
สาวแชร์ประสบการณ์ 6 ปี เต็มที่ต่อสู้โรค 'มะเร็ง' จนหายขาด
สาวแชร์ประสบการณ์ 6 ปี เต็มที่ต่อสู้โรค 'มะเร็ง' จนหายขาด
เรื่องราวนี้สร้างกำลงใจให้ใครหลายๆนได้ดีมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะคนที่กำลังป่วย โรคร้ายรุมเร้าจนทำให้ตัวเองท้อหมดกำลังใจ แต่บอกเลยว่า สาวสวยคนนี้เธอได้ออกมาโพสต์แชร์ประสบการณ์ที่เธอเอาชีวิตรอดมาได้จากโรค "มะเร็ง" ซึ่งเธอได้เล่าเรื่องราวผ่านทางเฟซบุ๊ก Rachada Kookkai เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2562 ว่าเหตุการณ์ที่กุ๊กกำลังจะแชร์ต่อไปนี้ เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับกุ๊กเมื่อ 6 ปีที่แล้วค่ะ กุ๊กแทบจะไม่เคยเอารูปให้ใครดู หรือเล่าให้ใครฟังว่าตัวเองเคยเป็น "มะเร็งต่อมน้ำเหลือง"
เพราะกุ๊กเกลียดตัวเองที่เป็นภาระและทำให้พ่อแม่ต้องลำบาก กลัวการแชร์ประสบการณ์และถูกคนรอบข้างตัดสิน เพราะตัวเองเคยทำตัวไม่ดี แต่วันนี้ กุ๊กได้ก้าวผ่านความกลัว ความเกลียดนั้นมาได้แล้ว และอยากให้เรื่องราวชีวิตของตัวเองเป็นประโยชน์กับใครหลายๆคน ที่รู้สึกท้อ และหมดกำลังใจจะสู้กับความเจ็บป่วยของตัวเองค่ะ
กุ๊กขอเล่า Story ในแบบที่เป็นภาษาพูดของกุ๊กนะคะ หากใช้คำไม่สุภาพ ให้อภัยกุ๊กด้วยนะคะขอบคุณ พี่จอย ที่ทำให้วันนี้หนูได้รูปอดีตของตัวเองคืนมาค่ะ ขอบคุณคร้าาา
หนูชื่อ กุ๊กไก่ ค่ะ เรียนนิเทศศาสตร์ภาพยนตร์ ม.กรุงเทพ จบปีการศึกษา 2555 ตอนนั้นมีความสุข ความฝันมากมายที่อยากทำหลังเรียนจบ แต่ชีวิตมันเล่นตลกค่ะ
ใช่ค่ะ 2 รูปนี้เกิดขึ้นวันเดียวกัน คำแรกที่หมอพูด คุณ รชาดา เราเอ็กซเรย์ เจอก้อนเนื้อขนาด 7 cm ระหว่างปอดกับหัวใจคุณนะ หมอไม่แน่ใจว่ามันคือเนื้อดี หรือเนื้อร้าย
โอ้โหหหห ไม่ได้เตรียมใจอะไรมาเลย เมื่อวาน เมื่อคืน ยังปาร์ตี้มีความสุขกับเพื่อนที่เสม็ดอยู่เลย ตอนที่ขึ้นแท็กซี่กลับบ้านจำได้ว่าสติหลุดไปเลย คนแรกที่ไม่คิดจะโทรบอกคือพ่อกับแม่ กลัวเค้าเป็นห่วงกะว่าจะแอบรักษาเงียบๆคนเดียวที่กทม แต่แม่งต้องผ่าตัด แล้วต้องมีคนในครอบครัวเซ็นต์อนุญาต กุ๊กตัดสีนใจโทรบอกพี่สาวค่ะ บอกให้มาเซ็นต์ให้หน่อย ไม่ต้องบอกแม่นะ คำตอบที่ได้ เค้าเป็นคนให้ชีวิตเรานะ เรื่องใหญ่ขนาดนี้จะไม่บอกแม่หน่อยหรอ เออหว่ะ ชีวิตไม่ใช้ของเราคนเดียวนิหว่ะ ทำไมคิดได้แค่นี้
และตกเช้าแม่ก็มาถึง กทม. แม่เป็นยื่งกว่า Wonder Woman แค่บอกว่าต้องการแม่ทิ้งทุก
ครั้งแรกในชีวิต ที่ต้องเข้าห้องผ่าตัดเพื่อ
หมอ : เราจะไม่วางยาสลบนะคะ แค่ฉีดยาชาก็พอ
กุ๊ก : หมอค่ะ หนูเจ็บมากเลยค่ะ
หมอ : อ้าว...ยาชายังไม่ออกฤทธิ์ห
ใช่ค่ะ ภาษาชาวบ้านมีดลงคอไปแล้ว ระหว่างที่ผ่าตัด 4 ชั่วโมง หมอก็ชวนคุยตลอดค่ะ กลัวคนไข้จะเครียด เท่าที่หมอดูๆอยู่ก้อนเนื่อ
เหอะๆ หมอได้สร้างบาดแผลไว้ในใจกุ
พังค่ะ (ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่
ดูได้ไหมค่ะ นี้คือใบหน้าของคนที่ทำร้าย
แล้วกุ๊กก็ตัดสินใจสู้เพื่อ
และนี้คือเช้าวันใหม่ หลังให้คีโมครั้งแรกผ่านพ้น
และนี้คือภาพก่อนให้คีโมครั
คีโมครั้งที่สามแล้วเย้ๆ กำลังใจดีขึ้นมากๆค่ะ บวกกับผมเริ่มบางลงแม่เลยชว
จนมาถึงก่อนคีโมครั้งที่ 6 แม่ กับ คุณน้าพี ได้ทำการขายอีกครั้ง ผมบางลงทุกวัน กว่าจะถึงครั้งที่ 12 แม่ว่าร่วงหมดหัวพอดี ไปโกนรอไว้เลยเถอะจะได้ไม่น
ใช่ค่ะ เวลานี้เชื่อแม่ทุกอย่าง แล้ววันที่ไปหาหมอ หมอได้ถามว่าโกนผมทำไม ผมร่วงหรอ
กุ๊ก : ไม่ร่วงค่ะแค่บางลง แต่กว่าจะถึงครั้งที่ 12 คงหมดหัวพอดี
หมอ : หมอจะให้อีกแค่ 2 ครั้งก็พอนะเพราะร่างกายตอบ
คุณพระมากกกกกกกค่ะ คุณแม่ขา น้ำตาหนูจะไหล
กุ๊กเริ่มมีความสุขกับวิกผม
ดีแล้วที่ป่วยตอนเด็ก เพราะมันทำให้เราเลิกเที่ยว
ถ้าไม่ป่วยคงไม่ได้อยู่กับพ
ถ้าไม่ป่วยคงไม่รู้จักการเข
ถ้าไม่ป่วยคงไม่รู้ว่าใครที
แล้วก็มาถึงขั้นตอนสุดท้าย คือการฉายแสง เย้ๆอย่าไปคิดอะไรมาก คิดซะว่าหมอทำหน้ากาก official ที่มีแค่เราคนเดียวที่ใส่มั
ข้อแนะนำคือ อย่าเพิ่งรักสวยรักงามเห็นค
เมื่อรักษาเสร็จหมดแล้ว น้ำหนักตัวมันจะค่อยๆดีขึ้น
และนี้คือกุ๊กในปัจจุบัน ที่มีหน้าที่การงานที่ดี เป็นลูกที่ดีให้กับพ่อแม่ได
ถ้าพี่ๆน้องๆ หรือใครที่กำลังป่วยอยู่ กุ๊กอยากให้ลุกขึ้นสู้ค่ะ หมอรักษาเราได้แค่ภายนอก แต่จิตใจของเรา เราและคนในครอบครัวเท่านั้น
จงให้เหตุผลกับยมทูตและเจ้า
และวันนี้ที่กุ๊กยังหายใจอย
"สิ่งสำคัญอย่าลืมที่จะให้อ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ สู้ๆไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าใจ