รัฐบาลจีนส่งเครื่องบินมารับคนที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นกลับ
รัฐบาลจีนส่งเครื่องบิน มารับชาวจีนที่เดินทางมาจากเมือง 'อู่ฮั่น' กว่าร้อยคนกลับประเทศ
เมื่อเวลา 15.30 น.ที่อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ นายกิตติพงษ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1 ) ได้เดินทางมาร่วมตรวจคัดกรองชาวจีนที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นเข้ามาในประเทศไทยก่อนหน้าที่จะมีการปิดเมืองอู่ฮั่นของประเทศจีนป้องกันการแพระบาดของไวรัสโคโรน่า กว่า 100 คน ที่รัฐบาลจีนได้ประสานและจัดส่งเครื่องบินของสายการบินโชน่าเซาเทิร์น แอร์ไลน์ ส่งเครื่องบินมารับเป็นเที่ยวบินพิเศษ นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นก่อนที่จะมีการปิดเมืองอู่ฮั่นที่ตกค้างอยู่ในประเทศไทยเดินทางกลับประเทศจีน ซึ่งตอนแรกมีการแจ้งยอดไว้ประมาณ 150-160 คน แต่วันนี้หลังปิดทำการเช็คอินน์พบว่ามีชาวจีนมาขอเช็คอินน์เพียง 139 คนเท่านั้นโดยมีเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย ซึ่งชาวจีนที่จะเข้ามาเช็คอินน์จะต้องผ่านการคัดกรองจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายแพทย์ของการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและเจ้าหน้าที่ของด่านควบคุมโรคโดยมีนายแพทย์มาคอยตรวจคัดกรองอุณหภูมิ ของร่างกายทุกคน โดยกำหนดไว้ในร่างกายต้องมีความร้อนไม่เกิด 37.3 หากมีความร้อนเกินที่กำหนดก็จะต้องให้พักในจุดที่ทางสนามบินสุวรรณภูมิได้จัดเตรียมสถานที่เอาไว้ และมีการตรวจซ้ำหากอุณหภูมิในร่างกายลดลงต่ำกว่า 37.3 เราก็จะให้ไปทำการเช็คอินน์และเข้าไปรอขึ้นเครื่องในเล้าด้านใน โดยมีเจ้าหน้าที่ของการบินไทยมาคอยให้บริการในการเช็คอินน์ให้
นายกิตติพงษ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1 ) ได้กล่าวว่า วันนี้จากที่มาเช็คอินน์ที่เคาเตอร์สุวรรณภูมิ ปัจจุบันมียอดอยู่ประมาณ 139 คน ที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น วันนี้เรามีไฟท์ที่ทางการจีนจัดส่งเครื่องบินของสายการบินโชน่าเซาเทิร์น แอร์ไลน์ ส่งเที่ยวบินมารับเป็นเที่ยวบินพิเศษ เพื่อให้ประชาชนของเขาได้กลับไปประเทศจีนได้ ซึ่งตอนแรกยอดที่แจ้งผ่านทางสุวรรณภูมิเอาไว้ประมาณ 150-160 คน แต่ปัจจุบันที่มาเช็คอินน์ซึ่งเราพึ่งปิดเคาเตอร์เช็คอินน์ไปเมื่อสักครู่ มียอดที่เข้ามาเช็คอินน์ประมาณ 139 คน ซึ่งขณะนี้เครื่องบินที่ทางการจีนส่งมารับชาวจีนที่ตกค้างในประเทศไทยได้เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว และพร้อมทำการบินออกในเวลา 17.00 น.ของวันนี้ ซึ่งก่อนที่นักท่องเที่ยวชาวจีนทั้งหมดจะเดินทางออกต้องผ่านเคาเตอร์เช็คอินน์ซึ่งมีเจ้าหน้าทีของการบินไทย มาเช็คอินน์ให้ผู้โดยสาร ก่อนที่ผู้โดยสารจะทำการเช็คอินน์ก็จะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและเจ้าหน้าที่ของด่านควบคุมโรคและมีนายแพทย์มาตรวจคัดกรองอุณหภูมิ โดยเรามีการเซ็ดอุณหภูมิในร่างกายของนักท่องเที่ยวเอาไว้ที่ 37.3 ถ้าผู้โดยสารมีอุณหภูมิสูงกว่าที่เรากำหนดเอาไว้ เราก็จะแยกโซนเอาไว้ให้ เพื่อรอการตรวจเช็คอุณหภูมิอีกครั้งหนึ่ง เพราะฉะนั้นเราจะมีการดับเบิลเช็คให้กับผู้โดยสาร ไม่ใช้ว่าวัดครั้งแรกพบอุณหภูมิเกินที่เราตั้งไว้แล้วจะไม่ให้ไปแพทย์ก็จะให้นั่งรอและตรวจสอบประวัติ มีการอินทวิวผู้โดยสารที่มีอุณหภูมิเกินเป็นครั้งแรก หลังตรวจสอบประวัติเสร็จแล้วว่าไม่เป็นเครสที่น่าเป็นห่วงหรือเฝ้าระวังเราก็ให้ตรวจอีกครั้งหนึ่ง ถ้าอุณหภูมิลดลงมาที่ 37.3 เมื่อไหร่เราก็จะอนุญาตให้ไปที่เคาเตอร์เช็คอินน์และรอการขึ้นเครื่อง ซึ่งตั้งแต่ตรวจมาพบว่ามีผู้โดยสารที่อุณหภูมิเกนกว่าที่กำหนดกว่า 20 คน แต่เมื่อแพทย์ทำการอินทวิวแล้วให้ดับเบิลเช็คใหม่อีกครั้งอุณหภูมิก็ลดลงตอนนี้เหลือเพียง 4-5 รายที่ยังมีอุณหภูมิที่เรายังต้องติดตามอยู่ สุดท้ายแล้วถ้าหมอดูแล้วว่าไม่สามารถเดินทางต่อไปได้เราก็จะส่งไปให้แพทย์ทำการรักษา แต่ในเบื้องต้นยังไม่พบแต่อย่างใด ปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวอู่ฮั่นที่มานี้ เป็นนักท่อเที่ยวที่มาเดินทางมาอยู่ในประเทศไทยก่อนที่จะมีประเด็นที่มีการปิดประเทศของเมืองอู่ฮั่น เพราะฉะนั้น นักท่องเที่ยวที่เขาเข้ามาแล้วไม่สามารถกลับไปที่ภูมิลำเนาเขาได้ วันนี้ประเทศจีนส่งเครื่องบินมารับพวกเขากลับ เราซึ่งในฐานะเป็นเจ้าของบ้าน เป็นท่าอากาศยานที่รับเขาเข้ามาเราก็อำนวยความสะดวกในการส่งนักท่องเที่ยวชาวจีนเหล่านั้นกลับภูมิลำเนาต่อไป
ภาพ-ข่าว สุธินันท์ คงสินธ์ / สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ