
หนุ่มน้อยใจเมียผูกคอดับ ญาติเผยเรื่องปาฎิหาริย์ในวัยเด็ก
หนุ่มน้อยใจเมียผูกคอดับ ญาติเผยเรื่องปาฎิหาริย์ในวัยเด็ก
วันที่ 30 ม.ค.2563 ร.ต.อ.เกรียงศักดิ์ กิจไธสง รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.สตึก ได้รับแจ้งมีเหตุคนผูกคอตาย ที่บริเวณไร่อ้อยบ้านหนองจาน ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ จึงรายงานผู้บังคับบัญชา พ.ต.อ.สัมภาษณ์ ศรีจันทึก ผกก.สภ.สตึก พร้อมแพทย์เวร รพ.สตึก และเจ้าหน้าที่กู้ภัยวังกรูดสตึก เข้าไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบศพนายบุญร่วม แก่นรัมย์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ที่ 18 บ้านหนองจาน ต.นิคม อ.สตึก ใช้ผ้าขาวม้าผูกคอด้วยผ้าขาวม้ากับกิ่งต้นหมี่หรือต้นหมีเหม็นหันหน้าเข้าต้นไม้ ชาวบ้านได้ช่วยนำร่าง ลงมาก่อนหน้านี้
ในสภาพนุ่งกางเกงขาสั้นสวมเสื้อกล้ามสีดำ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 12-14 ชั่งโมง ตำรวจตรวจสอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือมีบาดแผลตามร่างกาย เบื้องต้นญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิตครั้งนี้ จึงนำร่างไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
นายสมบูรณ์ สุรัมย์ อายุ 69 ปี น้าผู้ตาย เล่าว่าตนพร้อมญาติได้เลี้ยงผู้ตายมาตั้งแต่แรกเกิด เนื่องจากพ่อแม่ได้เสียชีวิตลง ผู้ตายได้เรียนจบเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เท่านั้น ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป
ที่ผ่านมาเคยมีเมียมาแต่อยู่กินกันไม่นานเมียก็หนีจากไป ทำให้ผู้ตายคิดหนักนั่งกินเหล้าย้อมใจ จนกระทั่งเครียดจัดกลายเป็นโรคซึมเศร้า ได้เข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการ
ช่วงเย็นเห็นนั่งกินเหล้าแล้วได้หายออกจากบ้านไปนาน จึงแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านประกาศหอกระจ่ายข่าวให้เพื่อนบ้านช่วยตามมาหาตัวแต่ก็ไม่พบตัว จนกระทั่งรุ่งเช้าจึงมีคนไปพบ
นายบุญช่วย โจมรัมย์ อายุ 48 ปี พบผู้ตายคนแรกเล่าว่า ตนออกจากบ้านไปทุ่งนาห่างจากหมู่บ้านประมาณ 150 เมตร ได้เหลือบไปเห็นสิ่งของห้อยบนต้นไม้ เมื่อสังเกต จึงพบว่าเป็นคนผูกคอตายจึงวิ่งมาแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ
ด้านนางพันธ์ สุรัมย์ อายุ 70 ปี ป้าผู้ตายเล่าว่า ผู้ตายมีชื่อเล่นว่า”หม้อ”เพราะมีที่มา ครั้งนั้นผู้ตายคลอดออกมาจากท้องแม่ ก็ไม่มีลมหายใจ พ่อแม่จึงเอาใส่หม้อดินพร้อมมัดปากหม้อด้วยผ้าขาว เพื่อเตรียมฝังตามประเพณีชาวบ้าน ก่อนที่จะทำพิธี ได้เกิดปาฎิหาริย์ มีเสียงเด็กร้องภายในหม้อ พ่อแม่เอะใจรีบทุบหม้อแตกเห็นร่างน้อยดิ้นกะแด่วฟื้นคืนชีพขึ้นมา พ่อ-แม่ต่างดีใจจึงตั้งชื่อเล่นว่า “หม้อ” ต่อมาไม่นานพ่อและแม่ได้เสียชีวิต พวกน้า-ป้าต้องเลี้ยงดูมาตั้งแต่แบเบาะ ชีวิตแสนอาภัพกำพร้าพ่อแม่มาแต่เล็ก เมียก็ทิ้งหนีไป คาดว่าน่าจะคิดหนักหลายเรื่องโดยเฉพาะภรรยาได้หนีไปอีก จึงคิดสั้นดังกล่าว
ภาพ/ข่าว อุดร ลาดธรรมา ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวทีนิวส์ จ.บุรีรัมย์