ข่าว

อธิบดีกรมป่าไม้แฉต่างชาติฮุบป่าม่อนแจ่ม ไล่เช็กบิลเอาผิด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อธิบดีกรมป่าไม้แฉต่างชาติฮุบป่าม่อนแจ่ม 2 รีสอร์ต รวมทุนกับคนไทยจากกรุงเทพ ไล่เช็กบิลเอาผิด รู้ผลภายในเดือนมกราคม

 

30 ธันวาคม 2562 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ศูนย์ปฎิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป) ม่อนแจ่ม อ. แม่ริม จ. เชียงใหม่ ขยายผลตรวจสอบพบว่า มีรีสอร์ต 2 แห่งครอบครองโดยกลุ่มทุนชาวชาวต่างชาติ 
 

 

ทั้งนี้ประกอบด้วย รีสอร์ตม่อนม่วน โดยได้ทำเกินพื้นที่จากเอกสารสิทธิ์ที่ดิน 3-2-45 ไร่ ซึ่งเข้าข่าย จะต้องถูกดำเนินคดีทันที  อีกแห่งคือ รีสอร์ตม่อนจ้อ มีรายงานทางลับว่า เจ้าของกิจการเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งลงทุนร่วมกับบุคคลจากกรุงเทพฯ โดยรีสอร์ตทั้ง 2 แห่งเป็นรีสอร์ตขนาดใหญ่ คณะเจ้าหน้าที่จึงจะขยายผลตรวจสอบเพื่อทำบันทึกและร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเร็วที่สุด

 

จากการประชุมร่วมผู้ประกอบการที่ครอบครองทำประโยชน์ทั้งหมดในที่ดินป่าไม้ของกรมป่าไม้ รวมเนื้อที่ประมาณ​ 229ไร่ ที่โครงการ​หลวง​หนองหอย ตำบลโป่งแยงวานนี้ (28 ธ.ค.) พบว่า ผู้ที่ครอบครองที่อยู่ในแปลงจัดสรรที่ดิน ตามโครงการจัดการทรัพยากรที่ดินและป่าของกรมป่าไม้มี 53 ราย รวมเนื้อที่ 229ไร่ 


โดยตรวจสอบปรากฏว่า มีสิทธิ์อยู่ทำกิน 38 ราย ส่วนอีก 12 ราย มีสิทธิอยู่อาศัยทำกิน แต่ทำเกินพื้นที่ และมี 3 ราย ที่เปลี่ยนมือผู้ครอบครองทำประโยชน์เป็นบุคคลจากท้องที่อื่นไม่มีรายชื่อในโครงการซึ่งเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีแล้ว ได้แก่ม่อนแสนสิริจันทรา ม่อนดอยลอยฟ้า และบ้านท่าจันทร์ รวมเนื้อที่ 8 ไร่เศษ 

 

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทำความเข้าใจให้ผู้ครอบครองแปลงที่ดินทราบวัตถุประสงค์ของปฏิบัติการจัดระเบียบและชี้แจง แนวทางปฏิบัติตามนโยบายของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ให้พิจารณาการดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง บนพื้นฐานของหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ควบคู่กันไป เพื่อการบริหารจัดการที่ดินป่าไม้อย่างยั่งยืน

 

พร้อมทั้งชี้แจงแก่ผู้ครอบครองที่ดินว่าห้ามก่อสร้างเพิ่มเติมโดยเด็ดขาด หากมีการก่อสร้างใหม่จะจับกุมและดำเนินคดีและหมดสิทธิ์ในที่ดินที่ทางรัฐจะจัดสรรให้ทำกิน โดยจัดทำป้ายติดประกาศให้ผู้ครอบครองทำประโยชน์ที่ดินแต่ละรายทราบ จะคัดกรองบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติในแปลงที่ดิน 50 กว่ารายเช่น คนจากต่างถิ่น นายทุน ซึ่งจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะนี้ดำเนินคดีไปแล้ว 4 ราย ซึ่งจะคัดกรองต่อไปให้ถึงที่สุด โดยจะดำเนินคดีทุกรายที่ตรวจสอบพบว่า เป็นกลุ่มบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติรายอื่นที่เข้ามาครอบครองทำประโยชน์ที่ดินในเขตดอยม่อนแจ่ม

 

สำหรับกลุ่มประชาชนที่ทำกินด้านการเกษตรและให้บริการด้านท่องเที่ยวทั้ง 50 แปลง ถ้าตรวจสอบพบว่า ก่อสร้างออกนอกแปลงออกไป ห้รื้อถอนออกไปภายใน 15 วัน หลังจากเจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบ ซึ่งผู้ครอบครอง แปลงที่ดินที่เข้าร่วมประชุมเข้าใจเป็นอย่างดี พร้อมจะปฏิบัติตาม

 

นอกจากนี้ คณะเจ้าหน้าที่เสนอที่ประชุมให้ตั้งจุดตรวจสอบ การขนย้ายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างเข้าพื้นที่ 
เพื่อควบคุมการก่อสร้างเพิ่มเติม โดยจะตั้งจุดตรวจสอบที่บริเวณหน้าโครงการหลวงหนองหอย รวมทั้งเสนอให้ มีการย้ายจุดที่ทิ้งขยะที่มีปัญหาไปที่ใหม่ แล้วจะขออนุญาตใช้พื้นที่ให้ถูกต้องตามระเบียบต่อไป สำหรับที่ทิ้งขยะเดิม ทางชุมชนจะฝังกลบเพื่อสงวนรักษาพื้นที่ต้นน้ำชั้น 1 A

 

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า รีสอร์ตขนาดใหญ่ที่มีสิ่งก่อสร้างถาวรจำนวนมากแจ้งว่า มีเอกสารสิทธิที่ดินซึ่งไม่ได้อยู่เขตป่าสงวนแห่งชาติ ทางศปก.พป. จะเร่งตรวจสอบความถูกต้องต่อไป จากการขยายผลคาดว่า มีรีสอร์ตที่ไม่เข้าแสดงตัวอีกหลายราย เบื้องต้นตรวจสอบพบแล้ว 2 ราย และพบลานกางเต้นท์เพิ่มเติมอีก 8 ราย


   
ผลการตรวจสอบล่าสุดพบ รีสอร์ตและลานกางเต้นท์รวม 63 ราย ซึ่งยังมีผู้ที่ไม่ยอมมาแสดงตัวอีกหลายรายที่ต้องขยายผลตามแผนงานต่อไป จากประเมินสถานการณ์ในการจัดระเบียบม่อนแจ่มครั้งนี้ยังไม่พบการต่อต้านหรือการสร้างความรุนแรงใด ๆ จากชาวม้งในพื้นที่และกลุ่มเสียผลประโยชน์ 

 

คาดว่าภายในเดือนมกราคมจะได้รายละเอียดสถานภาพการครอบครองพื้นที่การประกอบการรีสอร์ตหรือที่พักครบถ้วนทุกรายก่อนหน้านี้ว่า ใครเป็นผู้ครอบครองเดิมและใครบุกรุกใหม่หรือเปลี่ยนมือมา ซึ่งกรมป่าไม้จะดำเนินคดีผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบและข้อตกลงอย่างถึงที่สุด

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ