
คุณหมออู่ฮั่นกรำศึกสู้ไวรัสโคโรน่าแม้ป่วยโรคเอแอลเอส
หัวหน้ารพ.แนวหน้าศึกไวรัสโคโรน่าในอู่ฮั่น กรำงานหนักตลอดเดือนแม้ป่วยเป็นเอแอลเอส นอนวันละสองชม. ภรรยาตัวเองติดเชื้อ
สื่อทางการจีนนำเสนอเรื่องราวของ นายแพทย์ จาง ติงอวี้ ประธานโรงพยาบาล อู่ฮั่น จินอิ๋นถัน หนึ่งในโรงพยาบาลหลัก ที่รักษาคนไข้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย
ตลอดกว่า 1 เดือน ตรวจและรักษาคนไข้กว่า 600 คนนับตั้งแต่รับผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากไวรัสใหม่รายแรกๆ
ทุกวัน หมอจางจะสวมหมวกและชุดป้องกัน เกาะราวเดินขึ้นลงบันได้อย่างช้าๆ เพราะป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือ เอแอลเอส ตั้งแต่ปี 2561
หมอจาง เปรียบว่า เอแอลเอสเหมือนกับดาบเงื้อง่าในอากาศ เขาต้องเร่งฝีเท้าเพื่อประหยัดเวลาและเพื่อคนไข้
“ผมพยายามใช้ทุกนาทีคุ้มค่าที่สุด ขณะชีวิตของผมกำลังนับถอยหลัง”นายแพทย์วัย 57 ปีกล่าว
โกลบอล ไทมส์ รายงานว่า นายแพทย์ท่านนี้มีเวลาเหลืออยู่อีก 5-10 ปี
“เพื่อนร่วมงานทุกคน รู้ว่าผมใจร้อน ผมกลายเป็นคนใจร้อนเพราะมีเวลาเหลือไม่มากแล้ว กล้ามเนื้อขาอ่อนแรงลงทุกทีเพราะอาการลีบเล็ก ร่างกายจะเริ่มสูญเสียความรู้สึกทีละน้อย ผมต้องวิ่งแข่งกับเวลาเพื่อให้ภารกิจสำคัญนี้ลุล่วง และผมต้องวิ่งเร็วกว่าเดิม เพื่อทำให้คนไข้ฟื้นพ้นจากอาการวิกฤติ"
การเข้านอน ตี 2 ตื่นในอีกสองชม.ต่อมา เพื่อรับโทรศัพท์ที่เข้ามาไม่ขาดสายเกี่ยวกับอาการฉุกเฉินของคนไข้ กลายเป็นตารางงานประจำวันของนายแพทย์วัย 57 ในช่วงสัปดาห์หลังๆ
แต่เหตุการณ์ที่ทำให้คุณหมอหัวใจแกร่งคนนี้ต้องร่ำไห้ ก็คือภรรยาของเขากลับติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเสียเอง ขณะทำงานที่โรงพยาบาลอีกแห่งในอู่ฮั่น
ทั้งสองแต่งงานอยู่กินนาน 28 ปี และเขากลัวสูญเสียเธอ “จำได้ว่า เป็นวันที่ 13 ม.ค. ผมกลับบ้านดึกและคุยกับเธอเรื่องคนไข้รายหนึ่งที่พยายามดิ้นรนหายใจหลังอาการชัก ภรรยาบอกผมว่า เธอก็มีอาการแบบนั้นเหมือนกัน” ผลตรวจยืนยันว่าภรรยาติดเชื้อ หมอจางรู้สึกผิดมาก “ผมอาจเป็นหมอที่ดีแต่เป็นสามีไม่ได้เรื่อง”
หมอจาง ตื่นตัวรับสถานการณ์ผิดปกติเมื่อเดือนธันวาคม หลังจากมีผู้ป่วยปอดอักเสบจากสาเหตุปริศนา ทยอยถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในอู่ฮั่น
โรงพยาบาล จินอิ๋นถัน รับผู้ติดเชื้อ 7 คนแรก เมื่อ 29 ธ.ค. จำนวนผู้ป่วยเพิ่มจนต่อมา รพ. ตัดสินใจกำหนดพื้นที่รับมือแยกต่างหาก และภรรยาของเขาก็เป็นหนึ่งในผู้ป่วย 7 คนแรกนี้ แต่โชคดีอาการของเธอไม่รุนแรง หมอจางแนะนำให้ภรรยากินยา พักผ่อนที่บ้าน จนหายเป็นปกติในสองสัปดาห์
ตลอดเดือนที่ผ่านมา พวกเราทำงานหนักกันมาก ปกติ พยาบาลต้องเปลี่ยนกะ ทุกสองชม. แต่ตอนนี้ ยืดเวลาเป็น 4 – 5 ชม. ไม่ต้องพูดถึงหมอ ความอ่อนล้าทางร่างกาย จะเพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อ แต่ตอนนี้สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว เมื่อได้บุคลากรการแพทย์ 150 คนจากมหาวิทยาลัยแพทย์ทหารบกไปเสริมเมื่อหลายวันก่อน
.
หมอจาง ทำงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้มา 6 ปี เป็นแนวหน้าในสถานการณ์ฉุกเฉินทางการแพทย์และภารกิจบรรเทาทุกข์ในต่างแดนหลายแห่งตลอดหลายสิบปี รวมถึงเคยร่วมทีมแพทย์ช่วยเหลือเหยื่อแผ่นดินไหวมณฑลเสฉวนเมื่อปี 2551 กับช่วยผู้ป่วยในแอลจีเรียและปากีสถาน
“โรคติดต่อรักษาได้ สำคัญที่สุดคือการเพิ่มภูมิคุ้มกัน สิ่งที่เราต้องทำคือสยบความกลัว” นายแพทย์วัย 57 กล่าวพร้อมกับเชื่อมั่นว่า จีนจะเอาชนะโรคนี้ได้ ด้วยความแน่วแน่เป็นหนึ่งเดียวกัน และความแข็งแกร่งทางวิทยาศาสตร์และวิจัยของประเทศนี้