ข่าว

ตะกร้อไม่มี 5 ทอง ต้องเอาปี๊บคลุมหัว

ตะกร้อไม่มี 5 ทอง ต้องเอาปี๊บคลุมหัว

03 ธ.ค. 2552

นับตั้งแต่ซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อปี 2538 ทัพนักตะกร้อไทยประกาศศักดาคว้า "เหรียญทอง" เหนือคู่ปรับตลอดกาล "เสือเหลือง" มาเลเซียครองตำแหน่งแชมป์มาอย่างยาวนานถึง 7 สมัยซ้อน

นับตั้งแต่ซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อปี 2538 ทัพนักตะกร้อไทยประกาศศักดาคว้า "เหรียญทอง" เหนือคู่ปรับตลอดกาล "เสือเหลือง" มาเลเซีย ได้สำเร็จในประเภททีมชุดชาย
 จากนั้นมาทีมตะกร้อไทยไม่เคยสะกดคำว่า "แพ้" ได้อีกเลย ครองตำแหน่งแชมป์มาอย่างยาวนานถึง 7 สมัยซ้อน
 

ส่วน "เวียงจันทน์เกมส์" ครั้งนี้สมาคมตั้งความหวังไว้ที่ 5 เหรียญทอง จากทั้งหมดที่ชิงชัย 8 เหรียญทอง โดยเจ้าภาพกำหนดให้แต่ละประเทศส่งนักกีฬาเข้าร่วมได้แค่ 6 รายการเท่านั้น คือ ทีมชุดหญิง ทีมเดี่ยวหญิง หญิงคู่ ลอดห่วงชาย ทีมชุดชาย และทีมเดี่ยวชาย

 ล่าสุดสมาคมประกาศรายชื่อนักกีฬาทั้งหมดออกมาเรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย เซปักตะกร้อชาย นำโดย “โจ้หลังเท้า” สืบศักดิ์ ผันสืบ จอมเสิร์ฟหลังเท้าบันลือโลก, อนุวัฒน์ ชัยชนะ, พนมพร เอี่ยมสะอาด, เกรียงไกร แก้วเมียน, กฤษณะ ธนกรณ์, พรชัย เค้าแก้ว, สหชาติ สาครเจริญ, ชิษณุพงษ์ สีหอม, ภัทรพงษ์ ยุพดี, วีระวุฒิ ณ หนองคาย, สมพร ใจสิงหล, สุริยันต์ เป๊ะชาญ, สิงหา สมสกุล, ศุภชัย มณีนาถ และวิศวะ วงศ์โยธา
 

ตะกร้อลอดห่วงชาย ได้แก่ เอกชัย มาสุข, สหรัฐ อุ่นอำไพ, วัฒนา ใจเย็น, ธไนวัฒน์ อยู่สุข, ไชยา วัฒถาโน กับ ณราชัย ชูเมืองกุศล
 ปิดท้ายที่เซปักตะกร้อหญิง ได้แก่ สุนทรี รูปสูง, นิตินัดดา แก้วคำไสย์, ดารณี วงศ์เจริญ, แก้วใจ พุ่มสว่างแก้ว, นิตยา ตู้แก้ว, ธิดาวรรณ ดาวสกุล, โชติกา บุญทอง, นิสา ธนะอรรถวุฒิ, วันวิสาห์ จันทร์แก่น, อารีรัตน์ ตาขัน, พยอม ศรีหงษา, พิกุล สีดำ, วารี นันทสิงห์, จิรัตติกา หึกขุนทด และ ศศิวิมล จันทสิทธิ์

 จากรายชื่อที่ออกมาต้องยอมรับว่า มองมุมไหนเหลี่ยมไหนนักหวดลูกพลาสติกไทยก็ยังเป็นต่อ เป้าหมาย 5 ทองที่ตั้งใจไว้ไม่เกินความจริงแน่ เพราะด้วยการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญนักกีฬาส่วนใหญ่เป็นหน้าเก่าที่ฝึกซ้อมร่วมกันมาช้านาน ประเภทมองตาก็รู้ใจ ทำให้ได้เปรียบคู่ต่อสู้มาก
 เริ่มจากประเภทชาย เรามีคู่แข่งแค่เจ้าเดียวคือ มาเลเซีย เท่านั้น ที่ผ่านมานักตะกร้อเสือเหลืองมีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นเก่าๆ ครั้งใหญ่ เพราะหลายคนเริ่มหมดน้ำยา จึงเอาดาวรุ่งขึ้นมาเสริม ขณะที่ของเรายังเกาะกลุ่มกันดีอยู่ จุดเดียวที่ทีมไทยจะเพลี่ยงพล้ำก็คือ การถูกยั่วยุอารมณ์ และการควบคุมสมาธิของผู้ล่นแต่ละคนจะดีมากน้อยแค่ไหน
 

อย่าไปหลงกลหรือเล่นตามเกมของมาเลเซีย ที่ชอบกวนโมโหก็แล้วกัน มิเช่นนั้นอาจน้ำตาตกในก็เป็นได้ แต่ถ้าเล่นได้เหมือนตอนที่ซ้อมมา ทุกคนช่วยกันเล่นรับรองของเคยๆ ยังไงมันก็ไม่รอดไปไหน
 เช่นเดียวกันกับประเภทหญิง เรามีคู่กัดคือตระกูล "เหงียน" เวียดนาม ที่เคยทำให้ทีมตะกร้อแม่เนื้อนิ่มไทยตาค้างไร้เหรียญทองกลับบ้านตั้งแต่ซีเกมส์ ครั้งที่ 22 ที่เวียดนามมาแล้ว ก่อนจะมาล้างแค้นแก้ตัวคืนในซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่จ.นครราชสีมา ว่ากันว่าทีมตะกร้อสาวเวียดนามชุดนี้เก็บตัวมายาวนานเป็นปี แถมยังเดินทางไปแข่งขันรายการสำคัญอย่างต่อเนื่อง
 แต่ด้วยจังหวะทีเด็ดทีขาดทั้งลูกเสิร์ฟ เกมรับ และการฟาดหน้าเนตที่รุนแรงหลากหลายวิธี จะเป็นตัวนำทางพาทีมไทยคว้าเหรียญทองกลับบ้านได้
 

ปิดท้ายที่ตะกร้อลอดห่วงชาย เรามี "หม่อง" พม่า ที่เอาทหารมาเล่นเป็นเสี้ยนหนามสำคัญ ล่าสุดจากผลงานการฟิตซ้อม "บิ๊กจา" พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ นายกสมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย บอกว่า เด็กชุดนี้มีความพร้อมและสมบูรณ์กว่าซีเกมส์ที่ผ่านมา แถมยังมีสถิติทำแต้มดีมากๆ มั่นใจเหรียญทองไม่หนีไปไหน
 

ขณะที่ นายธวัช กุมุทพงษ์พานิช ผู้จัดการทีมตะกร้อไทย กล่าวว่า ทีมงานทุกคนทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อเก็บข้อมูลคู่ต่อสู้ให้มากที่สุด โดยเฉพาะมาเลเซีย พม่า และเวียดนาม เราจะประมาทหรือส่งชุดสำรองลงไปไม่ได้ เพราะลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนเป้าหมายที่วางไว้ส่วนตัวมั่นใจว่าไม่น่าเกินความจริง โดย 5 เหรียญทองที่จะได้มาจากทีมชุดหญิง ทีมชุดชาย ลอดห่วงชาย ส่วนอีก 3 รายการ เดี่ยวหญิง เดี่ยวชาย และคู่หญิง เราน่าจะทำได้อย่างน้อย 2 เหรียญทอง เพราะชื่อเสียงของนักตะกร้อไทยในภูมิภาคนี้ข่มคู่แข่งทุกชาติอยู่แล้ว
 

ด้านนายกมล ตันกิมหงษ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชายบอกว่า ไม่รู้สึกกดดันกับเป้าหมายที่ผู้ใหญ่ตั้งไว้ เพราะทีมงานชุดนี้อยู่ร่วมกันมานาน และรู้ดีว่าแต่ละตำแหน่งมีความสามารถแค่ไหน ที่สำคัญเราต้องปรับเปลี่ยนหมุนเวียนแต่ละตำแหน่งทดแทนกันได้ เพราะตะกร้อสมัยใหม่ไม่ยึดติดว่าตำแหน่งใครตำแหน่งมัน ส่วนตัวเชื่อว่าเราจะกลับมาพร้อมกับความยิ่งใหญ่และคว้าแชมป์ได้อีกสมัย

 ส่วนนายวีรัส ณ หนองคาย หัวหน้าผู้ฝึกสอนตะกร้อหญิงของไทย ให้สัมภาษณ์ว่าทีมหญิงของไทยตอนนี้สมบูรณ์มาก โดยชุดนี้มีเด็กใหม่ติดมาหนึ่งคนคือ พิกุล สีดำ ผู้เล่นตำแหน่งแบ็ก อายุแค่ 16 ปี รวมทั้ง จิรัตติกา หึกขุนทด และศศิวิมล จันทสิทธิ์ อายุ 18 ปีเท่ากัน สำหรับความหวังของไทย ส่วนตัวยังมั่นใจว่าเราจะคว้าได้ทั้ง 3 ทอง โดยทีมชุดหญิงกับทีมเดี่ยวหญิง ไทยน่าจะชิงกับเวียดนามเหมือนเดิม ส่วนหญิงคู่ มีอินโดนีเซียกับพม่า เป็นคู่แข่งสำคัญ ขณะที่ทีมเดี่ยวหญิง วางผู้เล่นตัวหลักไว้แล้ว 3 คน คือ นิตินัดดา แก้วคำไสย์, ธิดาวรรณ ดาวสกุล และอารีรัตน์ ตาขัน    

 ด้วย เกมแห่งศักดิ์ศรี ของคนไทยทั้งชาติ งานนี้หากไม่สามารถ คว้าเหรียญทอง ได้ตามเป้า เห็นทีจะต้องเอา "ปี๊บคลุมหัว" กลับบ้าน 
อภิชาติ ระวีวัฒน์ รายงาน