
บิ๊กโจ๊กแถลงด่วน เชื่อถูกยิงเพราะยกเลิกไบโอเมทริกซ์
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษนายกรัฐมนตรี อดีต ผบช.สตม. แถลงด่วนปมรถโดนยิง เชื่อถูกยิงเพราะยกเลิกไบโอเมทริกซ์
จากกรณีคนร้ายลอบยิงรถยนต์ส่วนตัวของ 'บิ๊กโจ๊ก' พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษนายกรัฐมนตรี อดีต ผบช.สตม. เมื่อช่วงเวลา 21.40 น. วันที่ 6 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา โดยเหตุเกิดบริเวณหน้าร้านนวดแห่งหนึ่งบนถนนสุรวงศ์ ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่ารถคันดังกล่าวถูกยิงจำนวน 7 นัด ซึ่งโชคดีที่ตอนนั้น 'พล.ต.ท.สุรเชษฐ์' ไม่ได้อยู่ภายในรถ
จากการตรวจสอบรถยนต์ที่ถูกยิงเป็นรถยี่ห้อ เลกซัส รุ่น อาร์เอกซ์ 270 สีขาว ทะเบียน 9 กจ 351 กทม. บริเวณประตูฝั่งซ้าย ใกล้ที่พักเท้า ที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าพบรูกระสุน 1 รู และที่ประตูที่นั่งผู้โดยสารด้านซ้ายหลังใกล้ที่พักเท้าพบรอยกระสุน รวม 7 นัด
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากร่องรอยกระสุนพบว่า รูกระสุน จำนวน 7 นัดนั้นมีวิธีการยิงที่เกาะเป็นกลุ่มไม่กระจายออกจากกัน มีเพียง 1 นัด เท่านั้นที่ยิงไปที่ที่นั่งผู้โดยสารคนหน้า ในทางการสืบสวนเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นมืออาชีพที่มีความสามารถในการยิงปืนระดับสูง ประกอบกับการใช้เวลาเพียง 1 นาที เท่านั้นในการลั่นไก จึงเชื่อได้ว่าไม่ได้เป็นมือปืนระดับล่าง อีกทั้งรถคันที่เกิดเหตุยังไม่ใช่รถของบิ๊กโจ๊กที่ใช้ประจำ แต่เป็นรถของภรรยา ซึ่งกลุ่มมือปืนต้องมีการวางแผน มีคนให้ข้อมูลการใช้รถของบิ๊กโจ๊กอย่างแน่นอนว่าจะใช้รถคันไหน
ส่วนเส้นทางการก่อเหตุคนร้ายขามาก่อเหตุใช้เส้นทางถนนสุรวงศ์ แล้วเลี้ยวเข้าซอยสาริกา ขับขี่วนไปท้ายซอย ซึ่งเป็นทางตัน แล้ววกกลับมา เมื่อมาถึงรถได้ใช้อาวุธปืนยิงใกล้ที่พักเท้า และเมื่อคนร้ายก่อเหตุแล้วได้ขับขี่รถย้อนกลับมาทางเดิม แล้วขับขี่มุ่งหน้าไปยังแยกอังรีดูนังต์ ได้เลี้ยวซ้ายวิ่งถนนพระราม 4 มุ่งหน้ามาแยกสามย่าน ซึ่งในช่วงถนนที่คนร้ายใช้หลบหนีถือว่าเป็นถนนสายหลัก จึงไม่น่ายากที่จะสืบสวนจากกล้องวงจรปิด
ล่าสุดวันนี้ (8 มกราคม 2563) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าพบ พนักงานสอบสวน สน.บางรัก กรณีรถยนต์โดนยิง โดยได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
วันนี้ผมก็มาตัวเปล่า ต้องเรียนว่าผมพยายามเก็บเนื้อเก็บตัวมาเป็นปีแล้ว ไม่น่าจะมาเจอกันในสถานการณ์แบบนี้ ที่ผมต้องช่วยเหลือตัวเองแบบนี้ ผมไม่ได้มีเอกสารอะไรมา ข้อแรกไม่ต้องกังวลใจว่าผมจะไปสร้างภาพสร้างสถานการณ์ต่างๆ สิ่งที่ผมถูกกระทำที่รับมันก็มากพอแล้ว วันนี้รถผมก็เสียหายเยอะแยะไปหมด มันไม่มีมูลเหตจูงใจที่จะจัดฉาก ผมเป็นตำรวจเก่า ถ้าผมมีคู่อริกับใครผมต้องรู้ เช่น 2 ปีที่แล้ว รถนักข่าวถูกยิง ก็ต้องรู้ว่าใครยิง
แล้วจับคนร้ายได้มั้ย ก็จับไม่ได้ เหตุการณ์แบบนี้มาทำกับผม มันต้องไม่เกิดขึ้นแล้ว มันต้องทำตัวให้ประชาชนศรัทธา ประเด็นมูลเหตุมีเรื่องเดียว คือเรื่องไบโอเมทริค การตรวจรับงานไบโอเมทริคมันล่าไป 100 กว่าวัน ผมเองก็ต้องรักษาผลประโยชน์ให้หน่วย มันเป็นภาษีของประชาชน เมื่อผมตัดสินใจเซ็นต์หนังสือถึงท่าน ผบ.ตร. เมื่อผมตัดสินใจแล้วผมต้องกล้ารับ การตัดสินใจของผมก็เพื่อหน่วยและประเทศชาติ
ถ้าไม่ใช้ผู้มีอำนาจจริงๆ ไม่มีใครกล้าทำกับผมหรอก น่าจะเป็นคนคนเดียวกับคนที่ยิงรถนักข่าว ถ้าผมเป็น ผบ.ตร. จับคนแบบนี้ไม่ได้ ผมต้องรับผิดชอบ กล้องวงจรปิดมันเต็มไปหมด จะจับไม่ได้ได้ยังไง คดีของผมวันนี้วันที่ 3 แล้ว ยังไม่มีวี่แววอะไรเลย แต่ผมไม่ตำหนิใคร ผมไม่ได้ท้าชนใคร มันต้องเอาความจริงให้ปรากฎ ถ้ามันไม่มีความผิดจริงๆผมไม่กล้าเซ็นยกเลิกไบโอเมทริคหรอก ไม่อย่างนั้นบริษัทเขาก็ต้องฟ้องผมแล้ว