
ลดฝุ่นได้ผล เกินค่า 6 เขต
สถานการณ์ฝุ่นPM2.5 ดีขึ้น ค่าเกินมาตรฐานลดลง เหลือ 6 เขต
ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในกรุงเทพมหานคร รายงานผลการตรวจวัด PM2.5 ประจำวันที่ 5 ก.พ.2563 เวลา 07.00 น ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5)
อ่านข่าว กทม.ยังอ่วม 27 เขต ฝุ่นเกินเกณฑ์
- ตรวจวัดได้ 33 -57 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐาน (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 5 พื้นที่ คือ
1.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 มีค่าเท่ากับ 57 มคก./ลบ.ม.
2.เขตบางกะปิ ข้างป้อมตำรวจตรงข้ามสำนักงาน เขตบางกะปิ มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.
3.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.
4.เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ มีค่าเท่ากับ 53มคก./ลบ.ม.
5.เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม มีค่าเท่ากับ 57 มคก./ลบ.ม.
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในกรุงเทพมหานคร ได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 อย่างต่อเนื่อง เพื่อประสานดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที
โดยมอบหมายให้ 50 สำนักงานเขต หากพบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินกว่าค่ามาตรฐาน ให้เพิ่มความถี่ในการล้างทำความสะอาดถนนและทางเท้า การพ่นฉีดละอองน้ำในอากาศเพื่อดักจับฝุ่นละออง
นอกจากนี้ได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว หันมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ การบำรุงรักษาเครื่องยนต์ ตรวจสอบสภาพรถไม่ให้ปล่อยควันดำ งดเผาในที่โล่งแจ้ง การปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อสภาพแวดล้อมที่ดีและลดมลพิษในอากาศ
รวมถึงให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร ตรวจสภาพเครื่องยนต์ตามระยะทางหรือระยะเวลาที่กำหนด ดูแลบำรุงรักษารถยนต์ไม่ให้เกิดควันดำ เพื่อป้องกันไม่ให้มลพิษเกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ตลอดจนกำชับพนักงานขับรถยนต์ให้ดับเครื่องยนต์ทุกครั้ง เมื่อไม่ได้ปฏิบัติงานหรือจอดรถรอรับ-ส่ง
สำหรับดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของกรุงเทพมหานคร พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศปานกลาง ขอให้ประชาชนที่อยู่ในบริเวณที่มีมลพิษทางอากาศเกินมาตรฐาน ดูแลรักษาสุขภาพ
หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้งโดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ป่วยทางเดินหายใจ ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหรือสวมใส่หน้ากากอนามัย
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้เพิ่มความถี่ในการประชาสัมพันธ์ เพื่อแจ้งเตือนและเน้นย้ำให้ประชาชนในพื้นที่ที่พบค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เกินมาตรฐานผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่
www.bangkokairquality.com
www.airqangkok.com
Facebook : กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม
www.prbangkok.com
Facebook : สำนักงานประชาสัมพันธ์ กทม. หรือแอปพลิเคชั่น “กทม. Connect”
ขณะที่ กรมควบคุมมลพิษ รายงานข้อมูลคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 07.00 น. ดังนี้
ผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยกรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร จำนวน 56 สถานี ตรวจวัดค่าได้ 29 – 57 มคก./ลบ.ม. (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) ปริมาณฝุ่นละอองในภาพรวมมีแนวโน้มลดลงทุกพื้นที่จากช่วงเช้าของเมื่อวาน
พบพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีส้ม) 7 พื้นที่ ได้แก่
1. ริมถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง มีค่าเท่ากับ 57 มคก./ลบ.ม.
2. เขตบึงกุ่ม มีค่าเท่ากับ 57 มคก./ลบ.ม.
3. เขตดินแดง มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.
4. ริมถนนนวมินทร์ แยกบางกะปิ มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.
5. เขตลาดกระบัง มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.
6. เขตหลักสี่ มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.
7. ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม.
ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ควรลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิด
ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ได้ทางเว็บไซต์ Air4Thai.com แอปพลิเคชั่น Air4Thai และ bangkokairquality.com