ผู้เชี่ยวชาญเตือนความเสียหายพายุไต้ฝุ่นฮากีบิส ย้ำเตือนอากาศแปรปรวนสุดขั้วที่อาจกลายเป็นความปกติใหม่
ในรอบปี 2562 เป็นปีที่ญี่ปุ่นเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นรุนแรงหลายลูก โดยเฉพาะพายุไต้ฝุ่นฟ้าใส ถล่มภูมิภาคคันโตเมื่อเดือนกันยายน ที่ทำให้จังหวัดชิบะใกล้กรุงโตเกียวไฟดับวงกว้างเป็นเวลาหลายวัน ตามด้วย ฮากีบิส พายุไต้ฝุ่นที่มีกำลังแรงเท่าเฮอร์ริเคนระดับ 5 ในเดือนนี้
Torrential rain is hitting Chiba Prefecture, east of Tokyo. Weather officials are urging people in possibly affected areas to stay alert for mudslides and flooding, particularly in areas hit hard by past typhoons. pic.twitter.com/markXELZaq
— NHK WORLD News (@NHKWORLD_News) October 25, 2019
( จ.ชิบะ เจอฝนตกหนักซ้ำอีกระลอก เมื่อวันศุกร์ ( 25 ต.ค.)
รัฐบาลญี่ปุ่นยืนยันเมื่อวันอังคาร ( 22 ต.ค.)ว่า พายุฮากีบิส ทำให้เกิดฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์ คันกันน้ำพังทลาย 135 จุดในแม่น้ำ 71 สาย มีผู้เสียชีวิต 84 คน สูญหาย 9 คน บ้านจมใต้น้ำ 6.86 หมื่นหลังคาเรือน บ้านถูกทำลายหรือเสียหายหนัก 5,800 หลัง ประชาชนอีกเกือบ 4,000 คนยังอยู่ในศูนย์อพยพ
คาสุฮิสะ สึโบคิ ศาสตราจารย์สถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมโลก-อวกาศ มหาวิทยาลัยนาโงยา กล่าวว่า เป็นที่คาดได้ว่า ญี่ปุ่นจะต้องเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นกำลังแรงและฝนตกหนักเพิ่มมากขึ้นในภาวะโลกร้อน เป็นความปกติใหม่ในประเทศที่เสี่ยงภัยธรรมชาติหลากหลายรูปแบบอยู่แล้ว
อุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้น เพิ่มความชื้นในอากาศที่หล่อเลี้ยงพายุไต้ฝุ่น ผลวิจัยพบว่า พายุรุนแรงที่สุด คือพายุที่ก่อตัวในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นักวิชาการ กล่าวอีกว่า ประเทศละติจูดกลาง เช่น ญี่ปุ่น จะเสี่ยงกับพายุไต้ฝุ่นมากขึ้น และว่า พายุไต้ฝุ่นฟ้าใส และฮากีบิส หรือพายุหมายเลข 15 และหมายเลข 19 เป็นพายุกำลังแรงที่สุดเท่าที่เคยพัดขึ้นฝั่งภูมิภาคคันโตและโตไค นับตั้งแต่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเริ่มเก็บสถิติในปี 1951
ด้วยเหตุนี้ การพยากรณ์ความรุนแรงและความชื้นอย่างแม่นยำ มีความสำคัญยิ่งต่อการเตรียมพร้อมรับพายุไต้ฝุ่น แต่ศาสตราจารย์ สุโบคิ กล่าวว่า วิธีการพยากรณ์ที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาใช้แค่ภาพดาวเทียมยังไม่เพียงพอ ควรใช้เครื่องบินสังเกตการณ์สภาพอากาศด้วย แต่เวลานี้ ยังเป็นขั้นทดลอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง