บิ๊กวงการค้าพลอยทั่วโลก ตบเท้าเข้าร่วมงาน ICA Congress 2019 ครั้งที่ 19 ที่กรุงเทพฯ รมช.พาณิชย์ เผย เน้น "ทับทิมสยาม" เป็นพระเอก ตอกย้ำไทยผู้ส่งออกอันดับหนึ่ง
บิ๊กวงการค้าพลอยทั่วโลก ตบเท้าเข้าร่วมงาน ICA Congress 2019 ครั้งที่ 19 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพคึกคัก รมช.พาณิชย์ ชี้ การประชุมผู้ประกอบการพลอยสีจากทั่วโลกที่กรุงเทพฯ เน้นไฮไลท์ "ทับทิมสยาม" เป็นพระเอก ตอกย้ำไทยเป็นผู้ส่งออกทับทิมอันดับหนึ่ง หนุนศักยภาพไทยเป็นฮับการค้าอัญมณีที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ หรือ GIT ร่วมกับ The International Colored Gemstone Association (ICA) จัดงาน ICA Congress 2019 ครั้งที่ 19 ที่ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 12-15 ต.ค. 2562 ณ โรงแรมแชงกรีล่า ภายใต้แนวคิด “Ruby : Eternal love” โดยมีเป้าหมายให้การประชุมครั้งนี้เป็นศูนย์รวมของผู้ประกอบการด้านพลอยสีจากทั่วทุกมุมของโลก เพื่อให้มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ไม่ว่าจะพลอยทับทิม พลอยชนิดอื่นๆ ที่มีศักยภาพทางการตลาด ซึ่งไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุม ICA Congress มากที่สุด เพราะเป็นประเทศแรกที่ได้จัดงานติดต่อกันถึง 3 ครั้ง โดยเคยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมก่อนหน้านี้มาแล้ว 2 ครั้ง คือ ในปี 1987 แล 2004 ถือเป็นการตอกย้ำศักยภาพของไทยในการเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลก
นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ได้รับเกียรติจากธุรกิจด้านอัญมณีและเครื่องประดับชั้นแนวหน้าของโลก มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ และเรื่องราวที่น่าสนใจมากมายในหัวข้อต่างๆ อาทิ หัวข้อ แหล่งมรกต และทับทิมในแอฟริกา โดย บริษัท Gemfields จำกัด หัวข้อห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมพลอยสี และการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลอยสี โดย ประธานสมาพันธ์อัญมณีและเครื่องประดับโลก (CIBJO) หัวข้อการพัฒนาและสำรวจเหมืองแร่ในไนจีเรีย โดยกรมทรัพยากรเหมืองแร่ของไนจีเรีย รวมทั้งหัวข้อเกี่ยวกับการรับผิดชอบต่อสังคมในธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ โดย The Responsible Jewellery Council หรือ RJC ซึ่งเป็นองค์การที่สนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีความพร้อมในการเข้าสู่การค้าอัญมณีและเครื่องประดับ มีความรับผิดชอบต่อสังคม และผู้มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีหัวข้อเกี่ยวกับมาตรฐานการตรวจสอบอัญมณีและเครื่องประดับเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคอีก โดย GIT ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างมาตรฐานและยกระดับการตรวจสอบอัญมณีและเครื่องประดับอีกด้วย
“ผมเชื่อมั่นว่าการประชุมในครั้งนี้จะเป็นเวทีที่ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับประโยชน์สูงสุด สามารถจัดการกับปัญหาและความท้าทายของการค้าพลอยสีของโลกและเพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานที่โปร่งใสและเชื่อถือได้ในระดับสากล และในฐานะที่ประเทศไทย โดยกระทรวงพาณิชย์ เป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดงานครั้งนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีส่วนช่วยในการสนับสนุนและส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับในระดับโลก Thailand as The World’s Gems & Jewelry Trading Hub ได้อย่างยั่งยืน” นายวีรศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ รมช.พาณิชย์ ยังได้มอบโล่เกียรติคุณให้แก่ผู้ประกอบการที่เป็นผู้ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมพลอยสีของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง จำนวน 5 ราย ได้แก่ Mr. Paolo Valetini จาก Valentini SRL ประเทศอิตาลี Mr.Polan Naftule จาก Nafcop Gems Limeted สหรัฐอเมริกา Mr. Mat Stuller จาก Stuller Inc. สหรัฐอเมริกา Mr Siu-Kee Wong จาก Chow Tai Fook สาธารณรัฐประชาชนจีน Mr.Han-Georg Wild จาก Wild Company เขตปกครองพิเศษฮ่องกง
ด้านนางดวงกมล เจียมบุตร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันไทยมีชื่อเสียงโดดเด่นด้านพลอยสี ช่างฝีมือไทยมีความประณีตและความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างชิ้นงานที่งดงาม และเป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบอัญมณี ตั้งแต่ต้นน้ำ–ปลายน้ำ อีกทั้งยังเป็นผู้นำด้านวัตถุดิบ แหล่งอัญมณี รวมถึงการวิเคราะห์ตรวจสอบที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ดังนั้น การที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งนี้ จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ของไทยในฐานะศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับในระดับโลกได้อย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน อัญมณีและเครื่องประดับไทยเป็นสินค้าสำคัญที่นำรายได้เข้าสู่ประเทศได้สูงเป็นอันดับ 3 ในบรรดาสินค้าส่งออกทั้งหมด เมื่อรวมกับมูลค่าการค้าภายในประเทศ ก่อให้เกิดเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจของประเทศถึงปีละเกือบ 1 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 6% ของจีดีพี อีกทั้งยังก่อให้เกิดการจ้างแรงงานกว่า 7 แสนคนตลอดห่วงโซ่อุปทาน และไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับราวอันดับที่ 14 ของโลก โดยในช่วง 8 เดือนของปี 2562 (ม.ค.-ส.ค) ไทยส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทย (รวมทองคำ) ด้วยมูลค่า11,452.89 ล้านเหรียญสหรัฐ (357,954.58 ล้านบาท)เหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 6.90 % ของสินค้าส่งออกโดยรวม เพิ่มขึ้น 45.81 %
ข่าวที่เกี่ยวข้อง