
สลด หนุ่มใหญ่วัย 65 ควบ 18 ล้อหลับในพลาดเสียหลักลงข้างทางดับ
สลด หนุ่มใหญ่วัย 65 ควบ 18 ล้อหลับในพลาดเสียหลักลงข้างทางเสียชีวิต
สุดสลดชายวัย65ปี พนักงานขับรถพ่วง เครื่องดื่มชูกำลังหลับใน บังคับรถตกข้างทางพุ่งชนต้นไม้ข้างทางก่อนไปตกบ่อน้ำหน้าบ้านชาวบ้าน เป็นเหตุให้คนขับรถ18ล้อวัย65 ปี ดับคาที่ภายในรถ ขณะที่ผู้เหตุการณ์บอกตนขับรถส่วนเห็นท่าไม่ดีระยะห่าง 100 เมตรตัดสินใจหักหลบฉิวเฉียดก่อนมองกระจกหลังรถพ่วง ตกข้างทางไปแล้ว
เมื่อเวลา16.00 น. วันที่ 20 ธ.ค. 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนครนายก ได้รับแจ้งเหตุมีรถพ่วง เสียหลักพุ่งตกข้างทางบนถนนสายดงละครมุ่งหน้าอำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี ก่อนถึงประตูน้ำบางปรัง ตำบลศรีจุฬา อำเภอเมือง จังหวัดนคนายก มีผู้เสียชีวิตติดภายในรถ18ล้อ เป็นชาย จึงประสานแพทย์โรงพยาบาลนครนายกร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุอาสากู้ภัยสว่างอริยะได้อยู่ในที่เกิดเหตุ รายงานผู้เสียชีวิตคือนายกัณหา แข็งบุญ อายุ 65 ปี เป็นผู้ขับรถ18ล้อ สภาพร่างติดฝั่งด้านคนขับมีบาดแผลตามร่างกาย จากนั้นจึงได้ให้อาสากู้ภัยนำร่างออกมาจากรถพ่วง แพทย์ได้ทำการชันสูตรเบื้องต้นพบ คอหัก ขาทั้งสองข้าง จึงส่งศพไปทำการชันสูตรอีกครั้งที่โรงพยาบาลนครนายก
ในที่เกิดเหตุพบรถพ่วงหมายเลขทะเบียน 85-6963 สระบุรี สภาพตกลงไปในบ่อน้ำหน้าบ้านชาวบ้านสภาพหน้ารถได้รับความเสียหายทั้งหมด จากแรงกระแทก เมื่อตรวจสอบบนถนนพบต้นไม้ถูกชนล้มเป็นทางจากถนนเข้าไปยังจุดที่พบรถพ่วงคันดังกล่าว
ขณะเดียวกันได้พบกับนาย รุ่งโรจน์ สิมบุตร ผู้เห็นเหตุการณ์ที่กำลังขับรถสวนกับรถพ่วงคันที่เกิดเหตุ บอกว่า ตนเองเดินทางมาจากวัดท่ากระทุ่มจังหวัดปราจีนบุรีมายังจังหวัดนครนายก เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเห็นรถ18ล้อที่ขับมุ่งหน้ามายัง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งระยะห่างระหว่างรถตนและรถ 18 ล้อ ประมาณ100 เมตร ตนเห็นว่ารถ18ล้อมีอาการส่ายเริ่มเบี่ยงเลนเข้ามาเลนตนซึ่งมาด้วยความเร็ว ตนจึงได้ตัดสินใจหักรถเบี่ยงขวาเพื่อหลบรถ18ล้อที่ข้ามเลนสวนเข้ามา ก่อนที่ตนจะมองกระจกหลังก็พบรถ18ล้ออยู่ในสภาพที่เห็น
นาย ใฉน โอธิเวช เพื่อนร่วมงาน บอกว่า ตนขับรถมาจากต.บางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี เพื่อไปยังจังหวัดสระบุรี เมื่อผ่านมาถึงทีเกิดเหตุ ก็พบว่ารถ18ล้อที่เกิดเหตุเป็นรถของเพื่อนร่วมงาน จึงจอดดู โดยได้บอกว่านายกัณหากำลังขับรถเอากระป๋องกระทิงแดงไปส่งยังโรงงานกระทิงแดงที่อ.บ้านสร้าง โดยปกตินายกัณหาใช้เส้นทางนี้อยู่ทุกวันวันละ2เที่ยว(เช้า – เย็น รอบที่เกิดเหตุรอบที่ 2 ) ซึ่งตนคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากนายกัณหาเกิดหลับในเนื่องจากยางรถไม่ระเบิด