หนึ่งเดียวในไทย! งานนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์  เที่ยวคราวเดียวถึง 3 วัด รับอานิสงบุญเต็มอิ่ม กราบ 3 หน ได้ไปสวรรค์ (มีคลิป) | คมชัดลึก

 

 

            ที่บริเวณวัดพระแท่นศิลาอาสน์ พระอารามหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ นายนายธนากร อึ้งจิตรไพศาล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานเปิดงานนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ ประจำปี 2563 พระพรหมเสนาบดี เจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา  กรรม การมหาเถรสมาคม  ประธานฝ่ายสงฆ์ พระสงฆ์ทรงสมศักดิ์  19 รูป  เจริญพระพุทธมนต์ หน้าวิหารพระแท่นศิลาอาสน์ มีขบวนแห่เครื่องนมัสการบูชาพระแท่นศิลาอาสน์ ขบวนแห่วัฒนธรรมพื้นบ้าน การแต่งกายเพื่อแสดงถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นถิ่นด้วยผ้าทอพื้นเมือง ขนบธรรมเนียมประเพณีของหมู่บ้านจาก 8 ตำบล สะท้อนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวลับแล

ขบวนช้าง 2 เชือก  นิยายปรำปรา เรื่องเล่าท้าวสามลกับนางรจนาพร้อมบุตรสาวทั้ง 6 สมกับได้ชื่อว่า “อุตรดิตถ์เมืองแห่ง 3 วัฒนธรรม”  คือ วัฒนธรรมล้านนา ล้านช้างและภาคกลาง มีนักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัดใกล้เคียงให้ความสนใจเที่ยวงานกันเป็นจำนวนมาก

งานนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ เป็นงานประเพณีที่สืบทอดกันมานานกว่า 100 ปี เพื่อบูชาพระรัตนตรัยและบูชาองค์พระแท่นศิลาอาสน์ เป็นการต่ออายุพระพุทธศาสนา รวมถึงการอนุรักษ์และสืบสานศิลปวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นให้อยู่คู่กับลูกหลานตลอดไป

 

 

 

 

 

                              พระแท่นศิลาอาสน์ เป็นพุทธสถานที่ชาวไทยทั่วประเทศเดินทางมาตามคำบอกเล่าของบรรพบุรุษว่า “ไหว้พระแท่น 3 ครั้ง จะได้ไปสวรรค์” โดยงานจะมีตั้งแต่ 29  มกราคมนี้ ไปจนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563  รวม 11 วัน11 คืน ภายในงานมีพิธีตักบาตรพระร้อย พิธีกวนพุทราบูชาพระแท่นศิลาอาสน์ กิจกรรมตักบาตรพระร้อย  เททองหล่อรูปเหมือนหลวงปู่ศุข เกจิชื่อดังจากวัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.สิงห์บุรี จ.ชัยนาท และพระปัญญาพิมณฑ์มุนี วัดเจดีย์ยอดทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง อาทิ น้ำอ้อยกะทิ ประกอบด้วย ถั่ว งา มะพร้าวและน้ำอ้อย หารับประทานยากมากแทบจะหาซื้อตามท้องตลาดไม่มี นอกจากนี้ยังมี เม็ดกะบกคั่ว พุทรากวน ไม้กวาดตองกง รวมถึงสินค้าโอทอปของอุตรดิตถ์จำหน่ายภายในงานด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                            โบราณว่า “ผู้ใดมากราบไหว้พระแท่นศิลาอาสน์ถึง 3 ครั้ง จะได้ไปสวรรค์”  งานนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ หากใครได้มาเที่ยว ถือมีบุญศักดิ์ใหญ่ ได้เที่ยวงานวัดในคราวเดียวถึง 3 แห่งด้วยกันคือ วัดพระแท่นศิลาอาสน์ วัดพระยืนพุทธบาทยุคลและวัดพระนอนพุทธไสยาสน์  ซึ่งอยู่ในอาณาบริเวณรอบเขตสีมาติดต่อกันทั้ง 3 วัด การจัดงานถูกกำหนดให้มีในวันเวลาเดียวกันและมีแห่งเดียวในประเทศไทย ประชาชนที่มาเที่ยวจะได้รับอานิงสงฆ์บุญอย่างเต็มอิ่ม

วัดพระแท่นศิลาอาสน์ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ และเป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย พระมหากษัตริย์หลายพระองค์ทรงเสด็จมานมัสการสักการะกราบไหว้ วัดแห่งนี้สังกัดคณะธรรมยุตนิกายและ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ มีหลักฐานการได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเป็นเอกสารชัดเจนในสมัยรัชกาลที่ 5  เมื่อวันที่ 19   ตุลาคม   2452 

พระแท่นศิลาอาสน์ เป็นแท่นศิลาแลง มีขนาดกว้าง  8  ฟุต ยาว 9  ฟุต สูง 3  ฟุต เป็นปูชนียวัตถุที่มีตำนานกล่าวว่า เป็นแท่นที่พระโพธิสัตว์ 5  พระองค์   เมื่อครั้งเสวยชาติเป็นเดรัจฉาน เสด็จมาประทับเพื่อบำเพ็ญพระบารมี ตั้งสัตยาธิษฐานเพื่อปรารถนาที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธจ้า ในภัทรกัปเดียวกันนี้ ต่อมาพระโพธิสัตว์ทั้ง  5  พระองค์ ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าไปแล้ว 4  พระองค์ คือ พระกกุกสันโทพุทธเจ้า พระโกนาคมโนพุทธเจ้า พระกัสโปพุทธเจ้า และพระโคตโมพุทธเข้า ส่วนพระโพธิสัตว์องค์ที่  5  คือ พระศรีอาริยเมตไตโยโพธิสัตว์ จะเสด็จมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป เมื่ออายุกาลพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ ปัจจุบันล่วงพ้นมาแล้วกว่า 5,000 ปี

 

 

ภาพ/ข่าว  สมภพ  สินพิพัฒนฤดี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดอุตรดิตถ์