
ชาวบ้านร้องผู้ว่าฯแก้ปัญหาถูกนายทุนฟ้องกรณีปุ๋ยปลอม
ศาลากลางจังหวัดเลยชาวบ้าน 20 คน จาก 5 อำเภอ ร้องเรียนต่อทางจังหวัดขอให้ช่วยแก้ปัญหาถูกนายทุนฟ้องศาลเรียกเงินกว่า 2 ล้านบาท กรณีปุ๋ยปลอมขายไม่ออก
เวลา 12.00 น.วันที่ 25 พ.ย.62 ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเลย มีชาวบ้านเกษตรกรจาก อ.ภูกระดึง อ.ผาขาว อ.หนองหิน อ.วังสะพุงและ อ.เอราวัณ จ.เลย กว่า 20 คน โดยการนำของนายบุญเกิด ทองนะ อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 11 หมู่ 1 ต.ตาดข่า อ.หนองหิน จ.เลย เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเลย โดยมีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย รับเรื่องร้องทุกข์ เพื่อให้แก้ปัญหาถูกนายทุนเจ้าของบริษัท ผลิตปุ๋ย ฟ้องศาล
สืบเนื่องจากหนังสือร้องเรียน/ร้องทุกข์ของเกษตรกรเลขที่ 061 ลงวันที่ 19 พ.ย.63 อ้างถึงหนังสือและนายโสภณ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ลงนามแจ้งไปยังเกษตรกรว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร ที่ กษ. 0919.4/610 ลงวันที่ 23 ก.ย.62 ระบุว่าปี 2559 สหกรณ์การเกษตรแก้งสนามนาง จำกัด ได้เสนอขายปุ๋ยตราไก่แจ้ 777 และ ตรากิ่งเพชร ว่าเป็นปุ๋ยมีคุณภาพและเพิ่มผลผลิตการเกษตร พืชผลเติบโตเร็ว แต่ปรากฏว่าผลิตออกมาไม่เป็นตามที่โฆษณา ทางศูนย์วิจัยการเกษตรได้แจ้งมาว่า 1.สารปรับปรุงดินไม่ระบุสูตร เครื่องหมายการค้า ตรา กิ่งเพชร ไม่ระบุทะเบียนเลขที่ผลิตโดยบริษัท เกษตรสว่างวรกิจ จำกัด จึงมีมติให้ยุติการดำเนินคดี เนื่องจากผลการตรวจวิเคราะห์พบว่าปริมาณธาตุอาหารรับรองเท่ากับ 1.4 - 1.0 - 0.5 และปริมาณอินทรียวัตถุรับรองเท่ากับ 13.8% ซึ่งปริมาณธาตุอาหารและปริมาณอินทรีย์วัตถุรับรองค่อนข้างต่ำ จึงไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นปุ๋ยหรือปุ๋ยชนิดใด 2. สารเพิ่มผลผลิตปรับปรุงแร่ธาตุไม่ระบุสูตร ไม่ระบุชื่อการค้า เครื่องหมายการค้า ตราไก่แจ้ 777 ไม่ระบุทะเบียนเลขที่ ผลิตและจำหน่ายโดยห้างหุ้นส่วนจำกัด สระบุรีเกษตรภัณฑ์ และมีมติให้ดำเนินคดีดังนี้ 2.1.กรณีสหกรณ์การเกษตรแก้งสนามนาง จำกัด ให้ดำเนินคดีความผิดฐานขายปุ๋ยที่จะต้องขึ้นทะเบียนแต่มิได้ขึ้นทะเบียนตามมาตรา 30(5) มีโทษตามมาตรา 72/4 วรรคสอง ประกอกบมาตรา 72 , 2.2 กรณีห้างหุ้นส่วนจำกัด สระบุรีเกษตรภัณฑ์ ให้ดำเนินคดีในความผิดฐานขายปุ๋ยอินทรีย์โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 12(3) ซึ่งมีโทษตามมาตรา 57 และในความผิดฐานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ที่จะต้องขึ้นทะเบียนไว้ ตามมาตรา 30(5) ซึ่งมีโทษตามมาตรา 72/4 วรรคสอง ประกอบมาตรา 71 ซึ่งปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างเสนอ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรเพื่อพิจารณากลั่นกรองเกี่ยวกับคดีดังกล่าว
นายบุญเกิด ทองนำ แกนนำกลุ่มฯ เปิดเผยว่า การที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนครั้งนี้เป็นเวลามากว่า 3 ปี สมาชิกมี 20 กลุ่ม ประมาณ 80 ราย ถูกฟ้องรายละกว่า 1 แสนบาทรวมกว่า 2 ล้านบาท และถูกนายทุนฯฟ้องศาลผ่านมากว่า 10 รายและในวันที่ 2 ธ.ค.62 อีก 3 ราย ชาวบ้านจึงต้องการให้จังหวัดช่วยแก้ไขเรื่องการไกล่เกลี่ยคดีเป็นการเร่งด่วน ให้ทำการไต่สวนตามขบวนการ เนื่องจากไม่มีเงินชำระ ปุ๋ยปลอม เมื่อใส่พืชแล้วไม่เจริญเติบโต ผลผลิตลดลงจากเคยเก็บและขายได้เงิน 1 แสนบาท ก็เหลือเพียง 2 หมื่นบาท ซึ่งไม่เกี่ยวกับฝนชุกหรือฝนแล้ง จึงขายปุ๋ยไม่ออก ตกเป็นภาระไม่มีเงินส่งคืนบริษัทฯเพราะปุ๋ยไม่ยืนยันว่าเป็นปุ๋ยหรืออะไรไม่ตรงตามโฆษณา และทราบว่าบริษัทส่งมาให้เกษตรกรพร้อมกำหนดราคาและจะเก็บเงินภายหลัง เกษตรกรก็นำไปจ่ายแจกญาติต่อไป
นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า กรณีนี้สามารถแก้ไขช่วยเหลือเกษตรกรได้คือ ประสานอัยการคุ้มครองสิทธิ์, ร้องทุกข์กล่าวโทษกับบริษัทฯกรณีหลอกลวงกับทางตำรวจ และ เข้านำเข้าสู่กองทุนยุติธรรมจังหวัดที่มีวิธีการดำเนินการทางคดี
บุญชู ศรีไตรภพ จ.เลย