"อุตตม"เผยมาตรการ "ชิมช้อปใช้"สร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิ9พันล้านบาท ช่วยให้เศรษฐกิจฐานรากขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี เม็ดเงินหมุนเวียนในร้านค้ารายย่อย
ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวในหัวข้อ "ชิมช้อปใช้” สร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 9 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2562 เวลา 18.41 น. ใจความว่า
ผมได้รับรายงานข้อมูลจากกรมบัญชีกลางว่า ขณะนี้มียอดการใช้จ่ายผ่านมาตรการ“ชิมช้อปใช้” ในระยะแรก 9,006.1 ล้านบาท
โดยแบ่งเป็น การใช้จ่ายในกระเป๋า 1 หรือ เงินสนับสนุน 1,000 บาท จำนวน 8,800 ล้านบาท และกระเป๋า G-Wallet 2 (เติมเงินใช้จ่ายเพื่อรับเงินคืน 15%) จำนวน 206.1 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นประเภท “ชิม” จำนวน 1,313.4 ล้านบาท “ช้อป” 5,007.5 ล้านบาท และ “ใช้” 124 ล้านบาท และในส่วนของร้านค้าทั่วไป อีกจำนวน 2,561.1 ล้านบาท
ดร.อุตตม สาวนายน
ด้านจำนวนร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ ชิมช้อปใช้ ในระยะที่ 1 มีประมาณ 1.77 แสนร้านค้า ซึ่งร้านค้าที่เพิ่งเข้าร่วมโครงการ 97,655 ร้านค้า ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ และร้านค้าประชารัฐ ประมาณ 80,000 ร้านค้า
จะเห็นได้ว่าจากตัวเลขดังกล่าว มาตรการ “ชิมช้อปใช้” สามารถช่วยให้เศรษฐกิจฐานรากขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี เม็ดเงินมีการหมุนเวียนในร้านค้ารายย่อย ร้านค้าชุมชน ผู้ประกอบการขนาดเล็ก ร้านอาหาร ตลอดจนภาคการท่องเที่ยว โฮมสเตย์และที่พักในพื้นที่ทั่วประเทศ
สำหรับวันนี้ ถือเป็นวันที่ 2 ที่เปิดให้ลงทะเบียน “ชิมช้อปใช้” เฟส ก็พบว่าพี่น้องประชาชนยังคงให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีคนลงทะเบียนเต็มทั้งในทุกรอบ โดยประชาชนที่สนใจยังสามารถลงทะเบียนได้จนถึงวันที่ 26 ต.ค.62 หรือจนกว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิ์เต็มจำนวน 3 ล้านคน ซึ่งผู้ที่ได้รับสิทธิ์แล้วสามารถเริ่มใช้มาตรการได้ในวันที่ 30 ต.ค. 62 เป็นต้นไป
ในส่วนของร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมมาตรการนี้ ทางกรมบัญชีกลางได้เปิดให้ลงทะเบียนได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.62 โดยร้านค้าที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้วในระยะที่ 1 ไม่ต้องมาลงทะเบียนใหม่ สามารถเข้าร่วมต่อเนื่องได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 62
“ชิมช้อปใช้” ในระยะที่ 2 นี้ ทางรัฐบาลต้องการให้เกิดความต่อเนื่องในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ในกลุ่มเป้าหมายที่เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายกระจายไปยังเศรษฐกิจฐานราก ทำให้ชุมชนได้รับประโยชน์มากขึ้น เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบหลายรอบ พ่อค้าแม่ค้า พี่น้องประชาชน จะได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง