เกษตรกรทำนา งง เงินเข้าบัญชี ธกส. 5 หมื่นกว่าบาท

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 ที่อำเภอบางเลน ป้าสมทรง งง เงินเข้ามาในบัญชีธนาคารกว่า 5 หมื่นบาทกลางดึก และเงินออกจากบัญชีในวันเดียวกัน สร้างความ งง และแปลกใจ กลังตนเองจะมีความผิด ญาติแนะให้ไปแจ้งความ

ผู้สื่อข่าวไปติดต่อไปยังนางสมทรง ปิยะพันธ์ อายุ 59 ปี 37 ม.10 ต.ดอนตูม อ.บางเลน จ.นครปฐม และได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นทราบว่าเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2562 ตนเองกังวลและสงสัยว่าเงินที่รัฐจะช่วยเหลือ ที่ตนเองไปขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาวนา ยังไม่เข้ามาตนเองจึงได้เตรียมสมุดบัญชีธนาคาร ธกส.สาขาบางเลน ไปติดต่อที่ธกส.จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ธนาคารทราบว่าเมื่อวันที่ 18 ธคง62 เวลาประมาณ 01.00 น.ได้มีเงินเข้าบัญชีธนาคาร ธกส.ของนางสมทรง เป็นจำนวน 50,735.88 บาท และในเวลาประมาณช่วงสายของวันที่ 18 ธค.62  เวลาประมาณ 11.00 น.เงินจำนวนดังกล่าวได้ถูกถอนออกไป. และก็มียอดเงินเข้าบัญชี ธกส.ปรากฏ ขึ้นมาอีกจำนวน 40,000 บาท นางสมทรงจึงแปลกใจ ว่ามีเงินเข้ามาในบัญชีธนาคารของตนเองแล้วและ มีการถอนออกได้ด้วยเหรอ ซึ่งทำให้นางสมทรงแปลกใจ  และ งง มากสำหรับเกษตรกร ถ้าตนเองมีเงินในบัญชีที่มากกว่านี้ เขาจะเอาเงินของเราออกไปได้ด้วยก็ได้สิ  ตนเองจึงถ้าเป็นอย่างนี้ ตนเองจึงกลัวจะมีความผิด

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ธกส.ได้บอกกับนางสมทรงว่าเวินจำนวนดังกล่าวเป็นการโอนเงินมาผิดทางเจ้าหน้าที่ได้แก้ไขให้ถูกต้องแล้ว ทางด้านนางสมทรงก็ยังกลัวว่า ถ้าเจ้าหน้าที่โอนเงินมาผิดและแก้ไขเรียบร้อยก็ไม่เป็นไร แต่ตนเองกลัวจะมีความผิด ซึ่งมีคนบอกให้ตนเองไปแจ้งความเอาไว้เป็นหลักฐาน แต่ตนเองก็ยังไม่ได้ไปอจ้ง ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้ที่ อ.พนมทวน เจอแบบเช่นนี้หลายรายมาก  บางรายได้เงินเข้าบัญชีมา และได้เบิกเงินออกไปซื้อสิ่งของทำนา แต่แล้วก็มีเจ้าหน้าที่ธนาคารโทรไปแจ้งว่าโอนเงินเกินไปบ้างให้นำเงิมาคืนที่ธนาคารด่วน แต่เงินชาวนาบางรายก็ได้ถอนออกไปแล้ว บางรายไม่มีเงินมาคืนก็มี  ในส่วนเงินที่โอนเข้ามา บางรายถูกขู่ว่าจะระงับบัญชี ก็มี เพราะเป็นเงินที่มีจำนวนมากสำหรับเกษตรกร ชาวนา หาเช้ากินคำ่ กว่าจะหามาได้แต่ละบาทต้องเอาหลังสู้ห้า หน้าสู้ดิน ตากแดด ตากฝน ทนร้อน ทนหนาว เพื่อให้ตนข้าวเจริญเติบโตมีผลผลิตที่ดี มีเม็ดข้าวที่อ้วน เมล็ดข้าวไม่ลีบ  เหตุการณ์เช่นนี้ทำให้เกษตรกร งง และไม่เข้าใจในการทำงานของ เจ้าหน้าที่ ใช้สิทธิอะไรมาโอนเงินออกจากบัญชีส่วนตัวของชาวนาออกไป  และมีเงินเข้าบัญชีของชาวนาในช่วงดึก เป็นสิ่งที่น่าคิดอีกอย่างถึงชาวนาไม่ไปทำธุรกรรมกับธานคารเบิก-ถอน เงินในบัญชี แต่เจ้าหน้าที่สามารถทำรายการในบัญชีลูกค้าได้ด้วยหรืออย่างไร ปลอดภัยไหม

นางสมทรง ยังเล่าอีกว่าตนเองได้เช่าที่ดินไว้ทำนาจำนวน 30 กว่าไร่ไว้ที่ ต.พังตรุ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ทำกับญาติ ลูก หลาน ในครอบครัวเช่าที่เอาไว้ทำนาปีละ 2,000 บาทต่อไร่ ต่อปี ทำมาก็ 10 กว่าปีแล้ว และได้ขึ้นทะเบียนเอาไว้เกษตรกร ชาวนาไว้ที่อ.พนมทวน แต่บ้านของนางสมทรงอยู่ที่อ.บางเลนจึงได้เดินไป มาตลอดเพื่อที่ทำการปลูกข้าว ซึ่งตนเองก็ทำนามาตั้งแต่เกิด พ่อ-แม่ ก็ทำนามา จะให้ตนเองไปทำอะไร ก็ทำแต่นาข้าว ทางหน่วยงานช่วยเหลือไร่ละ 500 บาทคนละไม่เกิน 20 ไร่ในครั้งแรก และมาช่วงที่ช่วยไร่ละ 60 ถัง ซึ่งมาในช่วงนี้ผลผลิตน้อยลงทำนา 1 ไร่ได้ข้าวประมาณ 70-80 ถังก็ไม่ถึงเกวียน ถ้าเปรียบกับช่วงก่อนนั้น มีการประกันราคาข้าวเกวียนละ 15,000 บาท ถ้าเป็นข้าวชื้นราคาจะลดลงมาเหลือประมาณ 12,000-13,000 บาทแต่ก็ดี ที่แระกันราคาข้าวให้สูงทำให้ชาวนาลืมตา อ้าปากได้ มารายได้ที่มากขึ้น ส่งลูกเรียนได้ ทำอะไรได้อีกหลายอย่างในช่วงนั้น ทำให้เกษตรกรยิ้มกันทุกครอบครัว ในพื้นที่ ทำนามีนำ้ มีคลองชลประทานผ่าน นำ้ดีไม่ขาดนางสมทรงกล่าว

ปนิทัศน์ มามีสุข   นส.ปณิดา มามีสุข ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  จ.นครปฐม