
"ลุงหนวด"จับคู่ธุรกิจ
๐๐๐ ผ่านมา 6 เดือนของการทำหน้าที่ "ผู้แทนการค้าไทย" ดร.โด่ง "วัชระ พรรณเชษฐ์" ถึงกับเปรยว่าผ่านมารวดเร็วมาก การทำหน้าที่ส่งเสริมและกระตุ้นการค้าการลงทุนกับต่างประเทศและระหว่างประเทศยังคงเดินหน้าต่อไป ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจโลกเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
เมื่อเจอหน้ามีโอกาสได้ซักถามถึงผลกระทบ "วิกฤติ ดูไบ เวิลด์" และการลดค่าเงินด่องของ "เวียดนาม" งานนี้ "ดร.โด่ง" ยืนยันว่า ไม่มีผลกระทบโดยตรงกับประเทศไทย โดยเฉพาะการลดค่าเงินด่องของเวียดนาม เป็นประเทศเพื่อนบ้านคู่แข่งส่งออกข้าวแต่ "ดร.โด่ง" มองว่า การลดค่าเงินด่องเป็นการลดความน่าเชื่อถือและการสั่งสินค้าเข้าประเทศเวียดนามมากกว่าทำให้ "เวียดนาม" ได้รับผลกระทบด้านการค้ากับต่างประเทศ ขณะที่ข้าวไทยเน้นที่คุณภาพกลุ่มลูกค้าจะเป็นอีกระดับ
นอกจากนี้ "ดร.โด่ง" ยังยืนยันว่า เศรษฐกิจของไทยในขณะนี้เริ่มมีทิศทางไปในทางที่ดีขึ้นหลายประเทศเริ่มมีความมั่นใจ แต่ต้องมีวินัยด้านการลงทุนการปรับเปลี่ยนธุรกิจ จากที่เน้นทำธุรกิจในประเทศไทยก็ให้ขยายการลงทุนในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และแถบละตินอเมริกา ซึ่งมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง และเร็วๆ นี้ เตรียมบุกเบิกตลาดอัญมณี เฟอร์นิเจอร์ และอะไหล่รถยนต์
ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ "ดร.โด่ง" เล่าให้ฟังว่า "ทีมผู้แทนการค้าไทย" ก็มีการปรับเปลี่ยนธุรกิจ เช่น จากเดิมไทยเป็นผู้ป้อนชิ้นส่วนรถยนต์ให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ แต่เมื่อเศรษฐกิจตกต่ำก็หันมาผลิตอะไหล่แทน เนื่องจากคนเริ่มหันมาใช้รถยนต์นานขึ้น และหันมาซ่อมแซมมากกว่าการซื้อคันใหม่ จึงเริ่มบุกเบิกตลาดในต่างประเทศโดยการขายอะไหล่รถยนต์ เนื่องจากคนไทยมีฝีมือในเรื่องนี้และให้คนไทยที่อยู่ในประเทศนั้นๆ เป็นพี่เลี้ยงด้านการตลาด
"ดร.โด่ง" เปรียบการทำหน้าที่ของ "ผู้แทนการค้าไทย" ทำหน้าที่เหมือนกับ "ลุงหนวด" คอยจับคู่ค้าทางธุรกิจ โดยเป็นฝ่ายสนับสนุนข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตให้กลุ่มคู่ค้าทางธุรกิจมาพบและทำธุรกิจร่วมกัน
...ดังนั้นเมื่อถามถึงภาวะความเป็นผู้นำของ "นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ "ดร.โด่ง" รีบตอบแบบเอาตัวรอดว่า "นายกฯ อภิสิทธิ์มีทีมผู้แทนการค้าที่เก่งอยู่แล้ว"