิดว่าตัวเองมีบารมียิ่งใหญ่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจ โดยพละการได้โดยไม่ต้องไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ หรือหากเป็นคนที่มียศ ตำแหน่งสามารถที่จะทำอะไรเหนือกฎระเรียบหรือกฎหมายได้มากกว่าประชาชนทั่วไป หากศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าทียมกัน แต่หากทุกคนต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายเหมอนกันก็ขอให้ชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสั่งให้รื้อออกโดยด่วน  ”.

ภาพ ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช

ขอบคุณข้อมูลข่าว/เพจ/ไพฑูรย์ อินทศิลา ประธานศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช