ข่าว

ไม่รั้งรอ ฝ่ายค้านเปิดฉากถล่มยับงบ 63 ผิดรัฐธรรมนูญ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ฝ่ายค้าน ถล่มม.4 ตั้งงบ 63 ผิดกม.-รธน. เตือนส.ส.สนับสนุนถูกป.ป.ช. สอบขอหั่นงบทั้งก้อนลง 5-15% ขัดวินัยการเงินการคลัง จี้บิ๊กตู่ ลาออก แก้ปัญหาล้มเหลว

 

รัฐสภา - 8 มกราคม 2563  "กมธ.ฝั่งรบ." แจงตัดงบไม่ได้ เหตุกระทบงบประจำ-กระทบลงทุน บอก ส.ส.ฝ่ายค้านอย่าปรามาสการบริหารราชการของ "รัฐบาล"เกินไป ด้าน "ส.ส.พรรคร่วม"​ แนะเปิดเวทีให้ ส.ส. เสนอแนะทำงบฯ ปี 64  

 

ในการประชุมสภาฯ ซึ่งพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท วาระสอง ต่อเนื่องในมาตรา 4 ว่าด้วยการตั้งงบประมาณ ปี 2563 วงเงิน 3.2ล้านล้านบาท โดยกมธ.เสียงข้างมากไม่มีการแก้ไข แต่กมธ.เสียงข้างน้อย ซึ่งเป็นซีกฝ่ายค้าน ลงชื่อขอสงวนความเห็น 25 คน และมีส.ส.สงวนคำแปรญัตติทั้งสิ้น 44 คน 


ทั้งนี้กมธ.เสียงข้างน้อยสงวนคำแปรญัตติให้ปรับลดงบประมาณจำนวนดังกล่าวลง 5 เปอร์เซ็นต์ และ 15 เปอร์เซ็นต์ โดยย้ำถึงการตัดงบประมาณในส่วนที่จัดสรรให้กับหน่วยงนที่ไม่ใช่หน่วยงานขอรับงบประมาณ โดยเฉพาะกองทุนที่ไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคล รวมถึงปรับให้สอดคล้องกับสถานะของจีดีพีประเทศล่าสุด รวมถึงสถานการณ์ของประเทศที่ต้องการกระตุ้นทางด้านเศรษฐกิจ

 

 

ไม่รั้งรอ ฝ่ายค้านเปิดฉากถล่มยับงบ 63 ผิดรัฐธรรมนูญ

 

 

โดยนายวรวัจน์  เอื้ออภิญญากุล กมธ.ฯ เสียงข้างน้อย อภิปรายว่าการจัดสรรงบประมาณ ตามร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2563 ถือว่าขัดกับพ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561 ว่าด้วยการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายให้กับหน่วยรับงบประมาณ ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ และทุนหมุนเวียนที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล  แต่การเสนอจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลตามรางพ.ร.บ.งบฯ 63 พบจัดสรรให้กับทุนหมุนเวียนที่ไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล ให้กับ 20 กองทุนหมุนเวียน รวมเป็นเงิน 1.97แสนล้านบาท  

 

ทั้งนี้เนื้อหาของร่างาพ.ร.บ.งบฯ 63 ยังมีประเด็นที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ดังนั้นตนกังวลว่าหากส.ส.ลงมติสนับสนุนหรือผ่านร่างพ.ร.บ.งบฯ63 ถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายจงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและทำผิดกฎหมาย โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีอำนาจตรวจสอบและมีระยะเวลาตรวจสอบนานถึง 10 ปีกมธ.ฯ เสียงข้างน้อย พยายามท้วงติงและแก้ไขให้ถูกต้องแต่ไม่ได้รับการพิจารณา ซึ่งร่างพ.ร.บ.งบฯ63 ถือว่าผิดปกติและจะสร้างปัญหาให้กับสภาฯ

 

 

ไม่รั้งรอ ฝ่ายค้านเปิดฉากถล่มยับงบ 63 ผิดรัฐธรรมนูญ

 


นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กมธ.เสียงข้างน้อย  อภิปรายว่าการกำหนดงบประมาณของรัฐบาลไม่สอดคล้องกับนโยบายของพรรคการเมืองที่เข้าร่วมเป็นรัฐบาล เพราะเป็นการทำงบประมาณที่ตั้งต้นสมัยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ส่วนโครงการที่จะออกตามนโยบายพรรคการเมืองเชื่อว่าจะออกเป็นโครงการเพิ่มเติมตามมติของครม. โดยตนมองว่าจะทำให้การใช้จ่ายงบประมาณผิดจากสัดส่วนงบประมาณที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลัง เพราะบางกระทรวงได้รับงบประมาณสูงกว่าภาพรวมของงบประมาณทั้งหมด เช่นกองทัพ เป็นต้น ดังนั้นการเสนอปรับลดงบฯ ลง 15 เปอร์เซ็นต์ หรือ 4.3 แสนล้านบาท ถือว่าสอดคล้องกับสถานะจีดีพีของประเทศ   

 

นายสันติ กีระนันทน์ กมธ.เสียงข้างมากและเลขานุการ กมธ.ฯ ชี้แจงว่าถือว่าปรามาสกันเกินไปที่ระบุล่วงหน้าว่าการใช้งบประมาณของรัฐบาลเป็นไปไม่เหมาะสมและอภิปรายเกินจริง ทั้งนี้ยอมรับว่าสถานการณ์ภายนอกประเทศนั้นเกินกว่าที่ประเทศไทยจะควบคุม แต่สิ่งที่สภาฯ อภิปรายไป ถือว่ายอมแพ้เร็วเกินไป

 

 

ไม่รั้งรอ ฝ่ายค้านเปิดฉากถล่มยับงบ 63 ผิดรัฐธรรมนูญ

 

 

การเสนอขอปรับลดงบประมาณลง ข้อเท็จจริงไม่สามารถทำได้ เนื่องจากงบประมาณก้อนใหญ่ 70 เปอร์เซ็นต์ คืองบรายจ่ายประจำ หากปรับลดจะกระทบต่องบลงทุนได้ ขณะที่ประเด็นการก่อหนี้ซึ่งต้องกู้เงินเพื่อชดเชยรายจ่ายขาดดุล 4.6 แสนล้านบาทนั้น ข้อเท็จจริงพบว่าในแต่ละปีภาครัฐจะมีหนี้สินที่ไถ่ถอน ประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ทำให้การกู้เงินจริงจะอยู่ที่ 3.8แสนล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามกรอบที่ไม่สูงเกินกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว
 

"การจัดเก็บรายได้ภาครัฐ ช่วงเดือนตุลาคม ถึงเดือนธันวาคม พบการจัดเก็บรายได้สูงกว่าประมาณการ เพราะการจัดเก็บภาษีผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ดึงผู้ที่เลี่ยงภาษีเข้าระบบได้ ขณะรายได้จากการเก็บภาษีนำเข้า ส่วนของกรมศุลกากรนั้น จากภาวะเงินบาทที่แข็งค่า พบว่าภาคการส่งออกได้รับประโยชน์ ทั้งนี้กรมศุลกากรถือเป็นหน่วยงานจัดเก็บรายได้ที่หดตัวลงเรื่อย ๆ เพราะประเด็นการค้าเสรีตามข้อตกลงเอฟทีเอ กระจายตัวออกไป"นายสันติ ชี้แจง  

 

 

ไม่รั้งรอ ฝ่ายค้านเปิดฉากถล่มยับงบ 63 ผิดรัฐธรรมนูญ

 


ขณะที่ ส.ส.ซึ่งสงวนคำแปรญัตติ มีประเด็นที่น่าสนใจ อาทิ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายเสนอให้รัฐบาลนำข้อผิดพลาด และบกพร่องจากการจัดงบประมาณ ปี 2563 ปรับปรุงแก้ไขในการทำงบประมาณ ปี 2564 พร้อมเสนอให้จัดให้รับฟังความเห็นของส.ส. ฐานะตัวแทนของประชาชนที่สะท้อนถึงปัญหา โดยอย่าคำนึงเฉพาะการมีส่วนได้ส่วนเสียเท่านั้น ทั้งนี้ขอสภาฯ อย่าพูดเฉพาะแต่ปัญหาของการจัดงบประมาณ ปี 2563 และขัดต่อกฎหมายเท่านั้น เพราะหากไม่เริ่มต้นการรับฟังความเห็นของส.ส. เพื่อแก้ปัญหาการทำงบปี 2564 เชื่อว่าปัญหาความเหลื่อมล้ำของประชาชนจะเกิดขึ้น และแผนการแก้ปัญหาของรัฐบาลกี่แผนไม่สามารถแก้ไขได้ 

 

ขณะที่นายพิเชษฐ​์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทยอภิปรายเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลาออกจากตำแหน่ง เพื่อรับผิดชอบต่อกรณีที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้

 

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ