
เบรกโครงการบริจาคสินค้าละเมิดฯหวั่นขัดกฎหมายสากล-ต่างชาติฟ้อง
อธิบดีกรมศุลฯ เบรกโครงการบริจาคสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ให้ผู้ด้อยโอกาส เดินหน้าทำลายสินค้าตามหลักกฎหมายสากล ป้องต่างชาติฟ้องเรียกค่าเสียหาย ทำโครงการเก่าสะดุด
นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรยังคงนโยบายที่จะทำลายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ที่จับกุมมาได้ตามเดิม เพื่อให้เป็นไปตามหลักกฎหมายสากล ส่วนนโยบายเดิมของนายอุทิศ ธรรมวาทิน อดีตอธิบดีกรมศุลกากร ที่ต้องการจะให้นำสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ที่จับกุมได้ แล้วให้ทำลายเฉพาะป้ายยี่ห้อตราสินค้า (แบรนด์เนม) แล้วนำของเหล่านี้ไปบริจาคให้มูลนิธิ หรือองค์กรต่างๆ ที่ห่างไกลความเจริญนั้น ยังไม่ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
รายงานข่าวจากกรมศุลกากร กล่าวว่า แต่เดิมสมัยของนายอุทิศนั้น ต้องการที่จะนำสินค้าเหล่านี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่คนด้อยโอกาส คนยากจน ในพื้นที่ห่างไกล เนื่องจากเห็นว่า การทำลายนั้นก็ไม่ได้เกิดประโยชน์ใดๆ ขึ้นมา และได้เชิญภาคเอกชนเจ้าของลิขสิทธิ์สินค้าดังยี่ห้อต่างๆ มาหารือแล้ว และเบื้องต้น เอกชนเหล่านี้รับปากที่จะนำเรื่องดังกล่าวไปหารือถึงแนวทางปฏิบัติว่าเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน แต่ขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลงอธิบดีกรมศุลกากรคนใหม่แล้ว ทำให้กรมศุลกากร จะต้องทำหนังสือไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อสอบถามว่าจะให้ดำเนินนโยบายดังกล่าวต่ออีกหรือไม่อย่างไร
อย่างไรก็ตามระหว่างนี้กรมศุลกากรยังคงที่จะให้ใช้วิธีการทำลายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ตามเดิมไปก่อน เนื่องจากเห็นว่า หากไม่ทำลายแล้ว เจ้าของลิขสิทธิ์ต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทข้ามชาติ อาจเห็นว่าไทยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายสากล และส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับไทยได้ กรณีที่ทำให้เขาเสียผลประโยชน์
รายงานข่าวอีกว่า สถิติการจับกุมทรัพย์สินทางปัญญาในปีงบประมาณ 2552 ที่ผ่านมานั้น จับกุมได้ 663 ราย รวมสินค้ากว่า 854,937 ชนิด คิดเป็นมูลค่ากว่า 283.457 ล้านบาท