ก่อนเปิดยุทธการไล่ล่าเผด็จศึก คนร้ายก่อเหตุ ยิง ชรบ.ดับ

 

 

               วันนี้ 8 พ.ย. 2562 เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภาค 9 เรียก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

               ตั้งแต่ ผบก.ภ.จว. ผบก.ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดชายแดนภาคใต้ หัวหน้าหน่วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จ.ยะลา ผกก.ลำใหม่ ผบ.หน่วยกำลังทหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจทหารพราน

 

               ในพื้นที่ กว่า 50 นาย โดยมี พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล ผบก.ภ.จว.ยะลา และ พ.อ.อิศรา จันทกระยอม รอง ผบ.กองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าร่วมให้ข้อมูล ในที่ประชุมด้วย

 

 

 

               การประชุมเป็นไปด้วยเคร่งเครียดเป็นเวลา 2 ชั่วโมง โดยไม่อนุญาตให้ ผู้สื่อข่าวเข้าไปร่วมรับฟังอย่างเด็ดขาด หลังจากการประชุม พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 ได้เปิดเผยว่ากับผู้สื่อข่าว ว่า

 

               การประชุมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการรวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์สถานการณ์ เพื่อกำหนดทิศทางในการเปิดยุทธการปฏิบัติการไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งการก่อเหตุเป็นการโจมตี 1 จุด และอีก 5 จุดเป็นการก่อเหตุเพื่อสนับสนุนทั้งการโปรยตะปูเรือใบ

 

               ตัดต้นขวางถนน เผายางรถยนต์ และวางระเบิดเสาไฟฟ้า ซึ่งแต่ละพื้นที่มีพยานหลักฐานได้เยอะมาก จากจุดเกิดเหตุไล่ไประหว่างทางหลบหนีคนร้ายได้ทิ้งสิ่งของบางอย่างเยอะมาก ที่จะสามารถติดตามตัวคนร้ายได้ ไว้ในหลายๆจุด

 

               การติดตามไล่ล่าจากรอยเลือดหรือจากพยานหลักฐานต่างๆก็ดี มองเห็นพยานหลักฐานเยอะมาก ทั้งที่เป็นของคนร้ายและทรัพย์สินที่คนร้ายเอาไป ผลการตรวจสอบอาวุธปืนที่คนร้ายนำมาก่อเหตุพบว่ามีอย่างน้อย 25 กระบอก

 

               รวมทั้งปืนของ จนท.ด้วย เป็นปืนของ จนท.ที่ได้ตรวจสอบแล้ว จำนวน 7 กระบอก ของคนร้ายเหลือจำนวน 18 กระบอก เป็นของคนร้ายที่เข้าโจมตีเพียงจุดเดียว และอีก 5 จุด นั้น มีคนร้ายชุดอื่นที่มาปฏิบัติงานอีกด้วย รวมสรุปคนร้ายที่เข้ามาปฏิบัติการในครั้งนี้ รวมๆ ไม่น้อยกว่า 40 คน ผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์

 

               พอจะระบุกลุ่มคนร้ายได้ 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่มาจาก อ.ยะหส อ.กาบัง และอ.บันนังสตา และอีกกลุ่มมาจากพื้นที่ของ อ.โคกโพธิ์ ปัตตานี จากผลตรวจสอบของกระสุนปืนพอมองเห็นกลุ่มที่เคยใช้อาวุธปืนเหล่านี้

 

               แต่จะบอกว่าในเวลาเกิดเหตุว่ามีใครใช้อาวุธกระบอกไหน นั้นต้องขอใช้เวลาสักนิดหนึ่ง ขณะนี้วัตถุพยานที่ต้องตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์มีเยอะพอสมควร โดยทาง กองพิสูจน์หลักฐานต้องทำงานทั้งวันทั้งคืน ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบตัวนั้น

 

               เป็นแนวร่วมมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ ในวันเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่และได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่อื่น เลยต้องนำตัวมาสอบสวน จากการซักถามในเบื้องต้น ผู้ต้องสงสัยยังไม่รับในเคสนี้ และยอมรับในเคสอื่น กลุ่มที่เข้ามาก่อเหตุมีอยู่ 2 กลุ่ม นั้น

 

               พบว่า เคยไปโจมตีจุดตรวจบ้านคอลอปิเละ จ.ปัตตานี ปืนส่วนหนึ่งมาจากการปล้นที่บ้านคอลอปิเละ มา จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มที่ก่อเหตุเป้นกลุ่มที่เคยถูกออกหมายจับ

 

               บางจุดสามารถตรวจยึดเป้ มีเปล มีเต็นท์ แสดงว่าเขาไม่ได้นอนในชุมชน แต่นอนในพื้นที่ป่า ตนเองได้คุยกับแม่ทัพแล้ว ว่า จะปฏิบัติการเชิงรุก เพื่อเอาตัวกลุ่มนี้มาให้ได้ ในวันสองวันนี้

 

 

 

               ล่าสุดแหล่งข่าว เปิดเผยว่า ชุดปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นฝีมือกลุ่ม ‘มะยะโก๊ะ ลาเต๊ะ’ ฆ่า 15 ศพยะลา คุมตัวได้แล้ว 1 ผู้ต้องสงสัย เหตุยิงป้อม ชรบ. ลำพะยา

 

               เชื่อผู้ต้องหาน่าจะอยู่กลุ่มเดียวกันของนายมะยะโก๊ะ ลาเต๊ะ หรือโต๊ะบัง แกนนำกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ อ.ยะรัง อ.โคกโพธิ์ อ.แม่ลาน และ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

 

               สำหรับ นายมะยะโก๊ะฯ พบมีประวัติก่อเหตุโชกโชน – สมาชิกลุ่มปฏิบัติการ/มือปืน, มือประกอบวัตถุระเบิดกลุ่ม ผู้ก่อเหตุรุนแรงพื้นที่ – เป็นบุตรของ นายหะยีซาเฮาะฯ อดีตโต๊ะครูเจ้าของปอเนาะ – ก่อเหตุลอบวางระเบิด จนท.ทหาร ร้อย.ร.1614 ฉก.ปัตตานี 21 เมื่อ 26 พ.ค.51 -

 

               พบเป็นกลุ่มเดียวกับที่กราดยิง อ.ส.ที่บ้านปะกาฮารัง เหตุปล้นร้านทอง ที่จังหวัดสงขลา และเหตุปล้นตู้ ATM ที่ มหาวิทยาลัยฟาตอนี

 

 

 

ภาพ/ข่าว มาวันดี รามันห์สิริวงศ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัด ยะลา รายงาน