ข่าว

ฟักทองอินทรีย์ ไร่ทองก้อน อร่อยได้หมดทั้งสดและสุก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 "ฟักทองอินทรีย์"ไร่ทองก้อน อร่อยได้หมดทั้งสดและสุก

            ก้าวไปอีกขั้นสำหรับผักที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอย่าง “ฟักทอง” ที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์จนสามารถนำมารับประทานสดได้ หลังเจ้าของไร่ทองก้อน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ประสบความสำเร็จในการผลิตฟักทองรับประทานสดได้เป็นรายแรกของโลก ภายใต้ชื่อ “ฟักทองแบบอำพันชาด” ซึ่งมีกลิ่นหอม เนื้อแน่น มัน หนึบ มีเบต้าแคโรทีนสูง

ฟักทองอินทรีย์ ไร่ทองก้อน อร่อยได้หมดทั้งสดและสุก

 

            ฟักทองอินทรีย์ ไร่ทองก้อน อร่อยได้หมดทั้งสดและสุก

            “เป็นครั้งแรกที่จะบอกกับชาวโลกให้รู้ว่า ฟักทองสามารถกินสดได้ เรียกว่า ฟักทองแบบอำพันชาด ปกติการกินฟักทองเราจะต้องทำให้สุก ซึ่งจะทำให้สารอาหารที่ให้ประโยชน์ทางโภชนาการหายไป แต่การกินฟักทองแบบสดจะให้คุณค่าทางอาหารสูงมาก”

              ดร.ดำรงศักดิ์ แก้ววงษ์ไหม เจ้าของไร่นายทองก้อนเผยผลงานเด่น โดยฟักทองน้ำหนัก 100 กรัม มีวิตามินเอสูงถึง 476 ไมโครกรัม และมีเบต้าแคโรทีน 3,100 ไมโครกรัม เมื่อเทียบกับ อโวคาโดน้ำหนัก 100 กรัม มีวิตามินเอเพียง 7 ไมโครกรัม และมีเบต้าแคโรทีน 42 ไมโครกรัม โดยประโยชน์ของเบต้าแคโรทีน เนื่องจากฟักทอง เป็นหนึ่งในผักที่มีสีเหลืองออกส้ม ที่ช่วยบำรุงและรักษาสายตา มีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง บำรุงผิวพรรณให้เต่งตึง ชุ่มชื่น ชะลอรอยเหี่ยวย่น เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ลดระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคเบาหวาน ไขมันน้อย น้ำตาลน้อย กากใยอาหารสูง พลังงานต่ำ จึงเป็นอาหารที่เหมาะกับคนที่กำลังลดน้ำหนัก ป้องกันโรคหลอดเลือด และหัวใจ, ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานอย่างเป็นปกติ จากกากใยอาหารที่มีอยู่สูง ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย ป้องกันการเกิดโรคนิ่ว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลายคนยังไม่รู้ก็คือ มีฟักทองชนิดที่สามารถรับประทานสดได้ด้วย

ฟักทองอินทรีย์ ไร่ทองก้อน อร่อยได้หมดทั้งสดและสุก

               “การปลูกฟักทองแบบอำพันชาด ก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน การเตรียมดิน เตรียมแปลงปลูก ไม่ต้องฉีดอะไรเพื่อปรับปรุงดินเป็นพิเศษ เพราะส่วนผสมในการปรับปรุงดินอยู่ในปุ๋ย ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของเราเองอยู่แล้ว โดยฉีดพ่นให้อาหารทางใบ ไถดินเตรียมไว้ ขึ้นร่องกันน้ำท่วม ถ้าพื้นที่ปลูกเป็นพื้นที่น้ำไม่ขัง ไม่ต้องขึ้นร่อง หยอดเมล็ด ซึ่งเมล็ดพันธุ์ให้อาหารเป็นเชื้ออาบัสคูร่า 3 สายพันธุ์ เชื้อราทั้งหมด 7 สายพันธุ์ โดยเอาจุลินทรีย์สายพันธุ์เฉพาะไปคลุกกับเมล็ดพันธุ์เพื่อเป็นเชื้อที่ระบบราก เมื่อคลุกเมล็ดพันธุ์แล้วต้องลงปลูกทันที” ดร.ดำรงศักดิ์กล่าว

                  ส่วนขั้นตอนการปลูกนั้นจะปลูกหลุมละ 2 เมล็ด ระยะห่างหลุม 2 เมตร ระยะห่างร่อง 5 เมตร ระบบการให้น้ำเป็นแบบระบบน้ำหยด ข้อดีคือ ประหยัด ต้นทุนต่อไร่ประมาณ 5,000 บาท ไม่รวมปั๊มน้ำ กรณีที่รวมปั๊มน้ำก็ไม่เกิน 10,000 บาทต่อไร่ การปล่อยน้ำหยดจะซึมลงดินไปได้ 15-30 เซนติเมตร แต่การให้น้ำสปริงเกลอร์ให้น้ำในวงกว้างแต่จะให้แค่ผิวดิน หลังจากเมล็ดลงหลุม แล้วรอจนขึ้นใบ 4 ใบ 5 เริ่มให้อาหารทางใบให้ทุก 3 วัน แต่ต้องดูเรื่องยกร่องเพราะเป็นพืชที่ทนแล้ง ระยะเวลาการเก็บเกี่ยว 60 วันหลังจากลงเมล็ด ส่วนพันธุ์ฟักทองที่นำมาปลูกจะต้องเป็นพันธุ์บึงกาฬเท่านั้น เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ที่เปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลง่ายที่สุด

                 “สำหรับการรับประทานแบบสดนั้น นำมาปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นบางๆ รับประทานได้เลย หรือรับประทานควบคู่กับน้ำสลัดก็อร่อยไปอีกแบบ ส่วนการรับประทานแบบสุก ให้หั่นเป็นชิ้นแล้วนำเข้าไมโครเวฟ 3.30 นาที โรยเกลือนิดหน่อย รสที่ได้คือ ความมันหวาน หอมกลิ่นอ่อนๆ คล้ายใบเตย เนื้อเหมือนบัตเตอร์ หรือหากอยากรับประทานแบบนึ่งสุก ก็สามารถนำมาหั่นเป็นชิ้น โรยเกลือเล็กน้อย ต้มน้ำในชุดนึ่งให้เดือดพล่าน ปิดซึ้ง รอเวลาฟักทองสุก 20 นาที”

                ปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการปลูกฟักทองแบบอำพันชาดในพื้นที่แปลงสาธิตการปลูกพืชผักสวนครัว เป็นศูนย์การเรียนรู้ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ศูนย์การสุนัขทหาร จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่อง ก่อนที่จะขยายให้เกษตรกรไปปลูก สาเหตุที่ใช้พื้นที่ของเขตทหารเพื่อสะดวกในการดูแลและควบคุมง่ายซึ่งเป็นโครงการร่วมกัน ผลผลิตโดยเฉลี่ย 2-3 ตันต่อไร่ ราคา 15-20 บาทต่อกิโลกรัม ประมาณรายได้รวมประมาณ 3-4 หมื่นบาทต่อไร่ ต้นทุนการเพาะปลูกต่อไร่ ประมาณ 1 หมื่นบาท ก็จะมีกำไรประมาณ 2-3 หมื่นบาทต่อไร่ 

           

              สำหรับฟักทองบึงกาฬที่ใช้สำหรับปลูกเพื่อรับประทานสด เป็นฟักทองลูกผสมของบริษัท เจียไต๋ จำกัด  ผลเล็ก เจริญเติบโตดี ทรงต้นโป่ง ต้นแข็งแรง ขนาดใบเล็ก 1-1.5 กก. เนื้อสีเหลืองส้ม รสหวานมัน ติดผล 4-5 ผลต่อต้น เก็บเกี่ยวได้เร็ว อายุเก็บเกี่ยว 70-75 วัน

               นับเป็นอีกก้าวของวงการเกษตรไทยในการผลิตฟักทองรับประทานสด โดยใช้ปุ๋ยสูตรเฉพาะในการปรับปรุงบำรุงดินเพื่อให้ได้ฟักทองที่สามารถรับประทานสดๆ ได้ สนใจขั้นตอนการผลิตหรือสูตรปุ๋ยอินทรีย์สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.09-8598-8916 หรือ 09-5856-4878 ทุกวันไม่มีวันหยุด

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ