
เชื่อเด้งรองผู้ว่าฯขอนแก่น เซ่นหมอลำคาร์นิวัล 27.4 ล้าน
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นฯ เชื่อเด้งรองผู้ว่าฯขอนแก่น เซ่นหมอลำคาร์นิวัล 27.4 ล้าน หลังยื่นหนังสือร้อง ป.ป.ช.และ ป.ป.ท. ทวงถามเปิดข้อมูลจัดซื้อจัดจ้าง.
วันที่ 3 ต.ค.2562 - นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า คำสั่งย้ายนายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ไปเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู โดยมีผลในวันที่ 4 ต.ค.นั้น แม้ว่าจะอยู่ในช่วงวาระการโยกย้าย แต่ก็มีความไม่ปกติเนื่องจาก การย้ายรองผู้ว่าฯ เบอร์ต้น ๆ ของจังหวัดเกรดเออย่างขอนแก่น ไปดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯจังหวัดขนาดเล็ก เชื่อว่ามีวาระแอบแฝง และน่าจะเกี่ยวเนื่องกับกรณีที่มีการร้องเรียนเกี่ยวกับงานหมอลำคาร์นิวัล งบประมาณ 27.4 ล้านบาท
โดยก่อนหน้าตนได้มีหนังสือร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้มีการระงับการจ่ายเงินค่าจัดงานโครงการหมอลำคาร์นิวัล และทางจังหวัดโดยนายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม รองผู้ว่าฯ มีหนังสือผ่านศูนย์ดำรงธรรมมาถึงตนว่า ได้มีการแจ้งให้สำนักวัฒนธรรมจังหวัดตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่ง ในกรณีไม่มีความน่าเชื่อถือ ตั้งให้คนที่ถูกกล่าวหามาสอบตัวเอง จึงไม่ชอบธรรมและไม่เป็นธรรม ประกอบกับในการร้องเรียนหรือระหว่างการสอบสวน ได้ขอให้มีการพักงานหรือย้าย ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมีส่วนได้เสีย เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในสอบสวน
นายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม ในวันแถลงข่าวหมอลำคาร์นิวัล
นายตุลย์ ยังได้ทวงถามถึงความคืบหน้าการดำเนินการสอบสวนไต่สวน ของ ป.ป.ช. และป.ป.ท. เพราะยังไม่มีความคืบหน้า ขณะมีกระแสข่าวออกมาว่า มีการเบิกจ่ายเงินจัดจ้างนี้ไปให้กับผู้รับเหมาไปแล้ว ซึ่งถ้าหากมีการจ่ายไปแล้ว การเบิกจ่ายเงินคณะกรรมการกำลังสอบสวนจะเบิกเงินมาจ่ายค่ารับเหมาไม่สมควรจะทำ
"เพราะว่าตราบใดที่การสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ไม่มีการไต่สวน ถ้ามีการไปเบิกจ่ายเงินก่อนจะทำให้รัฐเสียหาย เมื่อมีคนยื่นหนังสือคัดค้านไปแล้วว่า การดำเนินการตั้งแต่ต้นไม่ชอบและไม่สุจริต มีพฤติการณ์ฉ้อฉล ส่อไปในทางมิชอบ ถ้าไปเบิกให้ครู่สัญญาเท่ากับว่า เป็นการไม่รับฟังฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย เพราะฉะนั้น ปปช.และปปท.ต้องไม่ยินยอม ตามที่เราร้องเรียนไป"นายตุลย์ กล่าว
จนถึงขณะนี้ตนมองว่า ผู้มีอำนาจสูงสุดในจังหวัด ยังคงต้องรับผิดชอบ ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด รวมไปถึงผู้บังคับบัญชาในระดับรัฐบาล คือรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย เพราะงบประมาณที่นำมาใช้ที่ถือว่าไม่สมเหตุสมผลนี้ เป็นงบประมาณของแผ่นดิน มาจากภาษีของประชาชน แม้จะเป็นงบในกลุ่มจังหวัดก็ตาม
เพราะขณะนี้ประชาชนทวงถามมากว่า ทางการได้มีการดำเนินการไปถึงไหนแล้ว จะมีคนผิดหรือไม่ และงบประมาณของแผ่นดินจะได้กลับมาใช้ประโยชน์ให้กับประเทศชาติให้กับประชาชนอย่างแท้จริงเมื่อไหร่ เพราะแม้แต่ที่บอกว่าค่าจ้างคนมาร่วมขบวนแห่ คนละ 500 บาท แต่จากข้อมูลที่ได้นั้น บอกว่าได้คนละ 300 บาท แต่ถูกหักค่าอาหารไป 100 บาท จึงเหลือค่าแรงจริงแค่ 200 บาท เช่นเดียวกับ เด็กนักเรียน โรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ก็ยังได้รับค่าแรงแค่ 100 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่เป็นธรรมกับคนที่มาร่วมงาน
นายตุลย์ ยังกล่าวว่า ทางองค์กรจะยังคงเดินทางทวงถามและขอให้มีการตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริง ถึงความไม่เหมาะสมกับการใช้งบประมาณนี้ต่อไป จากนี้ไปคณะกรรมการขององค์กรจะไปยื่นขอข้อมูลจัดซื้อจัดจ้าง หรือทีโออาร์ กับวัฒนธรรมจังหวัด เพราะข้อมูลนี้เป็นหลักฐานที่ประชาชนมีสิทธิที่จะรู้ได้ ว่ามีการทำทุกอย่างถูกต้อง ซึ่งข้อมูลนี้ต้องเปิดเผยตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่ปรากฏว่า ข้อมูลเหล่านี้ถูกปกปิดเอาไว้ เพราะมีข้อมูลว่า แม้แต่การแถลงข่าวยังมี 2 ครั้ง แต่ละครั้งใช้งบประมาณมากกว่า 6 แสนบาท ซึ่งสูงจนเกินเหตุ ดังนั้น ข้อมูลที่แท้จริงก็ควรจะได้รับการเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบด้วย
ขอนแก่น -ข่าวและภาพโดย จิติมา จันพรม