ข่าว

(คลิป) ธนชาติ ร้องป.ป.ช.สอบระบบอัยการสั่งไม่ฟ้องเมียกำพล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ธนชาติ ร้องป.ป.ช.สอบระบบอัยการสั่งไม่ฟ้องเมียกำพล ปูด ได้ข้อมูลเส้นทางการเงินกลุ่มกำพล โยงเครือญาติที่ไม่เกี่ยวคดี ย้ำเป็นเรื่องความน่าเชื่อถือ

 

30 ตุลาคม 2562 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ "นายธนชาติ แสงประดับ ธรรมโชติ" ในฐานะทนายความ และเครือข่ายนักกฎหมายเศรษฐกิจและสิทธิมนุษยชน เดินทางมายื่นคำร้อง ขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ตรวจสอบระบบการสั่งคดีของพนักงานอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ 

 

 

ทั้งนี้กรณีค้าประเวณีสถานบริการอาบ อบ นวด วิคตอเรีย ซีเคร็ท ที่มีคำสั่งฟ้องกลุ่มพนักงานสถานบริการ และนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าของธุรกิจฯ แต่มีคำสั่งไม่ฟ้องนางนิภา วิระเทพสุภรณ์ ภรรยาของนายกำพล ทั้งที่คดีซึ่งฟ้องพนักงานสถานบริการ ศาลมีคำพิพากษาลงโทษความผิดค้าประเวณี โดยยกฟ้องข้อหาค้ามนุษย์ แต่คดียังไม่ถึงที่สุดเนื่องจากมีการอุทธรณ์คดีอยู่

 

การยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวนั้น มี "นายสุทธิ บุญมี" ผอ.สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. เป็นผู้รับเรื่องไว้

 

ภายหลังการยื่นคำร้องและเอกสารประกอบแล้ว "นายธนชาติ" ผู้ยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบระบบสั่งคดีค้ามนุษย์อาบอบนวดวิคตอเรียซีเคร็ทของอัยการ กล่าวว่า การยื่นคำร้องมีประเด็นหลัก 2 ข้อ คือ 1.อยากให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ไต่สวน ตรวจสอบ ขั้นตอนการสั่งไม่ฟ้องคดีพนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ในกรณีของวิคตอเรีย ซีเคร็ท ซึ่งครั้งแรกมีส่วนที่สั่งฟ้องและยื่นฟ้องคดีแล้ว ประมาณ 40 กว่าราย ในข้อหาค้ามนุษย์และค้าประเวณี

 

แต่เมื่อคดีเข้าสู่การพิจารณาของศาลแล้วมีการวินิจฉัยถึงส่วนข้อกล่าวหาค้ามนุษย์ว่าไม่เป็นความผิด ผู้ต้องหาสำคัญคือนายกำพล เจ้าของธุรกิจฯ ,  ภรรยาและบุตรของนายกำพล ซึ่งตัวไปอยู่ต่างประเทศ ได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรมอัยการ ซึ่งก่อนหน้านี้ระหว่างการสอบสวนได้มีการออกหมายจับไว้แล้วอัยการได้พิจารณาการร้องขอความเป็นธรรมกระทั่งได้มีคำสั่งไม่ฟ้องภรรยาของนายกำพล เราจึงสงสัยว่าการที่สั่งไม่ฟ้องคดีนี้อัยการได้หยิบยกคำพิพากษาบางส่วนในสำนวนมาอ้างว่าจำเลยที่ยื่นฟ้องรวมทั้งผู้ต้องหาที่ยังไม่ได้ฟ้องนั้นไม่มีความผิดค้ามนุษย์

 

โดยขณะนี้เราได้เอกสารเกี่ยวกับคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการในส่วนภรรยาและบุตรของนายกำพล ส่วนกรณีของนายกำพลอยู่ขั้นตอนใดนั้นเรายังไม่ทราบจึงมาร้อง ให้ ป.ป.ช.ทำการไต่สวนเพื่อตรวจสอบดูเพราะหากสั่งไม่ฟ้องนายกำพลด้วยก็ถือเป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากหากเราไม่สามารถแก้ปัญหาค้ามนุษย์ได้ เราก็จะถูกจัดอันดับเทียร์อีก (รายงานสถานการณ์ค้ามนุษย์) ก็ไม่รู้จะถูกจัดไปลำดับเทียร์ที่เท่าไรอีก ขณะที่ นายกรัฐมนตรีก็เคยประกาศไว้ว่าให้เรื่องค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกส่วนก็ต้องถือปฏิบัติว่าเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติด้วย

 

ส่วนที่การสั่งคดี จะมีความไม่ชอบมาพากลหรือไม่ ตนในฐานะที่มีอาชีพทนายความเห็นว่า ก่อนหน้านี้มีการสั่งฟ้องคดีไปแล้วจนมีการจับกุมตัวผู้ร่วมกระทำผิดได้และส่งตัวฟ้องกระทั่งศาลมีคำพิพากษา แต่ผู้ต้องหาอีกส่วนหนึ่งที่ยังติดตามตัวมาฟ้องไม่ได้กลับนำเอาคำพิพากษาบางส่วนที่ศาลตัดสินคดีนั้นมาอ้างเพื่อสั่งไม่ฟ้องนั้นจะมีความไม่ชอบมาพากลหรือไม่ จึงต้องให้ตรวจสอบว่าการสั่งไม่ฟ้องนั้นเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ และการชั่งน้ำหนักนั้นถูกต้องหรือไม่ โดยการนำเอาข้อมูลบางส่วนคำพิพากษาของศาลชั้นต้นซึ่งคดียังไม่ถึงที่สุดมาเป็นเงื่อนไขสั่งไม่ฟ้องคดี จะทำได้หรือไม่ โดยต้องอย่าลืมว่าเมื่อคดีศาลชั้นต้นตัดสินแล้วอัยการโจทก์ที่ทำคดีก็ยื่นอุทธรณ์แล้ว แต่ระหว่างอุทธรณ์อัยการอีกส่วนก็สั่งไม่ฟ้องคดีผู้ต้องหากลุ่มภรรยานายกำพล 

 

 

"เรื่องนี้ เป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือ ถ้าในองค์กรมีความเห็นในทางกฎหมายต่างกันแล้ว ประชาชน จะพึ่งใคร เรื่องนี้คดีก็ต้องไปให้ถึงศาล ให้ศาลตัดสินว่าเรื่องเป็นอย่างไร อัยการไม่ควรอาศัยคำพิพากษาบางส่วนแล้วตัดตอนไป"

 

ส่วนประเด็นที่ 2 คือมีข้อมูลขอให้ดูเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งเราได้รับข้อมูลว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีของคนที่หลบหนีไปต่างประเทศ ในธนาคารกสิกร เป็นหลักร้อยล้าน โดยเงินก้อนนี้บางส่วนก็มีถ่ายโอนไปบัญชีเจ้าหน้าที่รัฐในกระบวนการยุติธรรมและเครือญาติ 2-3 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่นั้นไม่ได้มีชื่อเกี่ยวข้องกับคดีแต่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่มีความสำคัญในส่วนของเครือญาติอัยการ 1 ราย โดยเรายังไม่ได้ใส่ความอะไรซึ่งต้องขอให้ตรวจสอบดูว่าเป็นเงินประกอบธุรกิจอะไรหรือไม่ ก็ต้องพิสูจน์หากไม่สามารถทราบที่มาได้อาจเข้าข่ายมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ ซึ่งหากเป็นกรณีร่ำรวยผิดปกติก็มีทางเดียวคือ ป.ป.ช. ต้องสั่งยึดให้ ทรัพย์สินให้มาเป็นของรัฐ ก็ขอให้ ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบดู ซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับรายชื่อธนาคาร-ชื่อบัญชี และการรับโอนเงิน

 

" การยื่น คำร้องต่อปปช.วันนี้ เป็นการขอให้ตรวจสอบ ระบบ แล้วถ้าไปตรวจเจอว่าเงินเข้าไปที่ใคร มีการเคลื่อนไหวของเงินส่วนใด ก็ต้องตรวจสอบบุคคลนั้นอีก" นายธนชาติ ทนายความ ระบุ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับกรณีคดีวิคตอเรียซีเคร็ทนั้น ก่อนหน้านี้ ทางสำนักงานอัยการสูงสุด โดยทีมโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 23 ก.ย.62 เกี่ยวกับคดีที่กล่าวหานายกำพล , นางนิภา ภรรยา และบริษัท วิคตอเรียซีเคร็ท จำกัด กับพวกอีกหลายคนว่า พนักงานอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ รับผิดชอบอยู่จำนวน 2 เรื่อง และพนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องทั้ง 2 คดี แต่นายกำพลได้หลบหนีขณะนี้ศาลได้ออกหมายจับเพื่อนำตัวมาฟ้องภายในอายุความ 20 ปีแล้ว โดยในส่วนผู้ต้องหาอื่นๆ อีกหลายคน พนักงานอัยการได้ส่งฟ้องต่อแผนกคดีค้ามนุษย์ในศาลอาญา ในข้อหาค้ามนุษย์ โดยแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบในการค้าประเวณี , เป็นธุระจัดหาและสมคบ โดยการตกลงกันตั้งแต่ 2คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ฯ , ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตามฯ

 

ซึ่งทั้ง 2 คดี ศาลได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 ส.ค.61และวันที่ 24 ก.ย.61 โดยให้ยกฟ้องจำเลยทุกคน ในข้อหาค้ามนุษย์โดยแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบในการค้าประเวณี , เป็นธุระจัดหาและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ฯ แต่ให้ลงโทษ ในข้อหาเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น , ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตามฯ ซึ่งคำพิพากษายังมีการวินิจฉัยด้วยว่านายกำพล และนางนิภา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดที่ศาลลงโทษจำเลยคนอื่นๆ ดังกล่าว

 

โดยหลังจากศาลมีคำพิพากษาทั้ง นายกำพลและนางนิภา ได้ร้องขอความเป็นธรรมขอให้พนักงานอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ทบทวนคำสั่ง โดยส่วนหนึ่งอ้างอิงคำพิพากษาดังกล่าว ซึ่งต่อมาอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีค้ามนุษย์ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า หนังสือร้องขอความเป็นธรรมฟังขึ้นในส่วนของนางนิภาจึงกลับความเห็น สั่งไม่ฟ้องซึ่งรองอัยการสูงสุดเห็นด้วยกับคำสั่งไม่ฟ้องนั้น และได้ส่งความเห็นนั้นให้ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พิจารณาอีกครั้งแล้วก็เห็นพ้องด้วยโดยไม่แย้งในการกลับคำสั่งดังกล่าว คดีจึงถึงที่สุดตามขั้นตอนของกฎหมาย

 

แต่ในส่วนของนายกำพล อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีค้ามนุษย์ ยืนยันให้ฟ้องไปตามคำสั่งเดิมทั้ง 2 คดี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ติดตามตัวนายกำพล มาให้พนักงานอัยการเพื่อส่งฟ้องภายในอายุความ 20 ปีต่อไป

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ