ข่าว

'The Cop อาชีพ'...พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ

'The Cop อาชีพ'...พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ

12 ธ.ค. 2552

"ถ้าพึ่งใครไม่ได้ก็มาที่นี่ เราพร้อมที่จะรับใช้ไม่หนีหน้า จะยากเย็นเข็ญใจไม่นำพา แม้ไกลสุดขอบฟ้าจะฝ่าฟัน ด้วยรอยยิ้มเต็มหน้าวาจาเพราะ ไม่ฉอเลาะเฉพาะเสี่ยเรียกเฮียทั่น จะเป็นใครที่ไหนก็สำคัญ ชนทุกชั้นน้อมคำนับขอรับใช้ ถ้าพึ่งใครไม่ได้ก็มานี่ ป.ขอพลีทั้งชี

 ป้ายข้อความขนาดใหญ่หน้าห้องรับเรื่องร้องทุข์ กองบังคับการกองปราบปราม (บก.ป.) โดย พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุทธารมณ์ อดีตรอง ผบช.น.เมื่อครั้งครองยศ พ.ต.ท.ดำรงตำแหน่ง รอง ผกก.ป.ตำรวจกวีผู้เรียงร้อยเอาไว้

 "ผู้การประเทศไทย" ชื่อที่ผู้คนเรียกแทนตำแหน่ง ผบก.ป.มาจากอำนาจหน้าที่สืบสวนจับกุมคดีได้ทั่วประเทศ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามยุคสมัย ปัจจุบัน พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ เข้ามาดำรงตำแหน่งรักษาการ ผบก.ป.คนล่าสุด สบายๆ สไตล์สีกากีฉบับนี้จะพาไปรู้จักกับนายตำรวจผู้นี้ ซึ่งมี "เข็มมุ่ง" พัฒนาองค์กรให้มีความยุติธรรมและทำงานอย่างเป็นระบบสากล คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน ตามเจตนารมณ์ที่บันทึกไว้ใน "อาชีพ The Cop อาชีพ ศาสตร์และศิลป์" พ็อกเก็ตบุ๊กที่กลั่นมาจากประสบการณ์ค่อนชีวิต

 ในหนังสือเล่มนี้ยังมีแง่มุมเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้ นั่นคือในวัยเด็กรักษาการผู้การกองปราบฯ คนนี้เคยถูกตำรวจจับไปโรงพักในข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ ด้วยการเตะฟุตบอลเสียงดัง เขาถูกนายตำรวจคนหนึ่งอบรมบ่มนิสัยจนกลายเป็นความประทับใจในเครื่องแบบและอาชีพ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางแห่งฝัน สุดท้ายเขาก็ได้ดาวเงินมาติดบ่า ทว่ามันไม่ได้มาอย่างง่ายๆ เลย สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจให้เดินอยู่บนเส้นทางตำรวจอาชีพอย่างภาคภูมิคือ พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรและกระบี่เมื่อ 31 ปีก่อน ทุกวันนี้ก็ยังจดจำใส่เกล้าและถือปฏิบัติอยู่เป็นประจำทุกวันความว่า

 "จะต้องสำนึกตระหนักไว้เสมอว่า ทุกข์ร้อนของประชาชนนั้น ก็เป็นทุกข์ร้อนของตนเองด้วย และการขจัดความเดือดร้อนของผู้อื่น แท้จริงคือการขจัดความเดือดร้อนของตนเองนั่นเอง"

 เมื่อก้าวเข้ามาสู่ตำแหน่งบริหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นหัวหน้าองค์กรที่ได้ชื่อว่าที่พึ่งพิงแห่งสุดท้ายของประชาชนแล้ว พ.ต.อ.สุพิศาล จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการทำงานแบบใหม่ เน้นให้การสืบสวนสอบสวนอย่างยุติธรรม การลงไปทำงานต้องตอบโจทย์ของประชาชนให้ได้ และก้าวไปสู่ตำรวจอาชีพตามแบบฉบับสากล คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน การใช้อำนาจรัฐโดยชอบตามขอบข่ายรัฐธรรมนูญ คำนึงถึงหลักสิทธิเสรีภาพของประชาขนผู้เสียหาย ตลอดจนขั้นตอนการเก็บรวบรวมหลักฐานต้องบริสุทธิ์ยุติธรรม สิ่งเหล่านี้เขาต้องอาศัยจากตำรวจเลือดใหม่

 "การทำงานแนวใหม่ต้องการตำรวจเลือดใหม่มาช่วยผ่องถ่ายวัฒนธรรมตำรวจเก่าๆ ด้วยสูตรถ่ายโอนนายตำรวจเลือดใหม่ปีละ 200 นาย เป็นเวลา 5 ปี แต่ก้าวแรกผ่องถ่ายเลือดใหม่มีโควตาแค่ 80 นาย เป็นบุคคลที่เรียนจบระดับปริญญาตรีแล้วมาบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจชั้นยศนายสิบตำรวจ เมื่อมีนายตำรวจเลือดใหม่เข้ามาแล้วก็จะให้ความรู้ด้านการสืบสวนสมัยใหม่ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ เทคโนโลยีที่ทันสมัย" พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าว

 จุดเริ่มต้นของการก้าวเข้าสู่ตำรวจไทยยุคใหม่แห่งทศวรรษที่ 21 ผบก.ป.ประเดิมด้วยการมุ่งเน้นปราบปรามคดีอาชญากรรม 77 คดีใหญ่ทั่วประเทศไทย โดยสั่งให้นายตำรวจระดับสารวัตร รองผู้กำกับการ และผู้กำกับการ สร้างผลงานชิ้นโบแดงอย่างน้อยคนละ 1 คดี บก.ป.มีนายตำรวจทั้งหมด 77 นาย ก็ได้คดีใหญ่ๆ อย่างต่ำ 77 คดีพอดิบพอดี

 แม้จะรับราชการมาหลายสิบปี ผ่านงานสำคัญๆ มาแล้วมากมาย ประสบการณ์โชกโชน ทว่าสิ่งที่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลคือการได้มีโอกาสถวายอารักขาความปลอดภัยพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามสกุล "ภักดีนฤนาถ" แปลว่า "ภักดีต่อเจ้าเหนือหัว" เมื่อปี 2534 นำความปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

 ภายในห้องทำงานของนายตำรวจร่างท้วมผิวขาวหน้าอิ่มเอิบคลาคล่ำไปด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประดามี ทั้งรูปวาดเทพเจ้ากวนกูควบขี่อาชาศึก หุ่นจำลองเทพเจ้ากวนอูเซรามิก 7 ชิ้น พระพิฆเนศองค์ใหญ่ ฯลฯ เมื่อถามถึงความเชื่อที่มีต่อรูปเคารพเหล่านี้ พ.ต.อ.สุพิศาล อมยิ้มแล้วตอบว่า...ก็เป็นสิ่งที่ควรเชื่อนะ !

 "เทพเจ้ากวนอูเป็นตัวแทนของความซื่อสัตย์ อดทน และรักประชาชน" พ.ต.อ.สุพิศาล บอกถึงสิ่งที่ศรัทธา โดยเฉพาะเทพเจ้ากวนอูถือง้าวที่ผู้ใหญ่ที่นับถือมอบให้เป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน

 ตลอดชีวิตบนเส้นทางสายผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ต้องทำงานบนความเสี่ยง ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย แต่เขาก็รักและภาคภูมิใจในสิ่งที่เป็น และด้วยความที่เป็นนายตำรวจช่างคิดช่างวางแผน ทั้งเรื่องงานและส่วนตัว พ.ต.อ.สุพิศาลวางแผนหลังเกษียณอายุราชการจะพักผ่อนสักระยะหนึ่ง เพราะการเป็นตำรวจอาชีพต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ลำพังแค่การไม่มีโรคก็คือความสุขของชีวิตบั้นปลายแล้ว ทว่าข้าราชการตำรวจมักอายุสั้นเสมอ ด้วยเหตุนี้เขาจึงวางแผนสุดท้ายของชีวิตเอาไว้ด้วย โดยจะมอบ "พ็อกเก็ตบุ๊ก" สุดรักเป็นของที่ระลึกไว้แจกจ่ายผู้ที่มาร่วมงานศพของตัวเอง !

 "...เมื่อเกษียณแล้วหัวโขนที่สวมอยู่คงต้องถอดทิ้ง สิ่งที่จะทิ้งไว้ในการทำงานคงต้องเป็นสิ่งดีๆ ผมยังอยากให้ผู้คนสรรเสริญมากกว่าได้ยินคำด่าทอลับหลัง และนี่แหละความจริงแท้ของอาชีพตำรวจ..."

 นี่คือบันทึกหน้าสุดท้ายของหนังสือ "อาชีพ The Cop อาชีพ ศาสตร์และศิลป์" โดยตำรวจอาชีพคนหนึ่ง ที่ยังมีตัวตนและทำงานแบบตำรวจอาชีพอยู่ในขณะนี้ แม้จะมีวางขายทว่าเจ้าตัวเตรียมเอาไว้แจกตอนงานศพตัวเอง ดังนั้นคนทั่วไปอาจได้อ่านเรื่องราวเหล่านี้ ในวันที่เขาไม่มีตัวตนบนโลกนี้แล้วก็ได้ !
          
 ทีมข่าวรายงานพิเศษ