จับแก๊งลอบขนเขมร4คน เข้า-ออกประเทศพร้อมคนนำพาจาก จ.เพชรบูรณ์

    เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 7 ม.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผบ.ชค.กรม ทพ.ที่ 12 สั่งการให้ ร.อ.วิรัตน์ หันทิพย์ ผบ.ร้อย ทพ.1203 ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าร่วมทำการตั้งด่านตรวจค้นที่บริเวณถนนสายบ้านอ่างศิลา-บ้านโนนหมากมุ่น ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 1 กม. เพื่อป้องกันและจับกุมการลักลอบนำแรงงานผิดกฎหมาย และสินค้าผิดกฎหมายต่าง ๆ จากฝั่งประเทศกัมพูชาเข้ามาในประเทศอย่างเข้มงวด

    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจค้นดังกล่าว พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีชูซุ สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน นข-3126 เพชรบูรณ์ ติดตั้งหลังคาผ้าใบ วิ่งเข้ามาที่ด่านมุ่งหน้าสู่ชายแดน เจ้าหน้าที่จึงขอทำการตรวจค้นอย่างละเอียด ซึ่งจากการตรวจค้น พบว่า มีนายกรเอก ชยณัฐรณชัช อายุ 62 ปี ที่อยู่ 13 ม.1 ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เป็นคนขับ ภายในรถมีแรงงานกัมพูชา จำนวน 4 คน แยกเป็นชาย 2 คน หญิง 2 คน โดยสารมาด้วย นอกจากนั้น ยังพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก125 สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน 1กฎ-7519 เพชรบูรณ์ บรรทุกมาด้วยอีก 1 คัน โดยมีกระเป๋าเสื้อผ้าวางทับไว้ เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่มองเห็นจากด้านนอก เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทางชาวกัมพูชาทั้งหมด ปรากฏว่า ชาวกัมพูชาทั้งหมดมีพาสปอร์ต 2 คน อีก 2 คน ไม่มีพาสปอร์ต ส่วนรถจักรยานยนต์มีหนังสือคู่มือประจำรถถูกต้อง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาทำการสอบสวนที่ กองร้อย ทพ.1203

อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนโดยผ่านล่ามแปลภาษากัมพูชา ทราบว่าชาวกัมพูชาทั้งหมดยอมรับสารภาพว่า ได้เดินทางข้ามชายแดนจากฝั่งกัมพูชาเข้ามาฝั่งไทยในพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โปงน้ำร้อน จ.จันทบุรี และได้เดินทางไปทำงานกับนายจ้างคนไทยในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา ล่าสุด นายจ้างได้เลิกจ้าง พวกตนจึงได้ชักชวนกันเดินทางกลับประเทศกัมพูชา

       โดยได้ว่าจ้างนายกรเอก ชยณัฐรณชัช ให้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมาส่งที่ชายแดน จ.สระแก้ว ในราคา 6,000 บาท ส่วนรถจักรยานยนต์นั้น ก็จะนำไปใช้ในประเทศกัมพูชา หลังสอบสวนเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้นำเอาตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.โคกสูง ดำเนินคดีในข้อหา ลักลอบข้ามชายแดนโดยผิดช่องทางตามกฎหมายต่อไป

----------------------------------

ข่าวโดย/ยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว