เก้าอี้ส.ส.ไทยรักธรรม สะเทือน ลูกพรรครุมแฉ

3 กุมภาพันธ์ 2563 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้นำอดีตเลขาธิการพรรคไทรักธรรมนายจตุรวิทย์ กาละมิตร์ อดีตกรรมการบริหาร และอดีตสมาชิกพรรคไทรักธรรม เข้ายื่นหนังสือต่อ กกต.

อ่านข่าว-เก้าอี้ส.ส.ไทรักธรรม ระทึก ลูกพรรคร้องกกต.จัดประชุม

 

 

เพื่อให้ไต่สวน สอบสวน และเอาผิดหัวหน้าพรรคไทรักธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหนึ่งเดียวของพรรค สืบเนื่องมาจาก การดำเนินกิจการพรรคไทรักธรรมอาจไม่เป็นไปตามข้อบังคับพรรค ไม่เป็นไปตาม พรป.พรรคการเมือง 2560 และอาจมีการจัดทำรายงานส่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)อันเป็นเท็จ อันอาจเป็นผลให้การเลือกตั้งของพรรคไทรักธรรมเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 และ ส.ส.ของพรรคเป็นโมฆะได้

นายศรีสุวรรณ ระบุว่า พรรคไทรักธรรมทำรายงานถึง กกต. อ้างว่ามีการจัดประชุมใหญ่พรรคครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 24 ม.ค.62 ณ วัดตาปะขาวหาย ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลกขึ้นมาเพื่อรับรองสมาชิกพรรคและผู้สมัคร สส.ของพรรคจำนวน 350 คน (สมัครจริง 298 คน) เพื่อส่งสมัครรับเลือกตั้งในการเปิดรับสมัครของ กกต.ในระหว่างวันที่ 4-8 ก.พ.62

 

ข้อเท็จจริงจากหลักฐานของกรรมการและสมาชิกพรรคไทยรักธรรม ยืนยันชัดเจนว่าวันดังกล่าวไม่ได้มีการจัดประชุมจริง แต่หัวหน้าพรรคกลับนำรูปถ่ายการประชุมของกรรมการและสมาชิกพรรคในกิจกรรมการเปิดสำนักงานสาขาพรรคมาแอบอ้างว่าเป็นการประชุมใหญ่พรรค โดยได้จัดทำรายงานอันเป็นเท็จส่งให้ กกต.รับทราบ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตาม พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ประกอบ พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 ซึ่งหัวหน้าพรรคไทรักธรรมต้องรับผิดชอบตาม ม.137 แห่ง พรป.พรรคการเมือง 2560 และอาจมีความผิดตาม ม.162 ของประมวลกฎหมายอาญาด้วย 

 

 

 

สำหรับพรรคไทรักธรรม มีคะแนน 33,754 คะแนน ทำให้นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อดับดับที่ 1 ได้เป็นส.ส. ต่อมาวันที่ 26 พฤษภาคม 2562 มีการเชือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 ซึ่งผลการเลือกตั้ง มีการนำคะแนนมาคำนวณเพื่อหาส.ส.แบบบัญชีรายชื่อใหม่

 

ทำให้นายพีระวิทย์พ้นสภาการเป็น ส.ส. จนกระทั่งกกต.คำนวนสัดส่วนส.ส.บัญขีรายชื่อใหม่ หลังศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาว่า นายชาติชาย วรพิพัฒน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.จันทบุรี ของพรรคประชาธิปัตย์ กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 73 วรรคหนึ่ง (5)

 

โดยการใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครและพรรคการเมือง เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น อันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ต้องนำคะแนนของ นายชาติชาย จำนวน 19,711 คะแนน ออกจากผลรวมคะแนนทั้งประเทศ เป็นผลให้นายพีระวิทย์ ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม ลำดับที่ 1 ได้รับการจัดสรรจากการคำนวณจำนวนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อใหม่ดังกล่าว