ข่าว

แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง

แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง

04 ธ.ค. 2552

แม้การประกาศถอยตั้งหลักของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ที่เว้นช่วงเวลามงคลเดือนธันวาคม

 ลดระดับเหลือเพียง "ทำงานให้ครบงวดจ่าย" ด้วยการนัดชุมนุมเคลื่อนไหววันรัฐธรรมนูญ จบเที่ยงคืนวันที่ 10 ธันวาคม ก่อนตั้งเป้าใหญ่โค่นรัฐบาลระบอบอำมาตย์อีกทีหลังปีใหม่

 จะถูกการันตีจากบรรดาแกนนำเสื้อแดงและแกนนำเพื่อไทยว่า การประกาศถอยแบบไว้ลาย สอดคล้องกับการประกาศพักรบของพรรคเพื่อไทยนั้น เนื่องมาจากจังหวะเวลาไม่เป็นใจ เสี่ยงต่อเจอข้อหาหนักป่วนเมือง-ไม่จงรักภักดี ซ้ำรอย ”เมษาเลือด” ขณะเดียวกันก็มีกระแสข่าว กลุ่มเสื้อแดงแตกเป็นหลายเสี่ยง ที่มีเสียงเย้ยหยันมาจากรัฐบาลประชาธิปัตย์ว่าสรรพกำลังไม่พร้อมทำศึกใหญ่

 แต่ในมุมกลับก็มีการมองว่า การแยกสายแตกกอของคนเสื้อแดง เป็นยุทธศาสตร์ "แยกกันตี" ตามแผนรบของนายใหญ่

 ที่เปลี่ยนการใช้บริการจากมวลชนจากกลุ่มหนึ่งไปยังอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งสะท้อนได้ว่า ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนตัวแทน หรือเปลี่ยนนายหน้า ในการพาคนออกมาชุมนุม แต่ยังหมายถึงการดำเนินยุทธศาสตร์ที่แตกต่าง รุนแรง และเข้มข้นมากขึ้น

 ฉะนั้นว่ากันตามจริง เครือข่ายของกลุ่มแดง ที่เกิดปรากฏการณ์แดงแตกหน่อ ขยายพันธุ์ จึงไม่สามารถนับด้วยนิ้วหมด ว่าจริงๆ แล้วคนเสื้อแดงทั้งในและต่างประเทศมีอยู่กี่กลุ่มกันแน่

 กระนั้นหากสำรวจเครือข่ายคนเสื้อแดงนาทีนี้ จะเห็นกลุ่มก้อนหลักๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวราว 3-4 กลุ่ม ได้แก่

 1.“กลุ่ม นปช.แดงทั้งแผ่นดิน" หรือความจริงวันนี้ ของ ”แกนนำสามเกลอ วีระ-จตุพร-ณัฐวุฒิ“ รับใบสั่งสายตรงจาก ”ทักษิณ" ทำหน้าที่ระดมมวลชนเสื้อแดงกลุ่มต่างๆ ในภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เช่น “ภาคเหนือ-กลาง-อีสาน-ตะวันออก-ตะวันตก-ภาคใต้” โดยมีแกนนำร่วมจาก นปช.กระจายกำลังกันดูแลในแต่ละภาคอย่างเป็นระบบ

 โดยมีทัพใหญ่อยู่ที่ “กลุ่มแดงอีสาน" นำโดย ส.ส.พลังประชาชนสายตรงนายใหญ่ ”นิสิต สินธุไพร, สุพร อัตถาวงศ์, สุทิน คลังแสง" รับผิดชอบเครือข่ายแดงภาคอีสาน 89 กลุ่ม 19 จังหวัด

 ”ขวัญชัย ไพรพนา" กลุ่มคนรักอุดร ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ ”ทักษิณ” ใช้เป็นสายตรง เป็นกระบอกเสียงสื่อสารกับฐานมวลชนหลัก มีเป้าหมายและแนวคิดใกล้เคียงกับแดงสามเกลอ

 เปิดเวทีปลุกระดม สร้างกระแส สร้างมวลชนเคลื่อนไหวแบบตรงไปตรงมา โดยประสานกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย

 ประกาศเป้าหลักล้มตั้งแต่ระดับ ”อำมาตย์” ลงมา ไม่ว่าจะเป็น “ป๋าเปรม“ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กลุ่มทหาร รัฐบาล ขั้วการเมืองตรงกันข้าม อย่างกลุ่มเสื้อเหลือง และกลุ่มเสื้อน้ำเงิน

 2.“กลุ่มแดงสยาม" ที่แตกออกมาจากกลุ่มความจริงวันนี้ในช่วงแรก ภายใต้การนำของ “จักรภพ เพ็ญแข” และ “สุรชัย แซ่ด่าน” รวมถึงมีชื่อของ ”ใจ อึ๊งภากรณ์“

 แต่ล่าสุดกลับมาเคลื่อนไหว และเป็นฝ่ายรับงานจาก ”ทักษิณ” โดยตรง ต่างจากการขับเคลื่อนของ “แดงสามเกลอ” มุ่งเน้นใช้ “ยุทธศาสตร์สงครามจิตวิทยา" หรือ ”เกมป่าล้อมเมือง" เป็นความพยายามที่จะปลุกระดมและเปลี่ยนแปลงความคิดของคนในชาติ

 ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่ทำให้ “จักรภพ" ถูกข้อหาร้ายแรงพาดพิงเบื้องสูงจากการเคลื่อนไหวให้สัมภาษณ์สื่อในหลายครั้ง ซึ่งเป็นคดีติดตัวจนต้องลี้ภัยไปต่างแดน

 3.”กลุ่มแดงล้านนา" ที่ขยายเครือข่ายใน 8 จังหวัด นำโดย “แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51” ของนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล นางกัญญาภัค มณีจักร หรือดีเจอ้อม ซึ่งรวบรวมเครือข่ายกลุ่มคนเสื้อแดงในภาคเหนือ

 โดยมี ส.ส.ภาคเหนือใต้ปีกของ ”อ้ายยงยุทธ” ยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนเป็นกำลังหลักอยู่เบื้องหลัง

 ซึ่งมีลักษณะการเคลื่อนไหวรุนแรงเข้มข้นมากกว่าแดง นปช. และมีการสื่อสารผ่านวิทยุชุมชนที่เหนียวแน่น และบางครั้งไม่ได้ขึ้นต่อกลุ่ม "แดงสามเกลอ"

 ขณะเดียวกันก็ยังทำหน้าที่ขยายฐานคนเสื้อแดงให้มากที่สุด รอเป็นทัพรองนำกำลังมาเสริมทัพหลวงใน กทม.และปริมณฑล หรือดาวกระจายในต่างจังหวัด เพื่อขับเคลื่อนโค่นล้มรัฐบาลตามคำสั่งเอาทักษิณกลับมา

 4.“กลุ่มแดงใต้ดิน” โดยการรวมกลุ่ม กลุ่มอดีตนายทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และกลุ่มฮาร์ดคอร์ใน กทม.และต่างจังหวัดไม่ได้เปิดเผยตัว แต่เคลื่อนไหวในทางมวลชนและเป็นแกนหลักในการวางแผนเคลื่อนไหวเชิงรุกเฉพาะสถานการณ์ ที่ต้องการปิดเกมในวงในโดยการต่อสายหารือไปยังดูไบโดยตรง

 เหล่านี้ถือเป็นความพยายามขยายเครือข่ายเพื่อยกระดับให้เป็นกองทัพคนเสื้อแดงเข้มแข็ง และมีพลังภายใต้ ”ยุทธศาสตร์ลับ ลวง พราง”

 ที่ ”ทักษิณ” ใช้ยุทธศาสตร์บริหารบนความขัดแย้ง ในสภาวะการแตกหน่อทางความคิด ที่แตกแยกกันของ ”คนเสื้อแดง” ด้วยการปรับ ”จุดอ่อน” มาเป็น ”จุดแข็ง”

 โดยมีสายสะดือที่ต่อจาก ”ท่อน้ำเลี้ยง" เดียวกัน !!!

 กระนั้นกลุ่มแดงทั้ง 3 ใน 4 กลุ่มนี้ อาจเรียกได้ว่า เป็นแดงที่ไม่มีอุดมการณ์ที่เข้มข้นมากนัก เหตุเพราะผูกติดอยู่กับงานในลักษณะ "รับเหมางาน" จากทักษิณมากกว่า

 หากแต่กลุ่มที่ "ร้ายลึก" อยู่ที่กลุ่มแดงสยาม เพราะด้านหนึ่งเป็นการรวมตัวกันเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่เหนือตัว "ทักษิณ"

 กลุ่มนี้เคลื่อนไหวโดยมีแนวร่วมหลักจากเครือข่าย "แดงตุลา ฝ่ายซ้าย" ซึ่งต้องการใช้ประโยชน์จากทักษิณเพื่อนำไปสู่เป้าหมายสูงสุดในการล้มอำมาตย์ ในฐานะที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดมวลชนเสื้อแดงเป็นฐานขยายผลต่อยอดอย่างดี

 ขณะที่ทางด้าน "ยุทธวิธี" ของกลุ่มนี้ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับสามกลุ่มแรก โดยเฉพาะการไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง อย่างที่กลุ่มสามเกลอชอบใช้ เพราะเท่ากับทำให้แนวร่วมถอยร่น และเป้าหมายจะยิ่งอยู่ห่างไกล

 ฉะนั้นจังหวะก้าวของ "แดง" แต่ละกลุ่ม จึงไม่อาจเรียกได้เต็มปากว่าแตกกันอย่างสิ้นเชิง

 แต่เป็นไปในลักษณะ "แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง" เพื่อประคับประคองไปสู่เป้าหมายสูงสุดของกลุ่มตนเอง

 โต๊ะข่าวการเมือง