ข่าว

อ.เจษฎา แจงชัดประเด็นเชื้อโคโรน่าตัดต่อพันธุกรรมผสมกับ HIV

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ชี้แจง "เชื้อไวรัสโคโรน่าเกิดจากการตัดต่อพันธุกรรมร่วมกับเชื้อ HIV ที่ก่อให้เกิดโรคเอดส์" นั้น ไม่เป็นความจริง

รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้แจงเกี่ยวกับเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 หลังจากที่มีการเผยแพร่ข้อความตามเพจต่าง ๆ ที่ระบุว่า "เชื้อไวรัสโคโรน่าเกิดจากการตัดต่อพันธุกรรมร่วมกับเชื้อ HIV ที่ก่อให้เกิดโรคเอดส์" ซึ่งเรื่องนี้ อ.เจษฎา ยืนยันว่า "ไม่จริง"

อ่านข่าว-สื่อนอกกระพือข่าว"หมอไทยเก่งมาก"คิดสูตรพิฆาตไวรัสโคโรน่า

 

อ.เจษฎา แจงชัดประเด็นเชื้อโคโรน่าตัดต่อพันธุกรรมผสมกับ HIV

 

"เชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ไม่ได้ถูกตัดต่อพันธุกรรม ผสมกับเชื้อ HIV ครับ"

 

ตอนนี้มีการเผยแพร่ข้อความกันเยอะมาก ว่าสงสัยเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 จะเกิดจากการตัดต่อพันธุกรรมร่วมกับเชื้อ HIV ที่ก่อให้เกิดโรคเอดส์ ด้วยความตั้งใจให้กลายเป็นอาวุธชีวภาพ ทำลายล้างคนจีน?

 

เรื่องนี้ไม่จริงนะครับ งานวิจัยที่เอามาอ้างกันนั้น ยังไม่ได้รับการตีพิมพ์อย่างเป็นทางการ และผลงานวิจัยของเขาเองก็ไม่ได้มีอะไรแปลกพิสดารจนทำให้เราคิดว่าเชื้อนี้จะเป็นอาวุธชีวภาพ

 

1. มีกลุ่มนักวิจัยด้าน bioinformatics ในมหาวิทยาลัยเดลลี ประเทศอินเดีย เสนอบทความวิจัยแบบล่วงหน้า (คือยังไม่ได้ peer-reviewed หรือผ่านการตรวจสอบวิพากษ์วิจารณ์ จากนักวิจัยทีมอื่น) ลงในเว็บ bioRxiv ในชื่อว่า “Uncanny similarity of unique inserts in the 2019-nCoV spike protein to HIV-1 gp120 and Gag”

 

2. บทความนี้มีการนำเสนอการจัดเรียงลำดับพันธุกรรมของเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 กับเชื้อโรคอื่นๆและระบุว่า พบความคล้ายคลึงกับบางส่วนของจีโนมเชื้อ HIV โดยผู้เขียนบอกว่ามันไม่น่าเกิดขึ้นเองโดยสุ่มจนทำให้หลายคนอ่านแล้วคิดว่า ผู้เขียนต้องการสื่อว่า มันคืออาวุธชีวภาพ ใช่ไหม

 

3. จริงๆ สิ่งที่นักวิจัยกลุ่มนี้ได้ทำไป คือการเอาลำดับพันธุกรรมของเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 จำนวน 28 สาย จากตัวอย่างคนไข้ 28 คน มาเรียงเทียบกับจีโนมของเชื้อโคโรน่าไวรัสในค้างคาว ซึ่งเป็นญาติใกล้ชิดที่สุดของมัน โดยมีความเหมือนกัน 96%

 

4. แต่เชื้อในคนและในค้างคาวนั้น ก็มีประมาณ1200 คู่เบสที่แตกต่างกัน ซึ่งในนั้นถอดรหัสออกมากเป็นสายโปรตีนสั้นๆได้จำนวนหนึ่ง และสายโปรตีนที่แตกต่างกันนี้มีอยู่ 4 ชุด (สั้นแค่ชุดละ 6 กรดอะมิโน) ที่แทรกเพิ่มขึ้นมาในช่วงโปรตีนที่ทำให้เกิด "หนาม spike" บนผิวของเชื้อ (หนามนี้ มีหน้าที่ทำให้เชื้อไวรัสสามารถแทรกผ่านเข้าไปในเซลล์ของผู้ติดเชื้อได้)

 

5. หลังจากผู้วิจัยได้ลองเอาลำดับโปรตีนพวกนี้ ไปทำเป็นแบบจำลอง 3 มิติ (ดูในรูป) ก็พบว่าโปรตีนช่วงสั้นๆ ดังกล่าว จะอยู่ที่บริเวณปลายยอดของหนาม พวกเขาจึงทำการเทียบกับลำดับจีโนมของเชื้อไวรัสอื่นๆ ด้วยวิธี pBLAST กับฐานข้อมูลของ NCBI ทำให้พบว่ามันคล้ายกับโปรตีน gp120 และ Gag proteins ในเชื้อ HIV ที่ทำให้เกิดโรคเอดส์ในมนุษย์

 

6. แต่ๆๆ ลำดับพันธุกรรมที่คล้ายคลึงกันระหว่างเชื้อไวรัสทั้งสองนี้ มันสั้นมากๆๆ และปรากฏอยู่ในส่วนจีโนมที่มีความผันแปรสูงมากอยู่แล้ว ไม่แปลกอะไร และผลการวิเคราะห์จริงๆ มันก็ไม่ได้เหมือนแค่กับเชื้อ HIV แต่ก็ไปคล้ายกับสิ่งมีชีวิตบนโลกอีกหลายชนิด (ทั้งจุลินทรีย์อื่น พืช สัตว์ หรือแม้แต่คน) !

 

7. ลำดับพันธุกรรมที่จำเป็นต่อการทำงานของเชื้อ HIV นั้น ก็ไม่ได้ปรากฏอยู่บนเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 แถมเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ ก็ไม่ได้ทำให้ผู้ป่วยมีอาการอะไรที่ผิดปกติแปลกไปจากเชื้อโคโรน่าไวรัสตัวเดิมๆ

 

8. คือ ถ้าสมมติฐานเรื่องมีการพยายามตัดต่อพันธุกรรมของเชื้อ HIV ใส่เข้าไปในเชื้อโคโรน่าไวรัส เป็นเรื่องจริง เราก็ควรจะได้เห็นว่าเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 นั้นสามารถจะเข้าจู่โจม T-cell หรือสามารถจดจำ CD4 receptor ได้ แต่ความจริงแล้ว มันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย สายพันธุ์ใหม่นี้ไม่สามารถติดต่อสู่ T-cell หรือเซลล์ที่ปล่อย CD4 ออกมาได้เลย

 

9. เชื้อสายพันธุ์ใหม่ 2019 นี้ ก็ไม่ได้มีลักษณะอะไรพิเศษ เกินกว่าที่เราคาดการณ์เอาไว้ ว่าจะเป็นได้ที่จะเกิดจากเชื้อโคโรน่าไวรัส ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาการของโรค ระดับของการแพร่ระบาด ความรุนแรงของโรค อัตราการตาย ระยะฟักตัว ฯลฯ

 

10. ดังนั้น การที่พบว่าเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 มีพันธุกรรมบางส่วนไปคล้ายกับของเชื้อ HIV นั้น ก็เป็นแค่ความบังเอิญที่เกิดขึ้นโดยสุ่ม และจริงๆ แล้ว วิธี pBLAST งั้นก็ไม่ได้ถูกออกแบบให้ใช้กับการตรวจสอบลำดับพันธุกรรมสายสั้นมากๆ อย่างนั้นด้วย

 

ดังนั้น ที่มาของเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 นั้น ก็ยังเหมือนเดิม คือมันคือเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ที่อยู่ในป่าเขาตามธรรมชาตินั่นแหละ ซึ่งกระโดดจากค้างคาวมาสู่มนุษย์ ผ่านตัวกลางที่น่าจะเป็นสัตว์บางชนิดที่จำหน่ายในตลาดอาหารทะเลของเมืองอู่ฮั่นตั้งแต่เมื่อปลายปี 2019 ไม่ใช่ว่าเป็นอาวุธชีวภาพที่หลุดออกมาเป็นอย่างไร

 

 

CR : Jessada Denduangboripant

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ