นางพญาเศร้า 5 ศพ กลางเขื่อน หลังใช้เวลาหานานกว่า5ชม.

 

 

              เรือขนผลผลิตการเกษตรชาวบ้าน วิ่งชนตอไม้ใกล้เกาะสิงโต กลางอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ รอด 6 เสียชีวิต 5 หลังภัยแล้งมาเยือน​ น้ำลด​ ตอผุด ลึก 25 เมตร ค้นนานกว่า 5 ชั่วโมงพบร่าง ด้วยเรือลากเบ็ดหาปลาและนักดำน้ำ

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 20 มกราคม 2563 พ.ต.ต.ประเสริฐ  สิทธิฤทธิ์ สารวัตรเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรท่าปลา อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ รับแจ้งเหตุเรือบรรทุกสินค้าประเภทพืชผลทางการเกษตร ซึ่งมีลักษณะคล้ายเรือโดยสารขนาด 30-35 ที่นั่ง ได้ขนสินค้าการเกษตรพืชผักและผลไม้จำนวนหนึ่ง จากบ้านห้วยต้า หมู่ 4 ต.นางพญา อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ เพื่อนำไปส่งให้กับลูกค้าที่บ้านท่าเรือ หมู่9 ต.ท่าปลา อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ เป็นประจำทุกวันจันทร์ เพื่อนำไปขายต่อยังตลาดนัดและตลาดทั่วไป

 

โดยมีนายประเรียน อภิยะ อายุ 52 ปี เป็นกะลาสีเรือขับเรือลำดังกล่าวออกจากท่าเรือตำบลนางพญา มีผู้อาศัยซึ่งเป็นเครือญาติพี่น้องด้วยกัน 11 คน อาศัยนำสินค้าพืชผลทางการเกษตรมาส่งให้กับลูกค้า ระหว่างเรือแล่นอยู่ในกลางอ่างน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ใกล้กับเกาะสิงโต ซึ่งห่างจากบ้านท่าเรือประมาณ 3 กิโลเมตร เกิดเหตุไม่คาดฝัน เรือที่บรรทุกพืชผลทางการเกษตรมาเกิดชนเข้ากับตอไม้ซึ่งอยู่ใต้น้ำอย่างแรง  เป็นเหตุให้เรือพลิกคว่ำทันที ผู้โดยสารพร้อมคนขับเรือรวม 11 คน ตกลงไปในน้ำทันที ส่วนหนึ่งสามารถว่ายน้ำขึ้นฝั่งได้ ด้วยการอาศัยเกาะเศษไม้และวัสดุที่มากับเรือลอยคอและว่ายน้ำเข้าเกาะสิงห์โต ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร เพียงแค่ 6 คน ส่วนอีก 5 คนจมน้ำทั้งหมด

สารวัตรเวรสอบสวน จึงรายงานผู้บังคับบัญชารับทราบและรุดยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ  ภาคภูมิ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ต.อ.สาโรจน์  พิมพ์คุณากร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าปลา นายณัฐวัฒน์ เกตุจันทร์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วยแพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลท่าปลา เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยวัดหมอนไม้ นักประดาน้ำจากอุตรดิตถ์และสุโขทัย ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อให้การช่วยเหลือผู้รอดชีวิตและผู้ที่จมน้ำ

 

 

 

                 โดยมีเรือหาปลาจากชาวบ้านท่าเรือและบ้านนางพญา จำนวนกว่า 30 ลำ ทราบข่าวพบเรือล่มใกล้เกาะสิงโต จึงรีบเข้าให้การช่วยเหลือค้นหาผู้จมน้ำทันที ด้วยการนำเบ็ดตะขอวางเป็นทุ่น เรียงหน้ากระดานเป็นรูปจันทร์เสี้ยวลากค้นหาไปยังจุดใกล้ตอไม้ ใช้เวลารวมประมาณ 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตและนำร่างขึ้นฝั่งได้ถึง 2 ศพ คือ น.ส.สุนิตตรา น้อยขัน อายุ 35 ปี และนางปรีดา อภิยะ อายุ 43 ปี จุดที่พบศพห่างจากเรือล่มประมาณ 25 เมตร

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                  ขณะเดียวกันนักประดาน้ำจากอุตรดิตถ์และสุโขทัยรวม  6  คน ลงดำน้ำค้นหาบริเวณใต้ท้องเรือที่จมน้ำอยู่และบริเวณใกล้เคียงยังไม่สามารถพบผู้รอดชีวิตหรือสูญหาย ใช้เวลานานหลายชั่วโมง ด้วยสภาพน้ำที่เย็นและมีความลึก 20-25 เมตร ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ศพ จากการใช้เรือลากเบ็ดหาปลาเกี่ยวศพผู้เสียชีวิตได้ 2 ศพ และนักดำน้ำพบอีก 1 ศพ ประกอบด้วย 1.นายจันทร์ น้อยขัน อายุประมาณ70 ปี 2.นายสนิท น้อยขัน อายุ 51ปี และ 3.นายประเรียน อภิยะ อายุ 52 ปี กะลาสีเรือ ซึ่งทั้งหมดเป็นญาติพี่น้องกัน ท่ามกลางความดีใจของญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตที่พบศพ และยังความเศร้าโศรกเสียใจที่ต้องสูญเสียญาติของตนเองไป

จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า สาเหตุที่เรือวิ่งชนตอไม้ใต้น้ำกลางอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ สืบเนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูแล้ง ไม่มีฝนตกลงมาที่บริเวณเหนือเขื่อนสิริกิติ์ ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนมีน้อย และน้อยจนเป็นเหตุให้ตอไม้ ซึ่งอยู่ใต้น้ำเริ่มที่จะโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ แต่ยังคงจมอยู่ใต้ผิวน้ำไม่ถึง 5 เซนติเมตร ขณะเดียวกันเรือขับมาด้วยความเร็วประกอบกับคนขับเรือขาดความระมัดระวังเท่าที่ควร จึงเป็นเหตุให้ตัวเรือซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นส่วนหัว ส่วนกลางหรือส่วนท้ายเรือ ที่วิ่งชนเข้ากับตอไม้ในครั้งนี้ คงต้องรอการพิสูจน์ถึงสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง หลังจากนำซากเรือขึ้นมาบนบกได้แล้ว สำหรับความลึกของอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์บริเวณจุดเกิดเหตุมีความลึกประมาณ 20-25 เมตร

 

 

ภาพ/ข่าว สมภพ​ สินพิพัฒนฤดี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดอุตรดิตถ์