จับแล้วหนุ่มแสบตุ๋นสัมปทานขนส่งลูกกุ้ง 2.2 ล้าน

 

              เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 ต.ค.2562 พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 (ผบช.ภ.1) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 , ​พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.จ.สมุทรปราการ , พ.ต.อ.ฐานุพงศ์ แสงซื่อ ผกก.เมืองสมุทรปราการ ​ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม ​​​​นายวีระพัฒน์ หรือ ยู พฤกษาปรินนท์ อายุ 34 ปี อดีตเป็นคนรับส่งกุ้ง อยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ 8 ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 670/2562 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2562 โดยกล่าวหาว่า ฉ้อโกงประชาชน และการกู้ยืมเงิน โดยจัดให้มีบุคคลตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป ชักชวนบุคคลต่างๆ เพื่อให้มีการกู้ยืมเงิน โดยตกลงว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ผู้กู้ยืมในอัตราที่สูงว่าอัตราดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้

 

 

 

              พล.ต.ท.อำพล เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณปลายเดือนพฤษภาคม 2562 กลุ่มผู้เสียหายได้รู้จักกับผู้ต้องหา ซึ่งอ้างว่าตนเองได้รับสัมปทานการขนส่งลูกกุ้งขาวแวนนาไมกับบริษัท ไทยยูเนี่ยน จำกัด และบริษัท ซีพี จำกัด ซึ่งมีความต้องการรถยนต์กระบะขนส่งลูกกุ้งขาวแวนนาไม จำนวนรวม 140 คัน เพื่อนำรถไปรับกุ้งที่ฟาร์มกุ้งในจังหวัดเพชรบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด และสมุทรสาคร แล้วนำส่งกุ้งตามจังหวัดต่างๆ ได้แก่ นครปฐม ชัยนาท อ่างทอง สุพรรณบุรี โดยจะได้รับค่าแรงในการขนส่งเที่ยวละ 3,500 - 7,400 บาท ต่อเที่ยว จึงได้แจ้งไปยังกลุ่มผู้เสียหายให้ร่วมลงทุน โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินให้แก่ผู้ต้องหา จำนวนคนละ 16,050 บาท เพื่อเป็นเงินประกันการขนส่งสินค้าลูกกุ้งขาวแวนนาไม และเป็นค่าฝึกอบรมการขนส่งลูกกุ้งขาวให้กับเจ้าหน้าที่ของบริษัท ไทยยูเนี่ยน จำกัด และบริษัท ซีพี จำกัด

 

 

 

 

              ทั้งนี้ ผู้ต้องหายังได้นำหนังสือของบริษัทดังกล่าวมาแสดง เพื่อใช้หลอกลวงกลุ่มผู้เสียหายให้หลงเชื่อ แต่เมื่อถึงกำหนดการอบรมช่วงเดือนมิถุนายน และกรกฎาคม 2562 ก็ไม่ได้มีการอบรมขึ้นจริง และมีการผัดผ่อนเรื่อยมา โดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯยังติดการอบรมให้ความรู้กับกลุ่มอื่นอยู่ ยังไม่แล้วเสร็จ นอกจากนั้นผู้ต้องหายังนัดหมายพากลุ่มผู้เสียหายไปดูงานตามบ่อกุ้งในจังหวัดต่างๆ อีกหลายครั้ง แต่กลุ่มผู้เสียหายก็ยังไม่ได้วิ่งรถขนส่งกุ้งตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง

 

 

 

 

 

              ต่อมาทางผู้เสียหายได้ทำการตรวจสอบกับบริษัทดังกล่าวในข้างต้น ปรากฏว่า หนังสือของบริษัทดังกล่าว เป็นเอกสารปลอมทั้งหมด ที่ผู้ต้องหาทำขึ้นมาเอง เพื่อหลอกลวงกลุ่มผู้เสียหาย ต่อมาช่วงเดือนกันยายน 2562 กลุ่มผู้เสียหายจึงได้ขอให้ผู้ต้องหาคืนเงินค่าประกัน ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้ จึงมั่นใจว่าถูกหลอกลวงอย่างแน่นอน จึงได้รวมตัวกันมาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา เบื้องต้น​​​​จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียหายรวมทั้งสิ้น จำนวน 140 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 2.2 ล้านบาท

 

 

 

 

              ทางด้าน นายสิริพงษ์ พินิจการ หนึ่งผู้เสียหาย เปิดเผยว่า รู้จักกับผู้ต้องหาผ่านเพื่อนมาอีกทอดหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองวิ่งรถกระบะทึบส่งของอยู่ ต่อมามีการชักชวนและบอกว่าต้องการรถกระบะส่งลูกกุ้งหลายคันส่งในพื้นที่ภาคกลาง โดยจะได้ค่าส่งเที่ยวละ 3,500-4,000 บาท จึงได้ชักชวนเพื่อนๆที่มีรถกระบะเข้ามาอยู่ในสาย และทราบว่ามีทั่งหมด 6 สาย โดยตนอยู่ที่สายเพชรใหม่ มีสมาชิกประมาณ 20 คน ต้องเสียค่าสมัคร คนละ 10,650 บาท

 

 

 

 

              โดยนายวีระพัฒน์ ได้สร้างความน่าเชื่อถือมีใบนับรองจากบรัษัทซีพี พร้อมกับพาไปชมวิธีการเลี้ยงกุ้ง การอนุบาลกุ้ง วัดค่าน้ำการดูแลรักษา วิธีการขนส่ง ซึ่งทำให้เหยื่อทุกคนหลงเชื่อ แต่หลังจากที่จ่ายเงินไปแล้ว ยังไม่ได้มีการส่งลูกกุ้ง ตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างแต่อย่างใด มีเพียงครั้งเดียวที่ผู้ต้องหาให้ไปรับลูกกุ้งจากราชบุรี มาส่งที่บ้านเขาเองโดยได้ค่าขนส่งคนละ 2,000 บาท แต่หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้พยายามบ่ายเบี่ยง กล่าวอ้าง ว่ามีปัญหาต่างๆที่ต้องเลื่อนหลายครั้ง จึงรู้ว่าถูกหลอกและรวมตัวกันเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ