"ส.ส.อนค." จ่อแก้รธน. เพิ่มช่องทาง ขรก.ค้านยึดอำนาจ-ฉีกรธน. จับอาวุธสู้ ซัดรธน.ไม่ดี เพราะคนร่างเลว "โรม" ย้ำวิกฤตรธน. สะท้อน ส.ส.งูเห่า
รัฐสภา - 18 ธันวาคม 2562 - "ส.ส.อนค." จ่อแก้รธน. เพิ่มช่องทาง ขรก.ค้านยึดอำนาจ-ฉีกรธน. จับอาวุธสู้ ซัดรธน.ไม่ดี เพราะคนร่างเลว "โรม" ย้ำวิกฤตรธน. สะท้อน ส.ส.งูเห่า เย้ย "ศรีนวล" ได้คะแนนเลือกตั้งสูงสุด เพราะยี่ห้อของพรรค "ชทพ." หนุน "พีระพันธ์ุ" นั่งปธ.กมธ.ฯ ด้าน "ชลน่าน" หนุนกมธ.ฯ เคาะแนวทางแก้รธน. ด้วยส.ส.ร.
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาต่อเนื่องในกลุ่มญัตติด่วน ให้สภาฯ ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560โดยเป็นการเริ่มอภิปรายของส.ส.ซึ่งสนับสนุนให้ตั้งกมธ.ฯ โดยย้ำถึงปัญหาของรัฐธรรมนูญ อาทิ การเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว และแยกระบบการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยการนำคะแนนส.ส. มาคำนวณ และ การให้อำนาจนอกระบบอยู่เหนือสภาฯและขาดการคุ้มครองรัฐธรรมนูญจากการรัฐประหารอย่างเป็นรูปธรรม
โดยนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา อภิปรายสนับสนุนให้ตั้งกมธ.ฯ ศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหารัฐธรรมนูญ ทั้งนี้จากข่าวที่ระบุว่าจะมีบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ดำรงตำแหน่งประธานกมธ.ฯ คือ นายพีรพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ ตนขอแสดงความยินดี
ขณะที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายถึงบุคคลจะดำรงตำแหน่ง ประธานกมธ.ฯ ว่า ขอให้เป็นบุคคลที่สังคมยอมรับ และมีความเป็นกลาง ส่วนระยะเวลาศึกษาไม่ควรนานเกิน 90 วัน เพื่อหาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนผลการศึกษาที่ต้องการเห็น คือ จะแก้ไขเป็นรายมาตรา หรือ แก้ไขเฉพาะมาตรา 256 ว่าด้วยวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และต้องมีตัวชี้วัดว่าเมื่อแก้ไขแบบรายมาตราหรือแก้ไขเฉพาะมาตรา 256 มีข้อดี ข้อเสีย และเหตุผลอย่างไร เพื่อประกอบให้ส.ส. พิจารณาก่อนลงมติ รวมถึงหากแก้ไขมาตรา 256 ให้จัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ควร พิจารณาสาระของการแก้ไข เช่น ที่มา, จำนวน และอำนาจหน้าที่ รวมถึงส.ส.ร. ต้องตอบถึงสาระและบทบัญญัติที่นำเสนอควรเป็นอย่างไร
ขณะที่ายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายด้วยว่าตนไม่เชื่อว่าตนฐานะผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะได้รับเลือกตั้งหากไม่สังกัดพรรค หรือผู้สมัครส.ส.เชียงใหม่ จะได้รับเลือหากไม่ใช่เพราะพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งการเลือกตั้งคือการสะท้อนเจตจำนงของประชาชน อย่างไรก็ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันชี้ชัดว่ามาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และยกร่างโดยกลุ่มนักกฎหมายเลว ทำให้เขียนเนื้อหาของรัฐธรรมนูญที่มีปัญหา ซึ่งพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่ถูกยุบพรรค ตนเชื่อว่าเป็นเพราะรัฐธรรมนูญ
ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญมีที่มาโดยไม่เชื่อมโยงกับประชาชน อย่างไรก็ตามประเด็นที่ตนสนใจต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน คือ มาตรา 49 ว่าด้วยการห้าามบุคคลล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คือบทที่คุ้มครองรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ให้สิทธิประชาชนต่อสู้เพื่อปกป้องรัฐธรรมนูญที่ถูกคณะทหารฉีกผ่านการยึดอำนาจ ดังนั้นการแก้ไขต้องให้สิทธิข้าราชการ ตำรวจ ทหารที่ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ และฉีกรัฐธรรมนูญโดยคณะทหาร มีสิทธินำอาวุธต่อสู้กับคณะยึดอำนาจ ขณะเดียวกันทหารที่ยึดอำนาจควรถูกฟ้องร้องข้อหากบฎและล้มล้างการปกครอง โดยคดีล้มล้างการปกครองนั้นไม่มีวันหมดอายุความ เหมือนกับกรณีทุจริตของนักการเมือง
ส่วนนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายว่า กรณีมีปรากฎการณ์ส.ส.งูเห่า และถูกขับให้พ้นจากพรรค เช่น น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.จังหวัดเชียงใหม่ ฐานะผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ได้รับคะแนนเลือกตั้งสูงสุด สะท้อนถึงวิกฤตของรัฐธรรมนูญ เพราะคะแนนที่เกิดขึ้นนั้น เป็นความนิยมของประชาชนที่เกิดขึ้นจากพรรคการเมือง อย่างไรก็ตามตนขอให้มีบทพิสูจน์เรื่องดังกล่าว และขอให้พรรคการเมืองที่จะรับส.ส.งูเห่าเข้าพรรคพิจารณาให้ดี อย่างไรก็ตามวิกฤตของรัฐธรรมนูญประเด็นสำคัญคือ การให้ส.ว. จำนวน 250 คนมาจากการแต่งตั้งและมีอำนาจเลือกนายกฯ
รวมถึงให้มีนบทบาทตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลประชาธิปไตย หากเกิดกรณีที่พรรคการเมืองเข้าร่วมกับพรรคอนาคตใหม่ และเสนอบุคคลที่ไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นนายกฯ เป็นคู่ชิงนายกฯ ซึ่งตนยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่หวังดีกับประเทศ และต้องการไล่ผีที่สิงในบ้านออกไป อย่างไรก็ตามปรากฎการณ์การชุมนุมที่ลานสกายวอร์ค ย่านมาบุญครอง เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมประชาชนที่ร่วมชุมนุมตะโกนขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ออกจากตำแหน่ง ดังนั้นหากพล.อ.ประยุทธ์ยืนยันอยู่ในอำนาจต่อไป ขอให้พิจารณาประสบการณ์ของต่างประเทศว่า รัฐบาลจะอยู่ไม่ได้ และอำนาจเผด็จการจะพินาศ
ทั้งนี้การอภิปรายของส.ส.ยังดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การเตรียมการเสนอชื่อบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งเป็นกมธ.ฯ เบื้องต้นในส่วนของพรรคการเมืองต่างๆ มีความเรียบร้อย ยกเว้นในส่วนของพรรคพลังประชารัฐและสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ยังพบการปรับเปลี่ยน สำหรับรายชื่อที่คาดว่าจะเสนอให้ดำรงตำแหน่งเป็นกมธ.ฯ จำนวน 49 คน อาทิ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์, นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาาธิปัตย์, นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์, นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา, นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย, นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย,นายสฤษฎ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย,นายบุญดำรง ประเสริฐโสภา นักกฎหมาย สัด นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย , นายชัยเกษม นิติศิริ แกนนำพรรคเพื่อไทย, นายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย เป็นต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง