ข่าว

 'สมี'หลงเสน่ห์สีกาเทศนาหาเงินซื้อปืน...ฆ่าผัว

'สมี'หลงเสน่ห์สีกาเทศนาหาเงินซื้อปืน...ฆ่าผัว

06 ธ.ค. 2552

"ถึงจะติดคุกนานเท่าไร เมื่อพ้นโทษก็จะยังรักเธออยู่" เทวา ฉิมมาลี หรือ สมีเทวา ธมฺมธีโร วัย 37 ปี พระลูกวัดศรีสุก อ.เมือง จ.ขอนแก่น เปรยกับ "ดวงเดือน กองโคตร" วัย 35 ปี คู่ชู้ภายในห้องสืบสวน 1 บก.สส.ภ.4 หลังตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันฆ่า "นพวรรณ กองโคตร" วัย 3

 ความรักสิเน่หาต้องห้ามของทั้งสองดูเหมือนจะมีอำนาจเหนือความถูกต้องชั่วดีทั้งมวล เมื่อฝ่ายหนึ่งเป็นพระ อีกฝ่ายเป็นฆราวาส แต่กลับมีสัมพันธ์ฉันชู้สาวทำพระพุทธศาสนามัวหมอง อย่างไรก็ดีก่อนจะมาบวช เทวาเคยมีเมียมาแล้ว 3 คน และมีลูกที่เกิดกับทั้ง 3 เมีย สุดท้ายต้องแยกทางกัน จึงตัดสินใจบวชประชดชีวิตรัก เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2550 ณ วัดบ้านไร่ จ.อุทัยธานี จำพรรษาได้เกือบ 1 ปี ก็มาจำพรรษาอยู่ที่วัดหนองฮี อ.พระยืน จ.ขอนแก่น ติดกับศูนย์รับเลี้ยงเด็ก อบต.ดอนช้าง แล้ววิบัติรักต้องห้ามก็เกิดขึ้นที่นี่

 พระเทวานำอาหารและขนมที่ได้จากบิณฑบาตมาให้เด็กๆ ในศูนย์อยู่เสมอจึงรู้จักกับเจ้าหน้าที่ทุกคน และหนึ่งในนั้นก็คือดวงเดือน แรกๆ ไม่กล้าพูดอะไรมากด้วยเกรงผิดวินัยสงฆ์ ต่อมาความสัมพันธ์ที่พอกพูนเกินกว่าจะยับยั้งชั่งใจ พระเทวาเริ่มเขียนจดหมายบรรยายรักหวานซึ้ง และโทรศัพท์ระบายความรู้สึกที่มีต่อดวงเดือนทุกวัน

 ดวงเดือนไม่ใช่ผู้หญิงตัวเปล่าเล่าเปลือย เธอแต่งงานอยู่กินกับ "นพวรรณ กองโคตร" หรือช่างนก ช่างไม้ร้านเหรียญไทยวัสดุก่อสร้าง พระเทวาจึงอาศัยโทรไปตอน 9 โมงเช้ากับบ่าย 3 โมงถึงบ่าย 4 โมงครึ่ง ซึ่งเป็นเวลาทำงานของสามีช่าง กระทั่งกันยายนปี 2552 ความสัมพันธ์ก็เลยเถิดถึงขั้นมีอะไรกัน เมื่อดวงเดือนกลับถึงบ้านอย่างผิดสังเกตจึงมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกับสามี นำมาสู่การขู่ปองร้ายหมายชีวิตชายชู้ ซึ่งตัวช่างนกเองก็ยังไม่รู้ว่าเป็น "พระ" !?!

 "ผมโกรธแค้นมากที่มาทำกับคนรักของผมและยังมาขู่อาฆาตผมด้วย" สมีเทวาระบายแค้นหลังถูกจับกุม

 สมีเทวาตัดสินใจกลับวัดบ้านไร่ใน จ.อุทัยธานี ตระเวนเทศน์หาเงินได้ 7,000 บาท นำไปซื้อปืนลูกซองสั้นและกระสุนอีก 5 นัด เหลือเงิน 2,000 บาท จึงเดินทางกลับมาที่ขอนแก่นอีกครั้ง ทั้งๆ ยังครองผ้าเหลืองอยู่

 วันที่ 27 พฤศจิกายน สมีเทวาถึงขอนแก่นแล้วโทรศัพท์หาชู้รักแจ้งเจตนารมณ์จะฆ่านพวรรณ ขอให้ดวงเดือนบอกรูปพรรณสัณฐานสามี ยี่ห้อรถจักรยานยนต์ และเส้นทางกลับบ้าน ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ไปดักรอ แต่ไม่สบโอกาสจึงปักกลดนอนรอฆ่าในวันรุ่งขึ้น โดยสมีเทวาโทรไปที่ร้านเหรียญไทยวัสดุก่อสร้าง วางอุบายว่าจ้างช่างนกไปสร้างกระท่อมที่ป่าอ้อยบ้านหนองโพ หมู่ 2 ต.หนองแวง อ.พระยืน ตอนบ่าย 5 โมงเย็น เมื่อช่างนกหลงกลเขาก็ถูกสมีเทวายิงเข้าจากด้านหลังเสียชีวิตทันที

 ช่างนกเสียชีวิตด้วยดวงตาเบิกโพลง สมีเทวาใช้มือลูบปิดตา แต่แล้วก็กลัวจะทิ้งรอยนิ้วมือไว้ จึงใช้น้ำมันที่เตรียมมาราดแล้วจุดไฟเผาอำพราง ขี่รถจักรยานยนต์ซูซูกิ สีเทาดำ ทะเบียน ขฉพ 709 ขอนแก่น ของช่างนกหลบหนี และน้ำมันหมดถังระหว่างทางไป อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น จึงเผารถอำพรางกลับมาห่มผ้าเหลืองทำไม่รู้ไม่ชี้ ตระเวนไปจำวัดที่ จ.ชัยภูมิ 2 วัน ก่อนจะไปอยู่ที่วัดโพธิ์ชัย ต.ขัวก่าย อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร 4 วันหลังก่อเหตุคู่ชู้ต้องห้ามก็จนมุมตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.ภ.4

 ขณะที่ข้อเท็จจริงที่ได้จากปากคำของดวงเดือนก็น่าครหาไม่แพ้กัน เธอเล่าว่าคืนที่หายไปอยู่กับสมีเทวาในโรงแรมแห่งหนึ่ง ก่อนจะมีเพศสัมพันธ์กันอย่างดูดดื่มนั้น เมื่อกลับถึงบ้านเธอมีปากเสียงกับสามีอย่างรุนแรง จึงใช้มารยาหญิงด้วยการร่วมหลับนอนกับสามี เพื่อยุติเรื่องราวบาดหมาง แต่หลังจากนั้นก็ยังคงลุ่มหลงอยู่กับสมีเทวาเหมือนเคย เธอได้ซิมโทรศัพท์ใหม่มาอีก 1 เครื่อง เรียกมันว่า "ซิมลับ" ใช้สำหรับโทรคุยกับสมีเทวาโดยเฉพาะ แล้วเก็บซุกซ่อนไว้กับจดหมายบอกรัก ปิดล็อกกุญแจมิดชิด กระทั่งสามีมาจับได้ใช้ซิมที่ว่าโทรไปอาฆาตมาดร้ายหมายชีวิตกับชายชู้

 ดูเหมือนว่าหลังเหตุการณ์บานปลาย ช่างนกเองก็ระมัดระวังตัวแจ เขาเปลี่ยนเส้นทางและเวลากลับบ้าน แต่ทุกความเคลื่อนไหวถูกรายงานให้สมีเทวาผ่านปากคำของดวงเดือนเมียรัก กระทั่งแผนฆาตกรรมอำพรางบรรลุผลสำเร็จ !?! 

 เรื่องราวฉาวโฉ่ทำให้ผ้าเหลืองแปดเปื้อนมลทินครั้งนี้ พระเทพกิตติรังษี เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรได้ดีไปกว่าให้เจ้าหน้าที่และญาติโยมช่วยกันสอดส่องดูแลพระที่มีพฤติกรรมนอกลู่นอกทาง ส่วนการอนุญาตให้พระจากที่อื่นมาจำวัดเป็นครั้งคราวขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าอาวาสของแต่ละวัด นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบเบื้องต้น เช่น ตรวจดูใบสุทธิว่าเป็นพระจริงหรือไม่ มีบัตรประชาชนหรือเปล่า แต่ก็ป้องกันได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น

 "เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย อาตมาเองก็ไม่รู้ว่าเข้าไปดูแลหรือคุมเข้มเรื่องนี้ได้อย่างไร พระที่ดีก็มีอยู่มาก คนไม่ดีที่แฝงตัวเข้ามาอาศัยผ้าเหลืองเช่นนี้ก็มีอยู่และตรวจสอบยาก เพราะฉะนั้นต้องช่วยกันดูแล" เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นเปรย

 ชยานนท์  ปราณีต