คนพรรครัฐบาลยึดหัวหาด ตำแหน่งกมธ.ฯ

 

 

              รัฐสภา - 24 ตุลาคม 2562 -กมธ.งบฯ63 ไร้มาตรการพิเศษ กันแปรญัตติเพื่อประโยชน์ของส.ส.-กมธ. ตามข้อห้ามรธน.144  บอกใช้ความตระหนักเท่านั้น ด้าน ตำแหน่งกมธ.ฯ สำคัญในกมธ. คนพรรครัฐบาลยึดหัวหาด ด้าน "ธนาธร" ได้นั่งที่ปรึกษา กมธ.วางกรอบ 30 วันทำงาน ประชุม 5 วันต่อสัปดาห์ วางปฏิทินส่งสภาฯ 27 ธ.ค. พิจารณาวาระสองและวาระสาม

 

 

 

 

               ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563  วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท นัดแรก เพื่อเลือกกมธ.ฯ ดำรงตำแหน่งต่างๆ ใน และวางกรอบการทำงาน

           
             

 

               ทั้งนี้ผลการหารือ ที่ประชุมมีมติให้นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทำหน้าที่ประธาน กมธ. มีรองประธาน กมธ.ฯ จำนวน 19 คน อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นรองประธานกมธ. คนที่หนึ่ง, นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นรองประธานกมธ.ฯ คนที่สอง, นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นรองประธานกมธ.ฯ คนที่สาม, นายวราเทพ รัตนากร แกนนำพรรคพลังประชารัฐ เป็นรองประธาน กมธ. ที่สี่ ส่วนเลขานุการ จำนวน 13 คน อาทิ นายสันติ กีรนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นเลขานุการฯ คนที่หนึ่ง, นายอัฎฐพล โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ เป็นเลขานุการฯ​ คนที่สอง, นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นเลขานุการฯ คนที่สาม, นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ เป็นเลขานุการฯ​คนที่สี่ 

 

 

 

 

             ขณะที่ตำแหน่งโฆษก มี 13 คน อาทิ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ, นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์, นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย,​นายจักรัตน์ พั้วช่วย ส.ส.เพชรบูรณ์​พรรคพลังประชารัฐ, นายธารา ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น ขณะที่ตำแหน่งอื่นๆ ที่น่าสนใจ อาทิ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประธานกมธ., นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการยุติปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากมธ. 

 

 

 

 

                 สำหรับกรอบการพิจารณาจะพิจารณาสัปดาห์ละ 5 วัน โดยวันจันทร์-อังคาร เริ่มประชุมเวลา 13.00- 22.00 น. วันพุธ และวันพฤหัสบดี ประชุมเวลา 09.00 - 18.00 น. และวันศุกร์ ประชุมเวลา 09.00 - 16.00 น. โดยวางกรอบการพิจารณา คือ จะรับคำแปรญัตติจนถึงวันที่ 18 พฤศจิกายน ก่อนจะพิจารณาและนำเสนอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาวาระสองและวาระสามช่วงกลางเดือนมกราคม  

 

   

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการพิจารณากรอบเวลาดังกล่าว กมธ. ฝั่งพรรคร่วมรัฐบาล เสนอให้มีเวลาทำงาน 30 วันทำงาน หรือนับตามปฏิทิน คือ 1 เดือนครึ่ง วันที่ 27 ธันวาคม 2562 ส่งรายงานให้ประธานสภาฯ และให้สภาฯ​พิจารณา วาระสอง และวาระสาม ช่วง 8-10 มกราคม 2562 แต่ถูกกมธ. ฝั่งพรรคฝ่ายค้านทักท้วงว่า ควรจะพิจารณาให้เต็มจำนวน 2 เดือน เพื่อไม่ให้มีการเร่งรัดการพิจารณาเกินไป เนื่องจากงบประมาณปี 2563 มีวงเงินสูงถึง 3.2 ล้านล้านบาท ทำให้นายวิรัช ชี้แจงว่ากรอบเวลาดังกล่าวเป็นไปตามที่สำนักงบประมาณ เสนอ และขอให้ที่ประชุมยึดถือเป็นเบื้องต้นและหากกมธ.ฯ ต้องการเวลาเพิ่มเติมสามารถเพิ่มเวลาตามวันประชุมที่ได้กำหนด หรือเพิ่มวันประชุมช่วงวันเสาร์ และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 22.00 น.ได้ 

 

 

                  ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าประเด็นที่กมธ.ได้หารือ คือ การปฏิบัติหน้าที่ของกมธ. ฐานะเป็นส.ส. ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในมาตรา 144 ว่าด้วยการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2563  ที่จะเสนอการแปรญัตติ หรือการกระทำด้วยประการใดๆ ท่ีมีผลให้ ส.ส. หรือ กมธ. มีส่วนไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้จ่ายงบประมาณไม่ได้ ทั้งนี้ สำนักงบประมาณซึ่งที่ประชุมไม่ได้กำหนดมาตรการใดๆ เป็นพิเศษ แต่ขอให้กำชับ กมธ.ฯ​ตระหนักในการทำหน้าที่ เพราะการพิจารณารายละเอียดของงบประมาณฯ นั้น กมธ.ฯ​ทำได้เพียง ปรับ ลด ตัด ทอนเท่านั้น แต่ไม่สามารถขอเพิ่มงบประมาณในหน่วยงาน หรือ ส่วนใดได้ ขณะที่ประเด็นของนายธนาธรที่มีผู้คัดค้านการดำรงตำแหน่งนั้น ที่ประชุมไม่ได้ยกมาหารือ เพราะมองว่ากมธ.ฯไม่มีอำนาจในการพิจารณา ดังนั้นจึงต้องรอคำวินิจฉัยจากนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ อีกครั้ง

 

 

                   ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำหรับตำแหน่งกมธ. ที่สำคัญและมีบทบาทต่อการกำกับทิศทาการพิจารณาเนื้อหาของร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ลำดับต้นๆ เป็นกมธ. ในสัดส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น รวมถึงตำแหน่งโฆษกกมธ.ฯ ที่มีบทบาทต่อการแถลงรายละเอียดและเนื้อหาของการประชุมลำดับต้นๆ  เป็นของพรรคร่วมรัฐบาลเช่นกัน