แก๊งเซลล์แสบ ตระเวนหลอกขายสินค้า พบเหยื่อเพียบ | คมชัดลึก

 

               วันที่ 28 ม.ค. 2563 นางต้อย สีหงษ์สอน(แม่) อายุ53ปีและนางสาวเสาวนีย์ สีหงส์สอน อายุ26ปี บ้านเลขที่908หมู่ที่12ต.โคกกุง อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ  ขึ้นโรงพักแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท. ธีระวัฒน์ คนอุตส่าห์ พนง.สส.สภ.แก้งคร้อ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ โดยนาวงสาวเสาวนีย์เล่าว่า ว่าช่วงวันที่21ม.ค.63ที่ผ่านมาได้มีคนร้ายอ้างว่าเป็นเซลล์ได้โทรติดต่อมาหาตนว่ามีสินค้ามานำเสนอตนจึงบอกให้กลุ่มคนร้ายมาคุยที่ร้านจะสะดวกกว่า ซึ่งกลุ่มคนร้ายเดินทางมาเจอกันที่ร้านค้าของตนเองมีด้วยกันทั้งหมด4คนพร้อมรถกระบะยี่ห้อฟอร์ดเรนเจอร์2คันสีขาวหมายเลขทะเบียนถฬ 6841กทม.ส่วนอีกคันจำไม่ได้  โดยคนร้ายขับมาจอดหน้าร้านโดยอ้างว่าเป็นเซลล์จำหน่ายสินค้าโชว์ห่วยบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งมีสินค้ามานำเสนอขายให้ในราคาโปรโมชั่นและถ้าตกลงซื้อสินค้าก็จะนำทีมงานมาจัดร้านให้อย่างดีและนำสินค้ามาลงเพิ่มเติมให้ในวันที่25 มค. 63 ตนกับแม่เห็นว่าน่าสนใจจึงตกลงจ่ายเงินค่าสินค้าไปทั้งหมด75300บาทให้กับคนร้ายไป แต่เมื่อถีงวันตามที่คุยและนัดกันไว้แต่กลุ่มคนร้ายก็ไม่มาและโทรติดต่อกลุ่มคนดังกล่าวไม่ได้และเมื่อตรวจเช็คจำนวนสินค้าทั้งหมดแล้วมีมุลค่าเพียงแค่5-7พันบาทเท่านั้น ประกอบกับเวลาผ่านไปหลายวันหลังจากรู้ว่าถูกหลอกจึงพากันแจ้งความดังกล่าว

ทางด้าน จนท.ตร. ได้ตรวจสอบพบว่ากลุ่มคนร้ายนี้ทำงานกันเป็นทีมและเป็นแก๊งค์ที่ตระเวณหลอกขายสินค้าไปทั่วภาคอีสานโดยใช้รถยนต์กระบะสวมป้ายทะเบียนปลอมมาและจะเลือกร้านค้าเปิดใหม่และอยู่ห่างไกลชุมชนและก่อนหน้านี้ได้ไปก่อเหตุลักษณะดังกล่าวที่จังหวัดสุรินทร์ พบว่าเป็นกลุ่มแก๊งค์เดียวกันและ1ใน4คนร้ายเคยเป็นอดีตอาสากู้ภัยมีวืทยุสื่อสารติดตัวโดยหลังก่อเหตุทุกครั้งจะเปิดฟังช่องตำรวจที่ตั้งด่านสกัดจับเพื่อหลบหนีไปได้ทุกครั้ง และล่าสุดได้รวบรวมหลักฐานออกหมายเรียกกลุ่มคนร้าย3คนแล้วประกอบด้วยหัวหน้าแก๊งค์ นายภาคภูมิ ชังคะนาค อายุ38ปีบ้านเลขที่597หมู่ที่7 ต.ฆะมัง อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ พร้อมด้วยนายรุ่งโรจน์ ชิราพฤกษ์ ไม่ทราบอายุ บ้านเลขที่ 29ถนนราษฏ์บำรง ต.ชุมแสง อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ และอดีตอาสากู้ภัยนายสถาพร ลมปลิว อาศัยอยู่ตำบลในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ส่วนคนร้ายอีกคนกำลังรวบรวมหลักฐาน ซึ่งถ้าหากออกหมายเรียกครบ2ครั้งถ้าหากไม่มาพบ จนท.ตร.ก็จะออกหมายจับในทันทีในข้อหาฉ้อโกงและหลอกลวงผู้อื่นให้เสียทรัพย์

 

 

ล่าสุดด้านนางสาวเสาวนีย์แจ้งว่า หลังตนเองไปแจ้งความและตำรวจได้อกหมายเรียกแล้วได้มี1ใน4คนร้ายได้โทรติดต่อมายังตนว่าจะขอคืนเงินจำนวน75300บาทให้กับตนและยกสินค้าที่ลงไว้ให้ทั้งหมดด้วยขอเพียงแต่อย่าดำเนินคดีกับเองแต่ตนเองไม่ยอมจะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพื่อที่จะได้ไม่ไปหลอกชาวบ้านคนอื่นๆอีก ด้านนายเรืองฤทธิ์ บุญกัน กำนันตำบลโคกกุงได้ออกมาเตือนให้ชาวบ้านที่เปิดร้านค้าอย่าได้หลงเชื่อกลุ่มบุคคลแปลกหน้าที่มาหลอกขายสินค้าถ้าหากต้องการจะซื้อสินค้าจริงๆก็แนะนำให้เดินทางไปติดต่อร้านค้าในตัวอำเภอจะดีกว่า//////

 

ภาพข่าว พรอนันต์ พันเชื้อ ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ