ลือสะพัด 21 ธันวาคม 2012 จะเป็นวันสิ้นโลก ด้วยเป็นวันสุดท้ายของปฏิทินมายา ลองย้อนมาดูความเห็นผู้คนหลากหลายสังคมกันดีกว่าตอนนั้นรู้สึกอย่างไร
คมชัดลึกออนไลน์ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคม 2555 ข่าวที่กำลังเป็นที่สนอกสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อใครๆ ได้ยินคำว่า "วันที่ 21 ธันวาคม 2012 จะเป็นวันสิ้นโลก" ด้วยเป็นวันสุดท้ายของปฏิทินมายา
ซึ่งนี่แหละที่ทำให้ทั่วโลกต่างตื่นตัว และจับตามองเรื่องนี้กันอย่างไม่ลดละ แม้จะมีนักดาราศาสตร์ และนักวิทยาศาสตร์ต่างระบุกันนักต่อนักแล้วว่า "วันสิ้นโลกไม่มีจริง" แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า มีอีกหลายต่อหลายคนค่อนข้างเชื่อเรื่องราวเหล่านี้กันพอสมควร
คมชัดลึก ได้สัมภาษณ์ผู้คนจากหลากหลายสังคม ลองมาฟังความคิดเห็นจากเขาเหล่านี้กันดีกว่าว่าเขารู้สึกและนึกคิดเกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านี้ยังไงบ้าง เริ่มจาก พนักงานทั่วไป "นานา" สมิทธา แสงจินดาวงษ์ ที่ยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะเลยว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้ ตรงกันข้ามกลับรู้สึกเฉยๆ เหมือนกระแสของ วาย ทู เค เมื่อปี 2000 ที่ผ่านมา แต่ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าอะไรจะเกิดก็ต้องปล่อยให้เกิดขึ้น เพราะถือว่าทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว และเป็นสัจธรรมที่จะต้องเกิดแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น ทุกวันนี้จึงต้องเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุด
"ส่วนตัวแล้วเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง อีกอย่างเรื่องราวที่เขาเอามาเชื่อกันนั้น ก็มาจากชนเผ่ามายา ซึ่งอาจจะไกลตัวของคนไทยไปสักหน่อย แต่เรื่องของความเชื่อแบบนี้ บังคับกันไม่ได้ เพราะความคิดของแต่ละคนแตกต่างกัน อย่างที่บ้านอาจจะมีความเชื่อเรื่องแบบนี้บ้างว่าถ้าถึงวันนั้นจะเป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่ถ้าถามตัวเองเชื่อเป็นส่วนน้อยและไม่ค่อยกลัวเรื่องแบบนี้สักเท่าไร ถึงแม้วันนั้นจะมาถึง เพราะเราถือว่าทุกวันนี้เราได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับกับสถานการณ์ต่างๆ ทุกวันอยู่แล้ว ดังนั้น ก็ไม่ต้องกลัวถ้าจะมีวันสิ้นโลก สำหรับวันที่ 21 ธันวาคม ที่กำลังจะมาถึงนี้ ขอยืนยันเลยว่าก็จะทำงานตามปกติ และไม่อยากให้ทุกคนตื่นกับเรื่องนี้มากนัก เพราะถ้าวันนั้นไม่มีอะไรจริงๆ ทุกคนก็จะใช้ชีวิตกันปกติเหมือนเดิมอยู่ดี" นานา เน้นย้ำ
อ่านข่าว - วันสิ้นโลกแท้จริง โพสต์สุดท้ายลุงออสซีก่อนไฟป่าคร่าชีวิต
ขณะที่ เมกอัพอาร์ทิสต์ ที่ใฝ่ทางธรรม "เป็ด" อภิชาติ นรเศรษฐาภรณ์ บอกว่า จะมาสิ้นโลกอะไรตอนนี้ ไม่มีทางหรอก เรื่องนี้ก็เหมือนอย่างเรื่องราวของวันก่อนที่ราหูย้ายราศี คนทุกวงการที่รู้จักต่างโทรศัพท์มาให้ไปไหว้ ไปสวดพระราหู ส่วนตัวในฐานะที่นับถือศาสนาพุทธ และสวดมนต์โดยยึดพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ และถ้าตราบใดเราเป็นคนมีศีลธรรม ทุกอย่างก็จะดี หรือต่อให้ราหูเข้าแล้วเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นนั่นก็คือ กฎแห่งกรรม เกิดเหตุก็ต้องเกิดผล เป็นเรื่องจริง
"เช่นเดียวกับเรื่องของวันสิ้นโลก 21 นี้ โลกจะแตกถ้าเป็นจริงก็ต้องมีเหตุ เพราะเราไปรุกรานเขาหรือเปล่า เราออกไปนอกโลกเพื่อหาทรัพยากรมาสร้างความสะดวกสบายให้เราหรือเปล่า เมื่อเราไปรบกวนเขา ระบบสุริยะจักรวาลเกิดปัญหาแล้วตอบเรากลับมา ก็ต้องยอมรับ ถ้าเกิดขึ้นจริงก็ไม่กลัว ไม่ได้ตายคนเดียว แต่ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงเราต้องรับรู้แล้ว เพราะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากมายที่จะสามารถตรวบสอบได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ และในฐานะคนพุทธเราก็ต้องทำใจและพร้อมที่จะรับมือ และต้องรับผิดชอบร่วมกันในทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น" เมกอัพอาร์ทิสต์คนดัง ให้ความเห็น
ฟาก พีอาร์สาว "มิ้นท์" อรรถวดี จิรมณีกุล เมื่อได้ยินคำถามถึงคำทำนาย "วันสิ้นโลก" เธอยืนยันด้วย 3 คำสั้นๆ "ไม่ เชื่อ ค่ะ" พร้อมกับคำอธิบายเสริมอีกเล็กน้อยว่า ไม่เคยคิดมากกับเรื่องดังกล่าว อีกทั้งยังเชื่อว่าจะต้องมีปี 2013 แน่นอน
"เกี่ยวกับประเด็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจของคนทั่วไปอยู่ในขณะนี้ โดยส่วนตัวซึ่งมีความเชื่อว่า อย่างไรซะก็ไม่มีวันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้น มิ้นท์จึงไม่คิดว่าจะต้องเตรียมตัวอะไร ในขณะเดียวกันมิ้นต์อยากบอกทุกคนว่าอย่าไปเครียดหรือกังวลกับเรื่องนี้ อยากให้ฟังหูไว้หู อยากให้ทำแต่ละวันให้ดีที่สุด ให้อยู่กับปัจจุบันมากๆ เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด" พีอาร์สาว ให้ความเห็น
อ่านข่าว - ดัตช์พบครอบครัวอาศัยห้องใต้ดินในฟาร์ม 9 ปีคาดรอวันสิ้นโลก
ในมุมมองของ นักธุรกิจ "หนุ่ม" เฉลิมพงษ์ ศรีโรจนันท์ กรรมการบริหารบริษัท สหไทยพัฒนภัณฑ์ จำกัด เป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่เชื่อในคำทำนายว่าจะเกิดขึ้นปุบปับจริงๆ แต่เชื่อในไอเดียการทำนายที่มาจากคนรุ่นหลัง ว่าเป็นเหมือนกุศโลบายเตือนสติให้คนยุคใหม่ใช้ชีวิตให้เต็มที่ มีสติ และนึกถึงโลกให้มากขึ้นมากกว่า
"ในปีนี้มีหนึ่งคำทำนาย ปีหน้าก็จะมีคำทำนายเข้ามาอีกเรื่อยๆ ส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้น แต่ตระหนักให้จริงจังกับชีวิตมากกว่า เพราะด้วยความเป็นนักธุรกิจ เลยมีความคิดที่ว่าจะทำอะไรก็ทำเลยอย่ารอให้เสียเวลา ดังนั้น คำทำนายก็เหมือนเป็นการกระตุ้นให้เราทำสิ่งต่างๆ เพื่อตัวเองและคนรอบข้างมากขึ้น อาจจะมีเรื่องของภัยพิบัติต่างๆ ที่เป็นเหมือนคำเตือนจากธรรมชาติทำให้คนเครียดได้บ้าง ตัวเองก็เตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นไว้เหมือนกัน ด้วยการสร้างระบบความปลอดภัย สร้างระบบการใช้ชีวิตให้ลูกๆ และคนรอบข้าง เผื่อวันหนึ่งที่ตัวเองไม่อยู่คนข้างหลังจะใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างมีคุณภาพ" ผู้บริหารบริษัทสหไทยพัฒนภัณฑ์ แสดงความคิดเห็น
ทางด้าน ออแกไนซ์สาวสมัยใหม่ "พลอย" พลอยพรรณ ภัทรธีรานนท์ เผย เรื่องการทำนายเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เมื่อก่อนจะไม่เชื่อเลย แต่พอมีคนทำนายทายทักแล้วเกิดขึ้นจริงเราก็เริ่มเชื่อบ้าง และถ้าเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงก็คิดว่าใช้ชีวิตมาคุ้มแล้ว ไม่ได้กลัวแต่อย่างใด
"ไม่ได้กังวลปัญหาโลกแตกมาก เพราะถ้าถึงวันจริงๆ ก็คงไปกันหมด ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้ก็เริ่มเตรียมตัวกับอุทกภัย ภัยพิบัติที่เขาเข้ามาเตือนเราบ้าง ไม่ถึงขั้นตื่นตระหนกอะไร เพราะว่าเราก็โตแล้ว ได้ทำอะไรที่อยากทำมาเกือบหมด มีการงานมั่นคง ดูแลคุณพ่อคุณแม่ได้เต็มที่ เลยคิดว่าเราใช้ชีวิตมาคุ้มแล้ว เลยจุดที่ต้องนึกว่าอย่าพึ่งแตกนะ...ยังไม่อยากตาย ไม่มีอารมณ์นั้นแล้ว ส่วนการทำนายทายทัก พลอยว่าเราต้องใช้วิจารณญาณด้วย อย่างถ้าไสยศาสตร์มากๆ ก็ไม่ควรเชื่อ แต่ถ้าทำนายมาแล้วให้เราไปทำบุญทำทานแก้เคล็ดแบบนี้ก็เชื่อได้ เพราะทำแล้วไม่เสียหายอะไร" สาวพลอย กล่าว
ปิดท้ายที่ นาวาอากาศเอก ฐากูร เกิดแก้ว หัวหน้าโครงการศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์ (LESA) กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้ประชาชนเกิดความสนใจในข่าวเรื่องวันสิ้นโลก ส่วนตัวเห็นว่าน่าจะมาจากการสร้างกระแสข่าวขึ้นมา ประกอบกับความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้น้อย คนไทยมีความเชื่อเรื่องลักษณะง่ายๆ ทำให้เกิดกลุ่มคนหวังใช้ช่วงเวลานี้ปล่อยกระแสข่าวดังกล่าวออกมา เพื่อหวังผลประโยชน์ อีกทั้งเมื่อเอาเรื่องโหราศาสตร์กับดาราศาสตร์มารวมกัน อย่างนี้คนไทยยิ่งชอบ
"ส่วนตัวแล้วมีความเชื่อว่า คนที่พยายามสร้างกระแสข่าวออกมานี้ ส่วนใหญ่แล้วจะได้รับผลประโยชน์แทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ หนังสือ ล้วนแล้วแต่ได้ประโยชน์ทั้งสิ้น" ผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์ ให้ความเห็น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง