
แก้ปัญหาแบบเด็ก อดีตนักกีฬาวิจารณ์กรณีสั่งแบนรัสเซีย
ซูซาน อีเกลสตาฟฟ์ อดีตนักแบดมินตันหญิงชาวสก็อตแลนด์วิจารณ์บทลงโทษแบนรัสเซียจากปัญหาการใช้สารกระตุ้น เป็นวิธีแก้ปัญหาแบบเด็กๆ
อีเกลสตาฟฟ์ เจ้าของเหรีญทองแดงกีฬาคอมมอนต์เวลธ์ 2 สมัย ออกมาแสดงความเห็นกรณีลงโทษแบนรัสเซียจากการแข่งขันกีฬาทัวรนาเมนต์ระดับนานาชาตินาน 4 ปี จากปัญหาการใช้สารกระตุ้นเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด ย้ำชัด ใครที่เชื่อว่ากีฬาจะปราศจากเรื่องโด๊ป คือ คนที่ใสซื่อเกินไป พร้อมทั้งกล่าวถึงบทลงโทษขับทัพนักกีฬาหมีขาวจากทัวร์นาเมนต์ใหญ่นาน 4 ปี เป็นวิธีการแก้ปัญหาแบบเด็กเล็กทำกัน
"คุณได้เห็นบทลงโทษที่เป็นที่ฮืฮฮาและค่อนข้างรุนแรงสำหรับปัญหาเรื่องสารกระตุ้น แต่บทลงโทษนี้ไม่ได้ถูกฝังรากลึกลงในจิตใจ" อีเกลสตาฟฟ์ ระบุ
"มีแต่คนโง่เง่าเท่านั้นที่คิดว่าทุกคนนั้นใสสะอาด"
อีเกลสตาฟฟ์ กล่าวว่า การลงโทษแบนรัสเซียขององค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (วาดา) เป็นการแก้ปัญหาที่เหมือนจะก้าวหน้าบ้างเล็กน้อย ถึงจะเป็นการลงโทษที่มีเหตุผล แต่การแก้ปัญหาแบบนี้ไม่ได้ส่งผลดีอะไรในระยะยาว
"บทลงโทษนี้เป็นการแสดงออกที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา เป็นการส่งสัญญาณว่าประเทศนั้นๆ จะไม่สามารถมีส่วนร่วมกับการแข่งขันแบบเดียวกับที่รัสเซียโดนลงโทษ"
อีเกลสตาฟฟ์ สมัยบู๊โอลิมปิกหนสุดท้ายที่ลอนดอน
"อย่างไรก็ตามฉันไม่แน่ใจว่านักกีฬาหลายคนจะเชื่อว่าปัจจุบันนั้นใสสะอาด ย้อนกลับไปถ้าฉันยังเป็นนักกีฬา ฉันคิดว่าวิธีนี้อาจจะดูก้าวหน้าอยู่บ้าง แต่ไม่ว่าอย่างไรปัญหาจริงๆ ยังคงไม่ได้ถูกแก้ไข" อดีตนักแบดมินตันซึ่งประกาศเลิกเล่นหลังจบโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ทิ้งท้าย
บทลงโทษดังกล่าวมีข้อยกเว้นให้นักกีฬาของรัสเซียที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้สารกระตุ้น แต่จะสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ภายใต้ธงที่เป็นกลาง
ขณะที่การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2020" ทีมชาติรัสเซียสามรถลงทำการแข่งขันได้ตามปกติ เนื่องจากสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อกำหนดของวาดา
ทั้งนี้ รัสเซีย กำลังอยู่ระหว่างอุทธรณ์โทษดังกล่าวภายในระยะเวลา 21 วัน นับตั้งแต่มีการประกาศการสั่งแบน